"สิงโตคำราม"อังกฤษ โชว์ลูกฮึด ทั้งที่ตามก่อนถึง 2 ประตู ก่อนพลิกแซงเอาชนะ"อินทรีเหล็ก" เยอรมัน ถึงถิ่นแบบสุดมัน 3-2 ในการแข่งขัน ฟุตบอลนัดกระชับมิตรทีมชาติ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา

ฟุตบอลนัดกระชับมิตรทีมชาติ

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2559

เยอรมัน 2-3 อังกฤษ

สนาม: โอลิมปิก สเตเดี้ยม, (เบอร์ลิน, เยอรมัน)

          ก่อนเริ่มเกมผู้เล่นทั้งสองทีมและผู้ชมในสนามได้ร่วมกันยืนสงบนิ่งไว้อาลัย เป็นเวลา 1 นาทีมให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุการก่อการร้ายในกรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันอังคารที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา

          ออกสตาร์ทมาได้แค่ 4 นาที เยอรมัน ได้โอกาสก่อน ซามี่ เคดิร่า ซัดจากริมกรอบเขตโทษบอลแฉลบ เนธาเนียล ไคลน์ แบ็คขวาของอังกฤษ ข้ามคานไป

          สิบนาทีต่อมา โอกาสของอังกฤษบ้าง แกรี่ เคฮิลล์ โยนให้กับ เดเล่ อัลลี โหม่งในกรอบเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือของ มานูเอล นอยเออร์ นายทวารจอมหนึบของเยอรมัน

          เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 17 อังกฤษ ได้โอกาสอีก เวลเบ็ค ไหลให้กับ เดเล่ อัลลี กระทุ้งด้วยขวาจากนอกเขตโทษระยะประมาณ 20 หลา บอลไม่เข้ากรอบ

          ถัดมา 10 นาที เยอรมัน น่าจะได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ เอ็มเร่ ชาน จ่ายบอลตามช่องไปให้  มาริโอ โกเมซ สอดมาตวัดยิงด้วยขวาทางกรอบเขตโทษด้านขวาบอลเสียบเสาสองเข้าไป แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ประตู โดยเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว ทำเอาแฟนบอลเจ้าบ้านเฮกันเก้อ

          อังกฤษ สวนขึ้นมาทันที มีโอกาสได้จบสกอร์ในนาทีที่ 28 จากการตะบันด้วยขวาระยะร่วม 30 หลาของจอร์แดน เฮนเดอร์สัน บอลหลุดเสาไป

          ผ่านมา 38 นาที ทัพสิงโตคำราม ดันเกมขึ้นมา ก่อนที่ อดัม ลัลลาน่า จะส่องด้วยขวาในกรอบเขตโทษบอลข้ามคานไป

          ก่อนหมดครึ่งแรกแค่ 2 นาที อินทรีเหล็ก มาได้ประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ เมซุต โอซิล ตัดบอลได้กลางสนาม ก่อนจ่ายออกซ้ายให้กับ โทนี่ โครส ลากขึ้นหน้ามา ก่อนตะบันด้วยซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายระยะประมาณ 25 หลา บอลเสียบเสาแรกเข้าไปสุดงามช่วยให้ เยอรมัน ออกนำก่อน 1-0

          นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก อังกฤษ ต้องเปลี่ยนเอา แจ็ค บัตแลนด์ ผู้รักษาประตูที่บาดเจ็บข้อเท้าขวาจนต้องหามลงเปลออกมาแล้วให้ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ลงมาเฝ้าเสาแทน หมดครึ่งแรก เยอรมัน นำก่อน 1-0 
 
          เข้าสู่ครึ่งหลัง เจ้าถิ่นส่ง โยนาธาน ทาห์ ปราการหลังดาวรุ่งลงประเดิมสนามเป็นเกมแรกในนามทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่แล้ว ถอด มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ ออกมาพัก
 
          อินทรีเหล็ก หนีไปเป็น 2-0 ในนาทีที่ 57 จากจังหวะที่ ซามี่ เคดิร่า ตักบอลจากทางกราบขวามาให้กับ มาริโอ โกเมซ กองหน้าร่างใหญ่เทคตัวโหม่งจากกลางกรอบเขตโทษบอลย้อนศรเสียบเสาแรกเข้าไป อย่างสวยงาม 
 
          อย่างไรก็ตาม อังกฤษ มาไล่บี้ตามมาเป็น 1-2 จากจังหวะที่ได้ลูกเตะมุมทางด้านซ้าย เฮนเดอร์สัน เปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษ บอลเลยมาถึง โธมัส มุลเลอร์ ที่ลงไปช่วยเกมรับแหย่ขาสกัดไม่ขาด บอลมาเข้าทางของ แฮร์รี่ เคน ดึงบอลกลับหลังแล้วตะบันด้วยขวาเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างเด็ดขาดในนาทีที่ 61 และเป็นประตูที่ 4 ของ เคน ในการเล่นให้ทีมชาติอังกฤษเป็นนัดที่ 9
 
          แปดนาทีต่อมา สิงโตคำราม มีโอกาส เมื่อ อดัม ลัลลาน่า ไหลให้กับ เดเล่ อัลลี ซัดด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษไม่ผ่านมือของ มานูเอล นอยเออร์
 
          ล่วงเลยมานาทีที่ 71 อังกฤษ เปลี่ยนเอา เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าตัวเก่งจากสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ลงเล่นแทน แดนนี่ เวลเบ็ค พร้อมให้ รอสส์ บาร์คลี่ย์ เล่นแทน อดัม ลัลลาน่า
 
          สามนาทีต่อมา ทัพสิงโต ตามตีเสมอ 2-2 จนได้ เมื่อโต้กลับเร็วขึ้นมา รอสส์ บาร์คลี่ย์ ที่เพิ่งลงมาป้ายบอลออกซ้ายให้ เนธาเนียล ไคลน์ ดันขึ้นมาเปิดจากกราบขวามาเสาแรกให้ เจมี่ วาร์ดี้ วิ่งสอดมาไขว้ยิงด้วยขวาเข้าประตูไปอย่างสวยงาม และเป็นประตูแรกของวาร์ดี้ ในการเล่นทีมชาติอังกฤษเป็นนัดที่ 5 ด้วย
 
          ในนาทีที่ 91 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดเตะมุม เอริก ดายเออร์ กระโดดขึ้นโหม่งเต็มหัว บอลผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์ เข้าไป อังกฤษ พลิกแซงขึ้นนำ 3-2
 
          ช่วงที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้อีก จบเกม อังกฤษ บุกมาเอาชนะ เยอรมัน ไปแบบสนุก 3-2          

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
 
          เยอรมัน: มา นูเอล นอยเออร์ - เอ็มเร่ ชาน, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ (โยนาธาน ทาห์ น.46), โยนาส เฮคเตอร์ -โทนี่ โครส, ซามี่ เคดิร่า - โธมัส มุลเลอร์ (ลูคัส โพดอลสกี้ น.74), เมซุต โอซิล, มาร์โค รอยส์ (อันเดร เชือร์เล่ น.64) - มาริโอ โกเมซ (มาริโอ เกิตเซ่ น.80)
 
          อังกฤษ: แจ็ค บัตแลนด์ (เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ส น.45+1) - เนธาเนียล ไคลน์, คริส สมอลลิ่ง, แกรี่ เคฮิลล์ (กัปตันทีม), แดนนี่ โรส - เอริก ดายเออร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน - แดนนี่ เวลเบ็ค (เจมี่ วาร์ดี้ น.71), เดเล่ อัลลี่, อดัม ลัลลาน่า (รอสส์ บาร์คลี่ย์ น.71) - แฮร์รี่ เคน
 
          ผู้ตัดสิน: จานลูก้า ร็อคคี่ (อิตาลี)