"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี จะไม่มี ดิเอโก้ คอสต้า ดาวยิงตัวเก่งเนื่องจากยังบาดเจ็บ โดยจะส่ง เปโดร โรดริเกซ ลงล่าตาข่ายเกม บุกถิ่น "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ที่มี โรเมลู ลูกากู พร้อมขุดสกอร์ ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีม คืนวันเสาร์ที่ 12 มี.ค. ศกนี้

ปรีวิวฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีม

วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2559

เอฟเวอร์ตัน - เชลซี

ถ่ายทอดสด : ช่อง 7 (เวลา 00.30 น.)

สนาม : กูดิสัน พาร์ค

        เอฟเวอร์ตัน ของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ เสียท่าแพ้ เวสต์ แฮม 2-3 คาถิ่น เมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งๆที่นำไปก่อน 2-0 แท้ๆ

        ทีมทอฟฟี่ บุกไปอัด บอร์นมัธ 2-0 รอบที่ผ่านมา ทำให้ฉลุยมาถึงรอบนี้ได้สำเร็จ แต่ก็ต้องชน เชลซี ทีมเต็ง

        ความพร้อมเกมนี้ทีมจะขาด เควิน มิรัลลัส ที่ติดโทษแบน หลังเจอไล่ออกนัดล่าสุด

        นอกจากนั้นยังขาด ไบรอัน โอเวียโด้ ที่ติดเชื้อที่หน้าอก ด้าน อารอน เลนน่อน ต้องรอเช็กอาการเจ็บกล้ามเนื้อหลังเข่า

        ขณะที่รายของ แกเร็ธ แบร์รี่ และ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ต้องรอเช็กอาการป่วยที่ทำให้ไม่มีชื่อนัดที่แล้ว

        ในส่วนของตัวดังคนอื่นๆอย่าง ฟิล จากีลก้า , รามิโร่ ฟูเนส โมรี่ , เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์ , รอสส์ บาร์คลี่ย์ และ โรเมลู ลูกากู พร้อมรบทั้งหมด

        กุส ฮิดดิ้งค์ กุนซือ เชลซี นำทีมแพ้ เปแอสเช 1-2 คาถิ่น ตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปแล้ว เมื่อกลางสัปดาห์

        ทีมสิงโตน้ำเงินครามไล่ต้อน แมนฯ ซิตี้ ที่ใช้สำรองลงเล่นบาน 5-1 ในรอบที่แล้ว ผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ได้ง่ายๆ โดย เอฟเอ คัพ เป็นถ้วยสุดท้ายของทีมแล้วที่ยังมีลุ้นอยู่

        สภาพทีมนั้นต้องเสียทั้ง ดิเอโก้ คอสต้า และ เอเดน อาซาร์ ที่เจ็บโดนเปลี่ยนตัวออกจากเกมยุโรปทั้งคู่ โอกาสลงเล่นเกมนี้มีไม่มากนัก

        ตำแหน่งของ คอสต้า อาจจะให้ เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ ยืนกองหน้าแทน ส่วนแผงกลางจะให้ ออสการ์ ลงมาเปิดเกมรุก

        รายของ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเจ็บไม่ได้ลงเล่นมาจะเดือนนึงแล้ว ล่าสุด กุส ฮิดดิ้งค์ ออกมายืนยันว่าจะส่งชื่อลงเกมนี้แต่น่าจะได้นั่งเป็นสำรอง

        การวางหมากยังคงเน้นวางทีมชุดแกร่งลงเล่นนำโดย ติโบ กูร์กตัวส์ , เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า , เชส ฟาเบรกาส , วิลเลี่ยน และ เปโดร โรดริเกซ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เอฟเวอร์ตัน : โจเอล - เชมัส โคลแมน , รามิโร่ ฟูเนส โมรี่ , ฟิล จากีลก้า , เลห์ตัน เบนส์ - แกเร็ธ แบร์รี่ , เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์ - ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ , รอสส์ บาร์คลี่ย์ , อารอน เลนน่อน - โรเมลู ลูกากู

        เชลซี : ติโบ กูร์กตัวส์ - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , แกรี่ เคฮิลล์ , เคเนดี้ - จอห์น โอบี มิเคล , เชส ฟาเบรกาส - วิลเลี่ยน , ออสการ์ , เปโดร โรดริเกซ - เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่

        ผู้ตัดสิน : ไมเคิล โอลิเวอร์

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- เอฟเวอร์ตันเป็นฝ่ายเข้ารอบจากหนล่าสุดที่คู่นี้เจอกันในเอฟเอ คัพ โดยชนะจุดโทษในรอบ 4 นัดรีเพลย์ ปี 2011
- อย่างไรก็ตาม เชลซีเป็นฝ่ายชนะ 6 จาก 9 ครั้งหลังสุดที่คู่นี้เจอกัน รวมถึงนัดชิงชนะเลิศเมื่อปี 2009 ที่เวมบลีย์ด้วย (2-1)
- เอฟเวอร์ตันยิงได้อย่างน้อย 3 ประตูจาก 2 เกมหลังสุดที่เปิดบ้านพบเชลซี รวมถึงชัยชนะ 3-1 ในพรีเมียร์ลีกต้นฤดูกาล
- สิงห์บลูส์เป็นฝ่ายเข้ารอบจาก 4 ครั้งหลังสุดที่เล่นเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ และคว้าแชมป์ได้ 3 ครั้งจากโอกาสดังกล่าว (2009, 2010, 2012)
- ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เล่นรอบนี้เป็นครั้งที่ 4 จาก 5 ฤดูกาล โดยผ่านเข้ารอบในปี 2012 แต่ตกรอบโดยแพ้ต่อวีแกน ปี 2013 และอาร์เซน่อล ปี 2014 ซึ่งทั้งสองทีมคว้าแชมป์ในบั้นปลาย
- เชลซียิงได้ 7 จาก 8 เกมเยือนหลังสุดในเอฟเอ คัพ โดยทำได้ 20 ประตูในช่วงดังกล่าว
- ทีมของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ แพ้ 3 จาก 4 เกมหลังสุดที่เล่นในบ้านรวมทุกรายการ รวมถึงเกมพ่ายเวสต์แฮม 2-3 ทั้งที่นำก่อน 2 ประตูเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- ทีมของ กุส ฮิดดิ้งค์ ชนะรวด 2 เกมหลังที่เล่นนอกบ้านในทุกรายการ และด้วยสกอร์ 2-1 ทั้งหมด