"เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกคัพได้เป็นสมัยที่ 4 ในประวัติศาสตร์สโมสร เมื่อเป็นฝ่ายเอาชนะจุดโทษ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล 3-1 หลังในเวลาเสมอกัน 1-1 ในการแข่งขันฟุตบอลแคปิตอล วัน คัพ รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

 

การแข่งขันฟุตบอลแคปิตอล วัน คัพ รอบชิงชนะเลิศ

วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559

ลิเวอร์พูล 1-1 แมนฯ ซิตี้

(ต่อเวลาพิเศษเสมอกัน 1-1, แมนฯ ซิตี้ ชนะจุดโทษ 3-1)

สนาม: เวมบลีย์

          เริ่มเกมมา 8 นาที แมนฯ ซิตี้ ทักทายก่อนจากลูกฟรีคิก แฟร์นันดินโญ่ ได้ลองส่องด้วยขวาจากหน้าเขตโทษแต่บอลยังโด่งข้ามคาน

          ทีมเรือใบพลาดโอกาสทองนาที 23 ดาบิด ซิลบา จ่ายจากกลางสนามให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ หลุดไปหน้าเขตโทษก่อนล็อกเข้ากลางแล้วซัดด้วยขวาในเขตโทษ ซิมง มิโยเล่ต์ ต้องพุ่ง

ไปปัดชนเสากระดอนออกมาอย่างหวุดหวิด

          ลิเวอร์พูล ต้องเปลี่ยนตัวนาที 25 มามาดู ซาโก้ เจ็บเล่นต่อไปไม่ไหวต้องส่ง โคโล่ ตูเร่ ลงมาเล่นแทน

          ทีมหงส์แดงเกือบขึ้นนำนาที 27 โรเบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ได้กลับด้วยตัวยิงด้วยซ้ายบนเส้นเขตโทษแต่บอลโด่งออกไปไม่ได้ลุ้น

          ลิเวอร์พูลได้ลุ้นอีก นาที 33 เมื่อได้ฟรีคิกบริเวณเขตโทษฝั่งซ้าย ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตูบอลหลุดออกหลังฝั่งขวาไปหวุดหวิด

          แมนฯ ซิตี้ ได้โอกาสบ้างนาที 35  ซิลบา จ่ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ลากไปกดด้วยขวาหน้าเขตโทษแต่บอลไปโดนกองหลังลิเวอร์พูลบล็อกไว้ได้ ปลายครึ่งแรกทั้งสองฝ่ายผลัด

กันบุกแต่ไม่มีจังหวะยิงจะจะ จบครึ่งแรกยังไม่มีประตู

          เปิดครึ่งหลังมานาที 47 แมนฯ ซิตี้ ทักทายก่อน ซิลบา ตักบอลให้ อเกว์โร่ หลุดเข้าไปยิงมุมแคบ แต่ไม่ตรงกรอบ

          ทีมเรือใบมาขึ้นนำนาที 48 ซิลบา ฝากบอลให้ อเกว์โร่ ดีดต่อให้ แฟร์นานดินโญ่ ที่แล่บขึ้นมายิงมุมเคบอัดเข้าไป แมนฯ ซิตี้ นำ 1-0

          ลิเวอร์พูล เกือบตีเสมอนาที 55 ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ไหลบอลให้ เจมส์ มิลเนอร์ หลุดเข้าไปยิง แต่ไม่เข้ากรอบ

          แมนฯ ซิตี้ น่าได้อีกเม็ดนาที 58 ยาย่า ตูเร่ ถ่ายบอลออกให้ ซิลบา ตบกลับมาตรงกลางให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แปโล่งๆ แต่ดันเฉียดเสานิดเดียว

          แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสนาที 65 จากลูกฟรีคิก ซิลบา ลองซัดโค้ง แต่บอลข้ามคานออกไป

          ทีมเรอือใบลุยมาอีกนาที 68 สเตอร์ลิ่ง ฝากบอลให้ อเกว์โร่ พลิกยิง แต่โดน มิโยเล่ต์ นอนรับไว้ได้

          แมนฯ ซิตี้ หวิดได้ลูกฝังนาที 80 อเกว์โร่ ผ่านบอลจากริมเส้นเข้ากลางให้ สเตอร์ลิ่ง ตวัดยิง แต่บอลหลุดเสาสองออกไป

          ลิเวอร์พูล มาตีเสมอนาที 83 สเตอร์ริดจ์ ปาดบอลจากกราบขวามาถึงเสาสอง ลัลลาน่า ยิงไปชนเสา กระเด้งมาเข้าทาง คูตินโญ่ ซ้ำเข้าไป เสมอกัน 1-1

          แมนฯ ซิตี้ เกือบนำอีกครั้งนาที 85 กาแอล กลิชี่ ผ่านบอลเข้ากลาง บอลมาถึง แฟร์นานโด ชาร์จเผาขน แต่ติดเซฟ มิโยเล่ต์ จบเกมเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลา

          เข้าสู่ช่วงต่อเวลา แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนตัว 2 คนรวดถอดเอา บาการี่ ซาญ่า และ แฟร์นานโด ออกให้ ปาโบล ซาบาเลต้า และ เฆซุส นาบาส ลงมาแทน

          ช่วง 10 นาทีแรกทั้งคู่เล่นกันแบบระมัดระวังตัว แทบจะไม่มีโกอาสเสียวเลย แมนฯ ซิตี้ เกือบได้ประตูนาที 104 อเกว์โร่ หลุดทะลุเข้าเขตโทษ ก่อนจะยิงแบบดีดๆ แต่ติดเซฟ มิ

โยเล่ต์

          ทีมหงส์แดงมีโอกาสนาที 108 มิลเนอร์ ยกบอลเขากลางให้ โอริกิ เขกจังๆ แต่ตรงตัว วิลลี กาบาเยโร่

          ทีมเรือใบเกือบได้นาที 112 มิลเนอร์ โหม่งคืนประตูไม่ดี เข้าทาง อเกว์โร่ ยิงทันที แต่บอลข้ามคาน

          จบเกมเสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ และเป็น "เรือใบ" แมนฯ ซิตี้ ที่เป็นฝ่ายทำได้ดีกว่าเอาชนะไป 3-1 คว้าแชมป์ลีกคัพ สมัยที่ 4 ไปครอง

 

          รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
          ลิเวอร์พูล: ซิมง มิโยเล่ต์ - นาธาเนี่ยล ไคลน์ , ลูคัส เลว่า , มามาดู ซาโก้ (โคโล ตูเร่ น.24) , อัลเบร์โต้ โมเรโน่ (อดัม ลัลลาน่า น.71) - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , เจมส์ มิลเนอร์ , เอมเร่ ชาน , โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (ดิวอค โอริกิ น.79) , ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
          สำรองไม่ได้ใช้: อดัม บอกดาน  ,คริสติยอง เบนเตเก้ , โจ อัลเลน , จอน ฟลานาแกน
           แมนฯ ซิตี้: วิลลี่ กาบาเยโร่ - บาการี่ ซาญ่า (ปาโบล ซาบาเลต้า น.91) , แวงซอง กองปานี , นิโกลัส โอตาเมนดี้ , กาแอล กลิชี่ -  แฟร์นานดินโญ่ , แฟร์นานโด (เฆซุส นาบาส น.91) - ยาย่า ตูเร่ , ดาบิด ซิลบา (วิลฟรีด โบนี่ น.109) , ราฮีม สเตอร์ลิ่ง - เซร์คิโอ อเกวโร่
          สำรองไม่ได้ใช้: โจ ฮารืท , อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ , มาร์ติน เดมิเคลิส , เคเลชี่ อิเฮียนาโช่

         ผู้ตัดสิน : ไมเคิล โอลิเวอร์