ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

(รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก)

วันพุธที่ 6 เมษายน 2559

โวล์ฟสบวร์ก (เยอรมัน) - เรอัล มาดริด (สเปน)

ถ่ายทอดสด : บีอิน สปอร์ตส์, (เวลา : 01.45 น.)

สนาม : ฟาวเอฟแอล โวล์ฟสบวร์ก อารีน่า (โวล์ฟสบวร์ก, เยอรมัน)

        ''หมาป่าเมืองเบียร์'' โวล์ฟสบวร์ก ของ ดีเตอร์ เฮ็คคิงก์ ฟอร์มบู่เหลือเกิน หลังจากไม่ชนะมา 3 เกมติดแล้วในลีก โดยแพ้ถึง 2 นัดจากสามเกมดังกล่าว ล่าสุดออกไปแพ้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มายับเยิน 0-3 ในศึกบุนเดสลีกา เมื่อวันศุกร์ที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา

        ส่วนผลงานในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น เอาชนะ เกนท์ ของเบลเยียม มาได้ด้วยสกอร์รวมสองนัด 4-2 ผ่านเข้ามาเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย รายการนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

        สภาพทีมเกมนี้โวล์ฟสบวร์กไม่มี เซบาสเตียน ยุงก์ ที่บาดเจ็บหัวเข่า กับ ดาเนียล คาลิกูรี่ ที่เจ็บโคนขาหนีบ     

        แต่ทีมได้ บาส ดอสท์ หายเจ็บที่เท้า, นัลโด้ เซนเตอร์แบ็กบราซิลหายเจ็บไหล่ มีชื่ออยู่ในกลุ่ม

        ตำแหน่งผู้รักษาประตูยังให้ ดีเอโก้ เบนาโญ่ กัปตันทีมลงเฝ้าเสา แม้ว่าจะเสียถึงสามประตูในเกมล่าสุดที่พ่ายห้างยาในลีก

        ในแดนกลางเรียก หลุยส์ กุสตาโว่ กองกลางจากแดนแซมบ้า กลับมายืนคุมเกมคู่กับ โจซูอา กีลาโวกี เปิดทางให้ บรูโน่ เอ็นริเก้, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์, ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ นำเกมรุก อันเดร เชือร์เล่ ยืนกองหน้าตัวเป้า        

        สลับมาดู ''ราชันชุดขาว'' เรอัล มาดริด ของ ซีเนดีน ซีดาน ฉลองความสำเร็จครั้งใหญ่หลังบุกเชือดบาร์เซโลน่า 2-1 ในศึก ''เอล กลาซิโก้'' เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา ทำให้เก็บชัยเป็นนัดที่ 6 ติดต่อกัน (จากทุกรายการ)  

        ขณะที่ผลงานในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนั้น ปราบโรม่า ทีมดังของอิตาลี มาด้วยสกอร์รวมสองนัดขาดลอย 4-0

        ความพร้อมล่าสุด ราฟาแอล วาราน ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศส ที่เจ็บน่อง ยังไม่ได้กลับมาฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม คาดว่าต้องพักฟื้นต่อไป

        สำหรับ เซร์คิโอ รามอส พร้อมประจำการแนวรับเหมือนเดิม หลังติดโทษแบนแค่ในลีกเท่านั้นจากการโดนใบแดงในเกมกับ ''เจ้าบุญทุ่ม''

        บรรดาแกนหลักยังอยู่กันพร้อมหน้า เกย์ลอร์ นาวาส ประจำการด่านสุดท้าย คู่ปราการหลังวางใจ เซร์คิโอ รามอส กับเปเป้ รวมถึง ดานิโล่ กับ มาร์เซโล่ ในตำแหน่งแบ็กขวา-ซ้าย

        ขุมกำลังแดนกลางวาง กาเซมิโร่ รับบทห้องเครื่อง ขนาบข้างด้วย ลูก้า โมดริช และ โทนี่ โครส โดยรายของ อีสโก้ กับ ฮาเมส โรดริเกซ เป็นตัวสอดแทรก

        ส่วนแดนหน้า 3 ประสาน ''บีบีซี'' แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พร้อมลงกะซวกตาข่าย

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        โวล์ฟสบวร์ก : ดีเอโก้ เบนาโญ่ (กัปตันทีม) - วิเอยรินญ่า, นัลโด้, ดันเต้ บอนฟิม, ริคาร์โด้ โรดริเกซ - โจซูอา กีลาโวกี, หลุยส์ กุสตาโว่ - บรูโน่ เอ็นริเก้, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์, ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ - อันเดร เชือร์เล่

        เรอัล มาดริด : เกย์ลอร์ นาวาส - ดานิโล่, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส (กัปตันทีม), มาร์เซโล่ - ลูก้า โมดริช, กาเซมิโร่, โทนี่ โครส - แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

        ผู้ตัดสิน : จานลูก้า ร็อคคี่ (อิตาลี)

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- นี่เป็นครั้งแรกที่โวล์ฟสบวร์กพบเรอัล มาดริด ในถ้วยยุโรป
- 4 ครั้งก่อนหน้านี้ที่โวล์ฟสบวร์กพบคู่แข่งจากสเปนในถ้วยยุโรป พวกเขาทำได้ 17 ประตู เฉลี่ยนัดละมากกว่า 4 ประตู
- ครั้งล่าสุดที่โวล์ฟสบวร์กพบทีมจากสเปนในรอบน็อกเอาต์ พวกเขาตกรอบโดยบียาร์เรอัล ในยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2009-10 รอบ 32 ทีมสุดท้าย (ประตูรวม 3-6)
- เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายเข้ารอบตลอดใน 4 หนหลัง ชปล. รอบน็อกเอาต์ ที่พบคู่แข่งจากเยอรมัน
- โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นทีมเยอรมันทีมสุดท้ายที่เขี่ย ''ราชันชุดขาว'' ตกรอบ จากรอบรองชนะเลิศ ฤดูกาล 2012-13
- เรอัล มาดริด ชนะ 3 จาก 4 เกมที่เยือนทีมจากเยอรมัน (ยิงได้ 12) หลังชนะแค่เกมเดียวจาก 24 นัดก่อนหน้านั้น
- โวล์ฟสบวร์กชนะรวด 4 เกม ชปล. หลังสุด เป็นสถิติดีที่สุดของพวกเขาในรายการนี้ มีเพียงเรอัล มาดริดที่ทำได้ดีกว่าในตอนนี้ (5)
- โวล์ฟสบวร์กผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ชปล. เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
- โวล์ฟสบวร์กแพ้แค่ครั้งเดียวจาก 7 เกมชปล.ที่เล่นในบ้าน จากเกมพบ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อตุลาคม 2009 (1-3)
- มีเพียงเกมเดียวจาก 14 นัดใน ชปล. ของโวล์ฟสบวร์ก ที่จบด้วยผลเสมอ จากเกมกับเบซิคตัส เมื่อตุลาคม 2009 (0-0)
- 4 จาก 5 ประตูหลังสุดที่โวล์ฟสบวร์กเสียใน ชปล. เกิดขึ้นในช่วง 15 นาทีสุดท้าย
- โวล์ฟสบวร์กเป็นทีมเดียวในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่ครองบอลเฉลี่ยต่ำกว่า 50% ในชปล. ฤดูกาลนี้ (49.5%)
- เรอัล มาดริด ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ชปล. เป็นฤดูกาลที่ 6 ติดต่อกัน มีเพียงบาร์เซโลน่าที่ทำได้เหนือกว่า (9) และผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศตลอด 5 ฤดูกาลหลังสุด
- เรอัล มาดริด เป็นหนึ่งใน 2 ทีมที่ยังไม่แพ้ใครใน ชปล. ฤดูกาลนี้ (ร่วมกับบาร์เซโลน่า)
- เรอัล มาดริด ทำคลีนชีต 7 จาก 8 เกม ชปล. ฤดูกาลนี้ มากกว่าทุกทีม
- เรอัล มาดริด เป็นทีมเดียวที่ยังไม่เสียประตูในครึ่งแรกของ ชปล. ฤดูกาลนี้
- ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ มีส่วนร่วม 3 จาก 4 ประตูหลังสุดของโวล์ฟสบวร์กในชปล. รอบน็อกเอาต์ (2 ประตู 1 แอสซิสต์)
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำประตูมากกว่าผู้เล่นทุกรายในชปล. (90) โดย 13 ประตูเกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ เป็นสถิติดีทีสุดอันดับ 2 ของตัวเอง ต่อจากฤดูกาล 2013-14 (17 ลูก)
- โรนัลโด้ทำ 14 ประตูจากเกม ชปล. ที่พบทีมจากเยอรมัน
- เกย์ลอร์ นาวาส ยังไม่เสียประตูใน ชปล. โดยเล่น 720 นาทีและป้องกันประตู 21 ครั้ง โดยขาดอีกเพียง 133 นาที จะทาบสถิติของ เยนส์ เลห์มันน์ ในรายการนี้ (853 นาที)