ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2)
วันอังคารที่ 12 เมษายน 2559
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ) - ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส)
(ผลนัดแรก เสมอ 2-2)
ถ่ายทอดสด: ทรู สปอร์ต 1 (เวลา 01.45 น.)

สนาม : ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม (แมนเชสเตอร์, อังกฤษ)

        แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 4 พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ จะเปิด ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แชมป์ลีก เอิง ฝรั่งเศส ฤดูกาล 2015-2016 ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2

        สำหรับผลงานที่พบกันในนัดแรก เมื่อคืนวันพุธที่ 6 เมษายน ทั้งสองทีม เสมอ 2-2 ที่ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ กรุงปารีส สนามของ เปแอสเช

        ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ เจอกันเพียงครั้งเดียวในยูฟ่า คัพ รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ. ฤดูกาล 2008-2009 เสมอ 0-0 ที่ ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม สนามของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2008  

        และผลงานที่ดีที่สุดของทั้งคู่ ในแชมเปี้ยนส์ ลีก เรือใบสีฟ้า ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย 2 ครั้ง ฤดูกาล 2013-2014 แพ้ บาร์เซโลน่า ด้วยสกอร์รวมสองนัด 1-4 และ ซีซั่น 2014-2015 แพ้ บาร์ซ่า ด้วยสกอร์รวมสองนัด 1-3 ขณะที่ เปแอสเช เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ฤดูกาล 1994-1995 ก่อนแพ้ เอซี มิลาน จากอิตาลี ด้วยสกอร์รวมสองนัด 0-3

        ทางฝั่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รั้งอันดับ 4 พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ มี 57 คะแนน จากการลงสนามไปแล้ว 32 นัด ซึ่งทีมกำลังลุ้นโควตายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

        มานูเอล เปเยกรีนี่ กุนซือชาวชิลีของแมนฯ ซิตี้ วัย 62 ปี นำทีมลงสนามล่าสุดเปิดบ้านชนะ เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-1 ในบอลลีก นัดที่ 33 เมื่อวันเสาร์ที่ 9 เมษายน โดย ซามีร์ นาสรี่ คว้าตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ซึ่งทีมไม่แพ้ 3 นัดซ้อน

        เวลานี้ทีมยังขาด ราฮีม สเตอร์ลิง มิดฟิลด์บาดเจ็บโคนขาหนีบ และ ซามีร์ นาสรี่ หมดสิทธิ์ลงสนาม เนื่องจากไม่ได้ส่งชื่อของเขาลงเล่นรายการนี้

        อีกทั้ง แว็งซ็องต์ ก็องปานี เซนเตอร์แบ็กเบลเยี่ยม กัปตันทีมหายเจ็บน่อง กลับมาฝึกซ้อมได้แล้ว ซึ่งเขาไม่ได้เล่นตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ทว่าเขายังไม่ฟิตเต็มร้อยที่จะลงสนาม โดยไม่มีชื่ออยู่ในนัดนี้

        ในรายของ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" กองหน้าทีมชาติอาร์เจนติน่าที่บาดเจ็บส้นเท้าช่วงท้ายเกมนัดล่าสุด แต่เขาผ่านความฟิตลงเล่นได้

        และ นิโกลัส โอตาเมนดี้ เซนเตอร์แบ็กอาร์เจนติน่าหายเจ็บข้อเท้า, ดาบิด ซิลบา หายเจ็บข้อเท้า กลับสู่กลุ่ม

        ขณะที่ ฟาเบียน เดลฟ์ มิดฟิลด์หายเจ็บเอ็นร้อยหวาย, ยาย่า ตูเร่ มิดฟิลด์ไอวอรี่ โคสต์ หายเจ็บหัวเข่า กลับมาลงสนามได้แล้วในนัดล่าสุด ด้วยการเป็นตัวสำรอง

        และบรรดาผู้เล่นตัวหลักที่ได้พักด้วยการเป็นตัวสำรองนัดชนะ เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน จะกลับมาลงตัวจริงทั้ง เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ตัวรุก, กาแอล กลิชี่ แบ็กซ้าย, แฟร์นานดินโญ่ กองกลาง รวมถึง บาการี่ ซาญ่า แบ็กขวาทีมชาติฝรั่งเศสที่ได้พักเต็มๆ ไม่มีชื่อในเกมล่าสุด จะกลับมาลงสนาม    

        โลร็องต์ บล็องก์ เทรนเนอร์คนดังวัย 50 ปี ของปารีสฯ นำทีมลงสนามล่าสุดบุกไปชนะ แก็งก็อง 2-0 ในลีก เอิง นัดที่ 33 เมื่อวันเสาร์ที่ 9 เมษยน  ลูคัส มูร่า ปีกบราซิลเหมาคนเดียวสองประตู ซึ่ง บล็องก์ พักผู้เล่นตัวจริงเกือบทั้งทีม โดยเวลานี้ทีมไม่แพ้ 3 นัดติดต่อกัน

        ซีซั่นนี้ ปารีสฯ มีลุ้นแชมป์ทุกรายการ โดยได้ไปแล้ว 2 แชมป์คือ แชมป์ลีก เอิง และ แชมป์โทรเฟ่ เดส์ ช็องปิยงส์ (ชนะ โอลิมปิก ลียง 2-0 ที่ สต๊าด ซาปูโต, มอนทรีอัล ประเทศแคนาดา คืนวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม 2015) อีกทั้งทีมยังมีลุ้นแชมป์เฟร้นช์ คัพ, เฟร้นช์ ลีก คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

        ทางด้านตัวผู้เล่น ดาวิด ลุยซ์ เซนเตอร์แบ็กทีมชาติบราซิล, แบลส มาตุยดี้ กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ต่างโดนใบเหลืองในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ ทำให้ทั้งคู่สะสมใบเหลืองครบตามโควตา จะติดโทษแบนคนละ 1 นัดในนัดนี้ แต่ทั้งคู่ร่วมเดินทางไปที่อังกฤษด้วย

        ส่วนเกมที่ปราบ แก็งก็อง ในจังหวะนาที 18 ที่ เลย์แว็ง คูร์กซาว่า แบ็กซ้าย จมูกแตก เลือดออก หลังจากล้มไปโดนหัวเข่าขวาของ เควิน ทรัพพ์ ผู้รักษาประตู เพื่อนร่วมทีม จน ทรัพพ์ บาดเจ็บหัวเข่าขวา ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาที 46 ทว่าทั้งคู่ฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนาม

        และ มาร์โก แวร์รัตติ กองกลางทีมชาติอิตาลีหายเจ็บโคนขาหนีบ, ฮาเวียร์ ปาสตอเร่ มิดฟิลด์ทีมชาติอาร์เจนติน่าหายเจ็บน่อง มีชื่ออยู่ในกลุ่มผู้เล่น 24 คน

        บรรดานักเตะตัวหลักหลายคนที่ได้พักในเกมล่าสุด จะกลับมาลงตัวจริงทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ติอาโก้ ซิลวา เซนเตอร์แบ็กบราซิล กัปตันทีม, แม็กซ์เวลล์ แบ็กซ้ายบราซิล, อาเดรียง ราบิโอต์ มิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติฝรั่งเศสชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี, ติอาโก้ ม็อตต้า กองกลางอิตาลี, อังเคล ดิ มาเรีย ปีกทีมชาติอาร์เจนติน่า, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กัปตันทีมชาติสวีเดน ผู้นำดาวซัลโวลีก เอิง ที่ทำประตูในลีก ซีซั่นนี้ไปแล้ว 30 ประตู

        อิบราฮิโมวิช ยิงไปแล้ว 37 ประตูในทุกรายการ (5 ประตู ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)

        เขาเป็นผู้เล่นเปแอสเช ที่ทำประตูได้มากที่สุดในแชมเปี้ยนส์ ลีก ยิงไป 20 ประตู (ยิง 48 ลูกในแชมเปี้ยนส์ ลีก) ส่วนรองดาวซัลโวสูงสุดของปารีสฯ ในรายการนี้คือ จอร์จ เวอาห์ (16 ประตู) และอันดับ 3 เป็นของ เอดินสัน คาวานี่ ทำได้ 12 ประตู

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท (กัปตันทีม) - บาการี่ ซาญ่า, เอเลียควิม ม็องกาล่า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, กาแอล กลิชี่ - แฟร์นานโด, แฟร์นันดินโญ่ - ดาบิด ซิลบา, ยาย่า ตูเร่, เควิน เดอ บรอยน์ - เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน

        ปารีส แซงต์-แชร์กแมง : เควิน ทรัพพ์ - แซร์ช โอริเย่ร์, มาร์กินโญส, ติอาโก้ ซิลวา (กัปตันทีม), แม็กซ์เวลล์ - มาร์โก แวร์รัตติ, ติอาโก้ ม็อตต้า, อาเดรียง ราบิโอต์ - อังเคล ดิ มาเรีย, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ลูคัส มูร่า

        ผู้ตัดสิน : การ์ลอส เบลาสโก้ การ์บาโย่ (สเปน)

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- 3 หนหลังสุดในรอบน็อกเอาต์ชปล.ที่ทีมจากลีก เอิง พบทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เจอกัน เป็นทีมจากแดนน้ำหอมที่เข้ารอบทั้งหมด
- แมนฯ ซิตี้ ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายชปล. เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยพวกเขาชนะแค่ครั้งเดียวจาก 7 เกมชปล. รอบน็อกเอาต์ (เสมอ 2 แพ้ 4)
- อย่างไรก็ตาม ชัยชนะนัดดังกล่าว มาจากรอบที่แล้ว ซึ่งแมนฯ ซิตี้บุกคว่ำดินาโม เคียฟ 3-1
- "เรือใบสีฟ้า" ชนะ 2 จาก 4 เกมยุโรปที่เล่นในบ้านฤดูกาลนี้ (เสมอ 1 แพ้ 1)
- มานูเอล เปเยกรินี่ เคยคุมทีมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ชปล. มาแล้ว 3 ครั้ง (2 ครั้งกับบียาร์เรอัล : 2005-06 และ 2008-09, 1 ครั้งกับมาลาก้า : 2012-13) แต่มีแค่ครั้งเดียวที่ผ่านถึงรอบรอง (บียาร์เรอัล 2005-06 ก่อนแพ้อาร์เซน่อล)
- ซิตี้เป็นฝ่ายเข้ารอบตลอด 6 ครั้งหลังที่บุกเสมอคู่แข่งในนัดแรก ถ้วยยุโรป
- นอกจากนั้น ซิตี้ยังมีสถิติชนะรวดทั้ง 2 ครั้งที่ต้องดวลจุดโทษในถ้วยยุโรป (เหนือมิดทิลแลนด์และอัลบอร์ก ในยูฟ่า คัพ 2008-09)
- แมนฯ ซิตี้ ทำคลีนชีตน้อยกว่าทุกทีมที่เหลืออยู่ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ชปล. ฤดูกาลนี้ (ครั้งเดียวจาก 9 เกม)
- ไม่มีทีมไหนที่ยิงประตูในช่วง 15 นาทีสุดท้าย ชปล. ฤดูกาลนี้ มากกว่าแมนฯ ซิตี้ (6)
- เปแอสเช ถูกเขี่ยตกรอบ 8 ทีมตลอด 3 หนหลัง โดยครั้งล่าสุด (และครั้งเดียว) ที่ผ่านถึงรอบรองชนะเลิศ ชปล. เกิดขึ้นในฤดูกาล 1994-95
- สถิติของเปแอสเชในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูโรเปี้ยน คัพ คือเข้ารอบ 1 ตกรอบ 3 โดยฤดูกาล 1994-95 พวกเขาชนะบาร์เซโลน่าด้วยประตูรวม 3-2 ก่อนแพ้ต่อเอซี มิลาน ในรอบรองชนะเลิศ
- เปแอสเชชนะ 3 จาก 4 เกมเยือนในชปล. ฤดูกาลนี้ โดยแพ้ต่อเรอัล มาดริด (0-1) เพียงเกมเดียว
- เปแอสเชไม่แพ้ใน 5 เกมหลังสุดที่พบสโมสรจากอังกฤษ (เชลซี 4, แมนฯ ซิตี้ 1) นับตั้งแต่แพ้ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อปี 2014
- ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยิงประตูได้ตลอด 5 เกมชปล.หลังสุด นับเป็นครั้งที่ 3 ที่เขาทำได้ในรายการนี้
- เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" ทำ 16 ประตูจาก 19 เกมชปล. หลังสุดที่เป็นตัวจริง
- สถิติของเปแอสเชในการเยือนสโมสรอังกฤษคือ ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 3