หลุยส์ เอ็นรีเก้ กุนซือ บาร์เซโลน่า ระบุรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับยอดแข้งอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ พร้อมชี้ตอนนี้ทีมตนคุมสถานการณ์ลุ้นแชมป์ ลา ลีกา แล้ว หลังบุกสอย สปอร์ติ้ง กิฆอน 3-1

หลุยส์ เอ็นรีเก้ เทรนเนอร์ บาร์เซโลน่า เปิดเผยว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับ ลิโอเนล เมสซี่ ยอดกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ หลังจากที่ เมสซี่ เหมาทำคนเดียว 2 ประตู ช่วยทีมบุกไปเอาชนะ สปอร์ติ้ง กิฆอน 3-1 เมื่อวันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ ดาวเตะวัย 28 ปี กลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ ลา ลีกา สเปน ที่สามารถทำประตูได้ถึงหลัก 300 ลูก

เกมนี้ บาร์ซ่า ขึ้นนำก่อน 1-0 จากการยิงของ เมสซี่ นาทีที่ 25 แต่หลังจากนั้นเพียง 2 นาที คาร์ลอส กาสโตร ก็ทำสกอร์ให้เจ้าถิ่นตีเสมอเป็น 1-1 อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 31 เมสซี่ คนเดิมก็ซัดให้ทีมเยือนขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 ซึ่งถือเป็นประตูเกมลีกลูกที่ 301 ของเจ้าตัวในการเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า

จากนั้นนาทีที่ 62 บาร์เซโลน่า มาได้ลูกจุดโทษ แต่ หลุยส์ ซัวเรซ ยิงไปติดเซฟของ อีบัน กูเอย่าร์ นายทวาร สปอร์ติ้ง คิฆอน กระนั้นอีก 5 นาทีต่อมา ซัวเรซ แก้ตัวได้สำเร็จ เมื่อมายิงประตูให้ บาร์ซ่า ขึ้นนำ 3-1 และถือเป็นประตูย้ำชัยในเกมนี้

"การได้ร่วมงานกับ เลโอ ถือเป็นเกียรติเสมอ" นายใหญ่แห่งถิ่น คัมป์ นู ระบุ "มันไม่สำคัญหรอกว่า ทีมคู่แข่งจะเล่นแบบไหน ผมคิดว่า เกมนี้เราเป็นฝ่ายควบคุมเกมได้ และสร้างโอกาสเข้าทำประตูได้อย่างมากมาย ถึงแม้เราต้องเจอกับปัญหาอย่างหนักเมื่อต้องมาเจอกับทีมคู่แข่งที่มาเน้นรับแบบนี้"

ชัยชนะนัดนี้ทำให้ยอดทีมแห่งแคว้นกาตาลุนย่าหนี แอตเลติโก มาดริด ทีมรองจ่าฝูง เป็น 6 แต้ม ซึ่ง เอ็นรีเก้ ก็มองว่า ตอนนี้ บาร์เซโลน่า เป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์การลุ้นแชมป์แล้ว "ตอนนี้เราขึ้นมาอยู่ในจุดที่เราต้องการแล้ว และทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับเราเอง"