อดีตเลขาธิการฟีฟ่ากลายเป็นคนที่ถูกลงโทษหนักที่สุดนานถึง 12 ปี ในการกวาดล้างทุจริตภายในองค์กรครั้งใหญ่

คณะกรรมการอิสระด้านจริยธรรมของฟีฟ่า ประกาศลงโทษ เจโรม วัลช์เค อดีตเลขาธิการทั่วไปของฟีฟ่าสถานหนัก ด้วยการห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลเป็นเวลายาวนานถึง 12 ปีเลยทีเดียว จากความผิดฐานใช้ข้อมูลภายในเพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตัว มีผลประโยชน์ทับซ้อน และรับสินบน

ก่อนหน้านี้ มีการคาดหมายกันว่า วัลช์เค อาจถูกแบนเป็นเวลา 9 ปี และปรับเป็นเงิน 100,000 ฟรังก์สวิส (ราว 3.6 ล้านบาท) แต่ทางองค์คณะตัดสินข้อพิพาทได้พิจารณาเพิ่มโทษแบนยาวเป็น 12 ปี  ส่วนค่าปรับยังยืนตามจำนวนเดิม ซึ่งทำให้เขากลายเป็นเจ้าหน้าที่ฟีฟ่าที่ถูกแบนยาวนานที่สุดในกระบวนการกวาดล้างทุจริตครั้งนี้ แซงหน้าเซปป์ แบล็ตเตอร์ และ มิเชล พลาตินี ที่ถูกแบนคนละ 8 ปี

"วัลช์เคพยายามอย่างเต็มที่ในการขัดขวางกระบวนการโดยการลบหรือพยายามลบไฟล์จำนวนหนึ่ง" ฟีฟ่าระบุในแถลงการณ์

"ระหว่างการสืบสวน ยังมีความพยายามกระทำความผิดเพิ่มเติม อาทิเช่นละเมิดนโยบายและข้อกำหนดเกี่ยวกับค่าเดินทางของฟีฟ่า, เข้าไปเกี่ยวข้องกับการซื้อขายลิขสิทธิ์ทีวีและสื่ออื่น ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดี รวมไปถึงการทำลายหลักฐาน"