ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

(รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง)
วันอังคารที่ 12 เมษายน 2559
เรอัล มาดริด (สเปน) - โวล์ฟสบวร์ก (เยอรมัน)
(นัดแรก โวล์ฟสบวร์ก ชนะ 2-0)
ถ่ายทอดสด ช่อง : บีอิน สปอร์ตส์, เวลา : 01.45 น.

สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว (มาดริด)

        เรอัล มาดริด ต้องทุ่มเทสุดชีวิตเพื่อพลิกสถานการณ์เข้ารอบ หลังบุกแพ้ก่อนที่เยอรมัน 0-2

        สถานการณ์ในลีก ราชันชุดขาวของ ซีเนอดีน ซีดาน กลับมาฟื้นคืนชีพแล้ว หลังบุกชนะบาร์เซโลน่า 2-1 สัปดาห์ก่อน และเปิดบ้านถล่มเออิบาร์ 4-0 เมื่อวันเสาร์ จี้จ่าฝูง บาร์เซโลน่า เหลือ 4 แต้มแล้ว

        สภาพทีมของซีดานจะได้ เซร์คิโอ รามอส เซนเตอร์ฮาล์ฟที่ติดโทษแบนเกมลีกกลับคืนทีมอีกครั้ง พร้อมกลับมาจับคู่ผนึกกำลังกับ เปเป้

        ในราย คาริม เบนเซม่า ศูนย์หน้าที่เจ็บจากนัดแรก ได้รับการยืนยันจากแพทย์แล้วว่าเป็นแค่อาการฟกช้ำเท่านั้น พร้อมลงเล่นไม่มีปัญหา รวมถึง ราฟาแอล วาราน กลับมาฟิตอีกครั้งหลังเจ็บน่องจนไม่มีส่วนร่วมใน 3 เกมที่ผ่านมา

        ส่วน มาร์เชโล่ แบ็กซ้ายที่มีประเด็นตบตาผู้ตัดสินจากนัดแรกยูฟ่ายืนยันแล้วว่าไม่มีบทลงโทษ

        ที่ต้องระวังโดนใบเหลืองเพิ่มเพราะคาดโทษอยู่มี เซร์คิโอ รามอส, คาเซมิโร่ และ ดานิโล่

        เกย์ลอร์ นาวาส ประจำการหน้าปากประตู เซร์คิโอ รามอส กลับมาผนึกกำลังกับ เปเป้ แบ็กขวาเลือก ดานิโล่ การ์บาฆาล เป็นตัวจริง ฝั่งซ้ายยังเป็น มาร์เชโล่ แดนกลางถอด กาเซมีโร่ เพื่อเน้นเกมรุก โดยใช้ ฮาเมส โรดรีเกซ ประสานงานกับ ลูก้า โมดริช และ โทนี่ โครส แดนหน้าใช้ 3 ประสาน "บีบีซี" อีกครั้ง แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

        ด้านโวล์ฟสบวร์กสถานการณ์ในลีกยังคงย่ำแย่ ล่าสุดทำได้แค่เปิดบ้านเสมอไมนซ์ 1-1 เมื่อวันเสาร์ ยังอยู่เพียงอันดับ 8 ตามห่างพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก ค่อนข้างมาก

        สภาพทีมของเทรนเนอร์ ดีเตอร์ เฮ็คคิงก์ จะได้ ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ มิดฟิลด์ตัวรุกกลับคืนทีมตามปกติ หลังติดโทษแบนเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์

        ตัวเจ็บเหลือเพียง เซบาสเตียน ยุงก์ แบ็กขวาที่ปิดเทอมยาว

        ส่วนที่ต้องระวังใบเหลือง เพราะคาดโทษอยู่มี มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์, ดีเอโก้ เบนาโย่, วิเอยรินญ่า, ลุยซ์ กุสตาโว่ และ ดาเนียล คาลิจูรี่

        ดีเอโก้ เบนาโย่ รับบทผู้รักษาประตูหลังได้พักเมื่อสุดสัปดาห์ นัลโด้ จับคู่ดูแลหลังบ้านกับ ดานเต้ ส่วน วิเอยรินญ่า กับ ริคาร์โด้ โรดริเกซ กลับมายืนตัวจริงแบ็กขวา-ซ้าย แดนกลางวาง โชซูอา กีลาโวกี กับ ลุยซ์ กุสตาโว่ แผงรุกเลือก บรูโน่ เอ็นรีเก้, มักซิมิเลียน อาร์โนลด์ และ ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ ปั้นเกมสนับสนุน อันเดร เชือร์เล่ ที่น่าจะได้ยืนหอกเป้าก่อน บาส ดอสท์ ซึ่งเพิ่งคัมแบ็กในเกมล่าสุด    

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เรอัล มาดริด (4-3-3) : เกย์ลอร์ นาวาส - ดาเนียล การ์บาฆาล, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เชโล่ - ฮาเมส โรดริเกซ, ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส - แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

        โวล์ฟสบวร์ก (4-2-3-1) : ดีเอโก้ เบนาโย่ - วิเอยรินญ่า, นัลโด้, ดานเต้, ริคาร์โด้ โรดริเกซ - โชซูอา กีลาโวกี, ลุยซ์ กุสตาโว่ - บรูโน่ เอ็นรีเก้, มักซิมิเลียน อาร์โนลด์, ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ - อันเดร เชือร์เล่     

        ผู้ตัดสิน : วิคเตอร์ คาสไซ (ฮังการี)

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- 5 เกมที่โวล์ฟสบวร์กพบคู่แข่งจากสเปนในถ้วยยุโรป พวกเขาทำได้ 19 ประตู เฉลี่ยนัดละมากกว่า 3 ประตู
- อย่างไรก็ดี ครั้งล่าสุดที่โวล์ฟสบวร์กพบทีมจากสเปนในรอบน็อกเอาต์ พวกเขาตกรอบโดยบียาร์เรอัล ในยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2009-10 รอบ 32 ทีมสุดท้าย (ประตูรวม 3-6)
- โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นทีมเยอรมันทีมสุดท้ายที่เขี่ย "ราชันชุดขาว" ตกรอบ จากรอบรองชนะเลิศ ฤดูกาล 2012-13
- เรอัล มาดริด ชนะรวด 4 เกมชปล.ในฤดูกาลนี้ เป็นสถิติสูงสุดในรอบ 24 ปีของรายการนี้ โดยยิงได้ถึง 15 ประตูและไม่เสียแม้แต่ลูกเดียว
- เรอัล มาดริด มีสถิติในการดวลคู่แข่งจากเยอรมันแบบเหย้า-เยือนในถ้วยยุโรปคือ ชนะ 12 แพ้ 8 และเป็นฝ่ายเข้ารอบตลอดใน 4 หนหลังชปล.รอบน็อกเอาต์ ที่พบคู่แข่งจากเยอรมัน
- หนล่าสุดที่เรอัล มาดริดแพ้ต่อทีมจากเยอรมันคารัง ในถ้วยยุโรป คือเกมกับชาลเก้ (3-4 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง ฤดูกาลที่แล้ว) แต่ยังเข้ารอบหลังบุกชนะ 2-0 ที่เมืองเบียร์
- เรอัล มาดริด มีสถิติเปิดบ้านชนะทีมจากเยอรมัน 22 จาก 29 นัด (เสมอ 4 แพ้ 3)
- โวล์ฟสบวร์กชนะรวด 5 เกมชปล.หลังสุด เป็นสถิติดีที่สุดของพวกเขาในรายการนี้
- โวล์ฟสบวร์กผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ชปล. เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
- มีเพียงเกมเดียวจาก 15 นัดในชปล.ของโวล์ฟสบวร์ก ที่จบด้วยผลเสมอ จากเกมกับเบซิคตัส เมื่อตุลาคม 2009 (0-0)
- 4 จาก 5 ประตูหลังสุดที่โวล์ฟสบวร์กเสียในชปล. เกิดขึ้นในช่วง 15 นาทีสุดท้าย
- เรอัล มาดริด ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ชปล. เป็นฤดูกาลที่ 6 ติดต่อกัน มีเพียงบาร์เซโลน่าที่ทำได้เหนือกว่า (9) และผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศตลอด 5 ฤดูกาลหลังสุด
- โวล์ฟสบวร์กเล่นนอกบ้าน 2 เกมแรกและแพ้ทั้งหมด ก่อนชนะรวดใน 2 เกมหลัง
- โวล์ฟสบวร์กผ่านเข้ารอบทั้ง 4 ครั้งที่ชนะคู่แข่งในบ้าน เกมแรก โดยหนล่าสุดเป็นการเจอสปอร์ติ้ง ลิสบอน ในยูโรปา ลีก ฤดูกาลที่แล้ว