ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » แชมป์กลุ่ม!ไทยลั่นบุกสู้บู๊อิรัก-ไม่หวั่นสถิติเป็นรอง

แชมป์กลุ่ม!ไทยลั่นบุกสู้บู๊อิรัก-ไม่หวั่นสถิติเป็นรอง

Posted 24/03/2016 by siamsport

ขุนพล "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ยังยึดระบบเดิม 4-3-3 "เจ้าโน้ต" จักรพันธ์ แก้วพรม กองกลางที่คัมแบ็กกลับมาติดทีมชาติน่าเป็นตัวสำรองไปก่อน เพราะกองกลางลงล็อกแล้ว สารัช อยู่เย็น บัญชาเกมแดนกลางร่วมกับ ปกเกล้า อนันต์ และ ชนาธิป สรงกระสินธ์, เกมรับปรับให้ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ คุมด่านสุดท้ายกับ กรวิทย์ นามวิเศษ โดยมี ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายสวมปลอกแขนกัปตันทีม ขณะที่ 3 ประสานแนวรุกอาจได้เห็น "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ออกสตาร์ตเป็นหน้าเป้าสถิติเก่าพบกันไทยเป็นรอง อิรักชนะ 8 นัด ส่วนไทยเฮแค่ 2 เจ๊าอีก 4 นัด ช่องOne 31 ยิงสด 24 มี.ค. 59 เวลา 21.00 น.

 

        วิศรุต มีบำรุง และ กิตติ ทัพมาลัย ผู้สื่อข่าวและช่างภาพนสพ.สยามกีฬา บก.ฟุตบอลสยาม ร่วมงานรายงานสดความเคลื่อนไหวของทีมลูกหนัง "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ในการเตรียมทีมสู้ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง นัดสุดท้าย กลุ่มเอฟ ที่จะต้องบุกไปเยือนอิรัก แข่งขันที่สนามกลางประเทศอิหร่าน แข่งขันวันที่ 24 มี.ค. 59 ตรงกับเวลาไทย 21.00 น. โดยช่องOne 31 จะทำการถ่ายทอดสดให้แฟนบอลไทยได้ชมพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่เวลา 20.20 น. เป็นต้นไป

 

        ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 23 มี.ค. 59 ได้มีการแถลงความพร้อมของทั้งสองทีมระหว่างอิรักและไทย ที่สมาคมฟุตบอลแห่งชาติอิหร่าน ตามเวลาท้องถิ่น 11.00 น. โดยทีมชาติไทยมีทางด้าน พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ผู้จัดการทีม พร้อมด้วย "โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ และ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตูจอมเก๋า ที่ตรงกับวันคล้ายวันเกิดในวัย 34 ปี ร่วมแถลงข่าวโดยชุดแข่งขันทีมชาติไทยจะสวมชุดสีน้ำเงิน, ผู้รักษาประตูใส่ชุดสีส้ม ส่วนอิรักจะใส่ชุดสีเขียว ส่วนผู้รักษาประตูใส่สีแดง


      11 ตัวแรกของไทยยังใช้ชุดเก่ง-คาด "โน้ต" สำรอง


        ทีมชาติไทยภายใต้การนำทัพของ "โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ทีมชาติไทยที่คาดว่ายังคงจัดผู้เล่น 11 ตัวแรกในระบบถนัด คือ 4-3-3 ซึ่งคาดว่าน่าจะประกอบด้วย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตู, แบ็กขวา คริสตัน สมชาย โด, แบ็กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน (กัปตันทีม) คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ กรวิทย์ นามวิเศษ และ ธนบูรณ์ เกษารัตน์, กองกลาง 3 ราย สารัช อยู่เย็น, ปกเกล้า อนันต์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, กองหน้า 3 ราย เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, ธีรศิลป์ แดงดา, มงคล ทศไกร ส่วนในรายของ "เจ้าโน้ต" จักรพันธ์ แก้วพรม กองกลางที่กลับมาติดทีมชาติจะยังออกสตาร์ตเป็นตัวสำรอง


        สำหรับผู้เล่นคนอื่นๆ ที่น่าจะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวสำรองของทีมชาติไทย ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู 2 ราย สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, สมพร ยศ , ผู้เล่น สุทธินันท์ พุกหอม, ประทุม ชูทอง, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, ประกิต ดีพร้อม, จักรพันธ์ แก้วพรม, สรรวัชญ์ เดชมิตร, ศราวุฒิ มาสุข, อดิศักดิ์ ไกรษร และ ธนา ชะนะบุตร


        โดยหากรายชื่อ 11 ตัวแรกไม่พลิกโผตามที่คาดไว้ ก็จะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงแค่ 2 รายจากเกมเลกแรกที่ไทยเสมออิรัก 2-2 เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2015 โดยเกมนั้นมี สุทธินันท์ พุกหอม และ สรรวัชญ์ เดชมิตร ที่มีชื่อลงเล่นเป็น 11 คนแรก


      อิรักไม่ฟูล! ไร้ปีกจากเอไอเคสวีเดน


        ขณะที่ ยาห์ย่า อัลวาน กุนซือร่างอวบวัย 55 ปีของทีมชาติอิรัก ที่แม้จะได้เฮจากการที่ 3 แข้งหลักผ่านเอกสารเรื่องวีซ่าเข้าประเทศอิหร่าน อย่าง อาลี อัตนาน ปีกซ้ายตัวทีเด็ดจากอูดิเนเซ่ รวมถึง อิสมาอิล จากริเซสปอร์ และ ซาลาม ซาเคอร์ จากอัล ฟาเตห์จากลีกซาอุดีอาระเบีย แต่กระนั้นก็ยังไม่มีตัวรุกอย่าง อะหมัด ยาซีน ที่ค้าแข้งกับเอไอเคในลีกสวีเดนซึ่งมีปัญหสบาดเจ็บและได้ถอนตัวไปแล้ว


        สำหรับ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนามให้กับอิรักในเกมนี้ ประกอบด้วย ฮัตสัน ผู้รักษาประตู, อิสมาอิล, ยาซิม คารัค, อาลี อัดนาน, ยูนิส มาห์มูด (กัปตันทีม), ซาลาม ซาเคอร์, อาลี ฮุสเซน, อาลี ไฟซาล, มาดี้ คามิล, อับดุลลาเม และ ไฟซาล จาซิม


      14 เกมฟัดกันไทยสถิติเป็นรองชนะแค่ 2


        สำหรับสถิติการพบกันระหว่างอิรักกับทีมชาติไทย ในทัวร์นาเมนต์อย่างเป็นทางการที่ได้รับการรับรองจากฟีฟ่า รวมทั้งสิ้น 14 นัด อิรักชนะ 8 นัด, ไทยชนะ 2 นัด, เสมอ 4 นัด, อิรักยิงได้ 37 ประตู, ไทยยิงได้ 15 ประตู

 

      ไทยลุ้นเข้ารอบก่อนแข่ง!จอร์แดนชนะเฮเลย


        สำหรับประเด็นที่ว่าไทยจะได้เข้ารอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 โซนเอเชีย รอบ 3 หรือรอบ 12 ทีมหรือไม่อย่างไรนั้น ในตอนนี้ยังคงอยู่ในการลุ้นเหมือนเดิม แต่มีโอกาสที่จะเข้ารอบในฐานะทีมอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 4 จาก 8 กลุ่ม แบบที่เรียกกว่า 99.99 เปอร์เซ็นต์  แต่หากมีแต้มกับอิรัก (เสมอ/ชนะ) จะการันตีเข้าสู่รอบสามในฐานะทีมแชมป์กลุ่มทันที ซึ่งประเด็นนี้ได้รวมในกรณีที่คูเวตถูกปรับออกจากการแข่งขันแล้วด้วย


        โดยทีมชาติไทยยังต้องลุ้นชนะทีมอันดับสองสายใดสายหนึ่งจาก 4 สาย (สาย เอ, บี, อี และ เอช) เราจะการันตีเข้ารอบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่หากแพ้อิรักก็ยังลุ้นต่อได้ในวันที่ 29 มีนาคม ให้ทีมชาติอิรักไม่ชนะเวียดนาม ทีมชาติไทยจะเป็นแชมป์กลุ่มเช่นเดียวกัน


        ส่วนประเด็นการลุ้นผลที่วัดจาก 4 สาย (เอ, บี, อี, เอช) ซึ่งขอแค่ให้เกิดขึ้นในประเด็นเดียวจาก 11 กฎเกณฑ์ดังนี้


 1.วันที่ 24 มี.ค. 2559 กลุ่ม เอ "ยูเออีไม่ชนะปาเลสไตน์"

 2.วันที่ 24 มี.ค. 2559 กลุ่ม เอ "ซาอุดีอาระเบียไม่ชนะมาเลเซีย"

 3.วันที่ 29 มี.ค. 2559 กลุ่ม เอ "ยูเออีไม่ชนะซาอุดีอาระเบีย"

 4.วันที่ 24 มี.ค. 2559 กลุ่ม บี "จอร์แดนชนะบังกลาเทศ"

 5.วันที่ 24 มี.ค. 2559 กลุ่ม อี "ญี่ปุ่นไม่ชนะอัฟกานิสถาน"

 6.วันที่ 24 มี.ค. 2559 กลุ่ม อี "ซีเรียไม่ชนะกัมพูชา"

 7.วันที่ 29 มี.ค. 2559 กลุ่ม อี "ญี่ปุ่นไม่แพ้ซีเรีย"

 8.วันที่ 24 มี.ค. 2559 กลุ่ม เอช "อุซเบกิสถานแพ้ฟิลิปปินส์"

 9.วันที่ 29 มี.ค. 2559 กลุ่ม เอช "อุซเบกิสถานแพ้บาห์เรน"

 10.วันที่ 29 มี.ค. 2559 กลุ่ม เอช "ฟิลิปปินส์ไม่แพ้เกาหลีเหนือ"

 11.วันที่ 29 มี.ค. 2559 กลุ่ม เอช "ฟิลิปปินส์แพ้เกาหลีเหนือ" แต่ไม่เกิน 2 ประตู ส่วนอิรักชนะไทยไม่เกิน 3 ประตู

 

        โดยมีความเป็นไปได้ที่ไทยจะได้เข้ารอบอย่างเป็นทางการก่อนที่จะ ลงสนามพบอิรัก คือกฎเกณฑ์ที่น่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด คือ กลุ่ม บี "จอร์แดนชนะบังกลาเทศ" ซึ่งดูจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด โดยคู่นี้จะลงสนามแข่งขันก่อนคู่ไทย และหากผลเป็นไปตามที่คาดการณ์ก็จะทำให้ไทยได้เข้ารอบคัดเลือก รอบสามในฐานะทีมอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 4 จาก 8 สายแน่นอนแล้ว โดยที่ไม่ต้องลุ้นผลที่จะพบกับอิรักแต่อย่างใด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »