ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ เจ้าของ เอซี มิลาน เปิดใจกับการทุ่มทุนสร้าง "ปีศาจแดงดำ" ให้ยิ่งใหญ่จนทุกวันนี้ ระบุพร้อมจ่ายเงินไม่อั้นเพื่อทำให้ทีมแข็งแกร่ง หลัง 30 ปีที่ผ่านมาควักกระเป๋าไปเกือบ 1,000 ล้านปอนด์ บอกในยุคของตนทีมประสบความสำเร็จเหลือล้นทั้งคว้าแชมป์เป็นกอบเป็นกำ แถมแฟนบอลก็มีเพียบทั่วโลก

          ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ ประธานสโมสร "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ออกมาเผยว่าตนใช้เงินไปเกือบ 1,000 ล้านปอนด์ (ราว 53,000 ล้านบาท) ในช่วงระยะเวลา 30 ปีที่ทำหน้าที่บริหารยอดทีมแห่งถิ่นซาน ซิโร่

 
          นักธุรกิจวงการสื่อเลือดมะกะโรนี กระโดดเข้ามาครอบครอง มิลาน เมื่อปี 1986 โดยตลอดระยะเวลาที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จเขานำ "รอสโซเนรี่" คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) 5 สมัย (จากทั้งหมด 7 สมัย) นอกจากนี้ แบร์ลุสโคนี่ ยังทุ่มทุนสร้างทีมด้วยการดึงนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกหลายคนมาร่วมทัพด้วย

 
          อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี เปิดใจว่า "ถ้าผมจะให้คะแนนตัวเองจาก 10 คะแนนเต็ม ผมคงให้ตัวเอง 11 คะแนนสำหรับความสำเร็จที่ผ่านมา พวกเขามีช่วงเวลา 30 ปีที่สุดแสนอัศจรรย์ เราคว้าแชมป์ได้มากกว่าทีมอื่นๆ เรามีแฟนบอลกว่า 363 ล้านคนทั่วโลก และเหนือสิ่งอื่นใด มิลาน ได้ตอบแทน และเติมเต็มหัวใจของทุกๆ คนให้มีความสุข"

 
          ขณะเดียวกัน แบร์ลุสโคนี่ ยอมรับว่าการเอาชนะ สเตอัว บูคาเรสต์ 4-0 และนำไปสู่การคว้าแชมป์ถ้วยใบโตยุโรปครั้งแรกในยุคของเขา เป็นเรื่องที่ไม่มีวันลืมเลือนได้เลย "การชนะ สเตอัว บูคาเรสต์ 4-0 ทำให้ผมได้แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ครั้งแรกเป็นเรื่องที่ไม่มีวันลืมได้เลย ผมยังจดจำภาพที่แสนน่าตื่นเต้นได้ทั้งหมดที่สนามคัมป์ นู ซึ่งปกคลุมไปด้วยธงสีดำ-แดงเต็มไปหมด"

 
          ทั้งนี้ แบร์ลุสโคนี่ ได้สร้างเรื่องที่สุดช็อกวงการลูกหนัง เมื่อเขาทุ่มเงินเป็นสถิติโลกหลังควักกระเป๋าจำนวน 5.6 ล้านปอนด์ (ราว 296 ล้านบาท) เพื่อซื้อ รุด กุลลิท มาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในปี 1987 จากนั้นก็ทุ่มเงินอีก 13 ล้านปอนด์ (ราว  689 ล้านบาท) ให้ โตริโน่ เพื่อปล่อยตัว จานลุยจิ เลนตินี่ มาร่วมทัพ ในปี 1992

 
          อย่างไรก็ตาม เลนตินี่ ติดอันดับ 15 สำหรับนักเตะที่ แบร์ลุสโคนี่ ทุ่มเงินซื้อ เพราะหลังจากนั้นเขายังทุ่มทุนไม่อั้นเพื่อคว้าตัว มานูเอล รุย คอสต้า มาจากฟิออเรนติน่า ด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์ (ราว 1,802 ล้านบาท) ในปี 2001 ตามด้วย อันเดรีย ปีร์โล่ 14.5 ล้านปอนด์ (ราว 768.5 ล้านบาท) และ คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ 18.1 ล้านปอนด์ (ราว  959 ล้านบาท) จากอินเตอร์ มิลาน

 
          กระนั้นการใช้เงินที่คุ้มค่าที่สุดของ แบร์ลุสโคนี่ คงหนีไม่พ้นการที่เขาจ่ายค่าตัว มาร์โก แวน บาสเท่น ให้อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เพียง 470,000 ปอนด์ (ราว 24 ล้านบาท) ในปี 1987 แต่นักเตะสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงจนกลายเป็นตำนานในทุกวันนี้
 
 
          10 อันดับค่าตัวที่แพงที่สุดในการย้ายมาเล่นให้ เอซี มิลาน

          1. มานูเอล รุย คอสต้า จาก ฟิออเรนติน่า ปี 2001   34 ล้านปอนด์ (ราว 1,802 ล้านบาท)
          2. ฟิลิปโป้ อินซากี้ จาก ยูเวนตุส ปี 2001   29.7 ล้านปอนด์  (ราว 1,574 ล้านบาท)
          3. อเลสซานโดร เนสต้า จาก ลาซิโอ ปี 2002  24.2 ล้านปอนด์ (ราว 1,282 ล้านบาท)
          4. โรนัลดินโญ่ จาก บาร์เซโลน่า ปี 2008   19.5 ล้านปอนด์ (ราว 1,033 ล้านบาท)
          5. อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ จาก ปาร์ม่า ปี 2005                 19.5 ล้านปอนด์ (ราว 1,033 ล้านบาท)
          6. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช จาก บาร์เซโลน่า ปี 2010  19.4 ล้านปอนด์ (ราว 1,028 ล้านบาท)
          7 อันเดร เชฟเชนโก้ จาก ดินาโม เคียฟ ปี 1999  18.5 ล้านปอนด์ (ราว 980 ล้านบาท)
          8. คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ จาก อินเตอร์ มิลาน ปี 2002  18.1 ล้านปอนด์ (ราว  959 ล้านบาท)
          9. อเล็กซานเดร ปาโต้ จาก อินเตอร์นาซิอองนาล ปี 2007 17.75 ล้านปอนด์ (ราว 940 ล้านบาท)
          10. มาริโอ บาโลเตลลี่ จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปี 2013   16 ล้านปอนด์  (ราว 848 ล้านบาท)