"บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กลับถึงไทย พร้อมรุดหน้าเยี่ยมชมการทดสอบสมรรถภาพร่างกายของผู้ตัดสิน ที่สนามกองทัพบกทันที วาง 3 แนวทางพัฒนาผู้ตัดสินไทย 1. ต้องพัฒนาสมรรถภาพร่างกายของผู้ตัดสิน ใครไม่ผ่านความฟิตตามเกณฑ์มาตรฐานต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะทดสอบผ่านเกณฑ์ 2. ต้องจัดหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ 3. ต้องพัฒนาคุณภาพผู้ตัดสิน ทางด้านองค์ความรู้ กฎกติกาใหม่ๆ และการแก้ปัญหา การตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ ต้องนำมาศึกษา และจะต้องมีการทดสอบเป็นระยะๆ ขณะที่ ถนอม บริคุต ฮือฮา คัมแบ็กด้วย ยันร่างกายพร้อมลุย หากกลับมาเชื่อว่าสามารถสร้างสีสันให้กับวงการได้แน่

เมื่อเวลา 06.00 น. วันอาทิตย์ที่ 28 ก.พ. 59 คณะกรรมการผู้ตัดสินสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้จัดให้มีการทดสอบสมรรถภาพร่างกายของผู้ตัดสิน ที่สนามกีฬากองทัพบก โดยมีผู้ตัดสินทั้งรุ่นเก่า รุ่นใหม่ รวมกว่า 200 ชีวิต ผู้ตัดสินชาย 197 ท่าน และผู้ตัดสินหญิง 3 ท่าน ซึ่งมีผู้ตัดสินชื่อดังอย่าง ถนอม บริคุต รวมถึง ชัยยะ มหาปราบ ฯลฯ มาร่วมการเทสต์ในครั้งนี้

ทั้งนี้ นอกเหนือจากจะมี "เปาอั๋น" ผศ.ดร.ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ ผู้อำนวยการสถาบันผู้ตัดสินแห่งชาติ และประธานฝ่ายประเมินผู้ตัดสิน รวมถึงคณะทำงานแล้วนั้น ยังมี มร.นาธาน วิทยากรจากเอเอฟซีชาวสิงคโปร์ เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย

ขณะเดียวกัน ในการเทสต์ร่างกายครั้งนี้ยังมี "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่เพิ่งเดินทางกลับจากร่วมประชุมสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ที่นครซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถึงประเทศไทยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เดินทางไปยังสนามกีฬากองทัพบกต่อทันที เพื่อร่วมดูการทดสอบผู้ตัดสินอย่างใกล้ชิด

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ สิ่งที่ผมให้ความสำคัญมากก็คือวงการผู้ตัดสิน ซึ่งสืบเนื่องมาจากการทำหน้าที่ที่ไม่ถูกต้องหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากผู้ตัดสินไทยยังขาดมาตรฐาน จึงเชิญอดีตผู้ตัดสินที่มีประสบการณ์ในระดับเอเอฟซีและฟีฟ่า มาร่วมกันพัฒนาวงการผู้ตัดสินใหม่ทั้งระบบ โดยทำงานร่วมกับตัวแทนจากเอเอฟซีและฟีฟ่า วันนี้จึงเดินทางมาดูการทดสอบผู้ตัดสิน มี มร.นาธาน ตัวแทนจากเอเอฟซี เข้าร่วมประเมินการทดสอบพร้อมกับ ผศ.ดร.ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ และคณะกรรมการ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ก็หวังว่าจะเป็นการเริ่มต้นของการวางรากฐานที่ดีและพัฒนาวงการผู้ตัดสินให้มีมาตรฐานต่อไปในอนาคต ซึ่งอาจต้องใช้เวลาทำงานสักระยะ ในการประเมินผลงาน วัดผล และทดสอบ อย่างต่อเนื่องต่อไป

ทั้งนี้ แนวทางการแก้ไขปัญหากรรมการผู้ตัดสิน มีข้อสรุป  3 แนวทาง คือ 1. ต้องพัฒนาสมรรถภาพร่างกายของผู้ตัดสิน ใครไม่ผ่านความฟิตตามเกณฑ์มาตรฐานต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะทดสอบผ่านเกณฑ์ 2. ต้องจัดหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ 3. ต้องพัฒนาคุณภาพผู้ตัดสิน ทางด้านองค์ความรู้ กฎกติกาใหม่ๆ และการแก้ปัญหา การตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ ต้องนำมาศึกษา และจะต้องมีการทดสอบเป็นระยะๆ

ผศ.ดร.ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ ผู้อำนวยการสถาบันผู้ตัดสินแห่งชาติ และประธานฝ่ายประเมินผู้ตัดสิน เผยว่า ต้องยอมรับว่าผู้ตัดสินส่วนใหญ่ของเราร้างสนามไปนาน ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ทำให้เราต้องตัดสินใจไม่ใช่ระบบเดียวกับที่เอเอฟซีระบุ มีการยืดหยุ่นให้กับผู้ตัดสินในการสปรินต์ 40 เมตร และอาจจะเปลี่ยนระบบการเทสต์จาก 6 เดือนครั้ง เป็น 2 เดือนครั้งเพื่อสร้างความสม่ำเสมอให้กับการเทสต์ร่างกาย

ด้าน ถนอม บริคุต อดีตผู้ตัดสินฟีฟ่าที่ประเทศแขวนนกหวีดไปแล้ว แต่ก็ตัดสินใจกลับมาทำหน้าที่ผู้ตัดสินอีกครั้งได้กล่าวว่า ผมเตรียมตัวมาดีและพร้อมกับการเตรียมตัวในการเทสต์ครั้งนี้ โดยส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร และเชื่อว่าหากได้ลงทำหน้าที่จะสามารถสร้างสีสันให้กับวงการฟุตบอลไทยอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ จากแนวทางเดิมในการทดสอบสมรรถภาพร่างกายของผู้ตัดสิน โดยเฉพาะการวิ่งสปรินต์ระยะสั้น 40 เมตร จากเดิมที่ใช้เวลา 6.2 วินาที แต่การเทสต์ครั้งนี้ได้ขยายเวลาเพิ่มเป็น 7.5 วินาที เพื่อยืดหยุ่นให้กับผู้ตัดสินที่ห่างเหินการทำหน้าที่ไปนานนั่นเอง