ทำไม "บียาร์เรอัล" ถึงไม่ใช่ทีมที่ "หงส์แดง" จะเชือดง่ายๆ!
Posted 28/04/2016 by siamsport
บียาร์เรอัล อาจจะดูเป็นสโมสรฟุตบอลที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง ดูไม่เก่งกาจ และเป็นเพียงแค่ทีมไม้ประดับในสายตาคนส่วนใหญ่ แต่ใครจะรู้ว่าสโมสรจากสเปนทีมนี้ไม่ใช่ทีมกระจอกๆที่คู่แข่งจะฉกแต้มจากพวกเขาได้ง่ายๆ ซึ่งอาจจะไม่เกินไปนักหากจะบอกว่า บียาร์เรอัล คือทีมที่ดีที่สุดที่เหลืออยู่ในศึกยูโรป้า ลีกฤดูกาลนี้
ปัจจุบันทีม "เยลโล่ ซับมารีน" รั้งอันดับที่ 4 ของตารางลาลีกา สเปน และ กำลังทำอันดับเพื่อลุ้นไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้า ซีซั่นนี้พวกเขาเป็นทีมที่มีเกมรับที่ดีเอามากๆ โดยเฉพาะในลีกนั้นพวกเขาเสียประตูมากกว่า ทีม "ตราหมี" แอธเลติโก มาดริด และทีม "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า เพียงสองทีมเท่านั้น ซึ่งยักษ์ใหญ่จากสเปนอีกหนึ่งทีมอย่าง "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เสียประตูมากกว่าพวกเขาอยู่ 1 ลูก ณ ตอนนี้
ผู้คนมักจะถกเถียงกันว่า ลีกใดคือลีกที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนว่าคิดอย่างไร แต่ในความเป็นจริงนั้นไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ในช่วงหลังลีกฟุตบอลของสเปนมีคุณภาพที่สูงขึ้นมาก โดยสามารถนับได้จากจำนวนทีมที่สามารถทะลุเข้าสู่รอบลึกๆ ของฟุตบอลสโมสรยุโรป ช่วงปีหลังๆที่ผ่านมา หรือหากคุณกำลังมองหาสถิติที่ยืนยันถึงเรื่องนี้ เท่าที่จำความได้ สโมสรจากสเปนสามารถเก็บชัยชนะได้ถึง 45 ครั้งจาก 48 ครั้ง ที่พบกับทีมคู่แข่งที่ไม่ใช่ทีมจากสเปน
บียาร์เรอัลคือตัวอย่างที่ชัดเจน พวกเขาสามารถล้มทั้ง นาโปลี และ เลเวอร์คูเซ่นจนทะลุมาถึงรอบรองชนะเลิศยูโรป้า ลีกในฤดูกาลนี้ โดยงานต่อไปเป็นสิ่งที่ท้าทายพวกเขาเป็นอย่างมาก เมื่อจะต้องปะทะกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมดังจากเกาะอังกฤษ ซึ่งต้องติดตามกันว่าผลการแข่งขันจะจบอย่างไร แต่ก่อนหน้านั้นเรามาทำความรู้จักกับ เรื่องราวการกำเนิดของสโมสรบียาร์เรอัลแห่งนี้กันก่อนดีกว่า ซึ่งมันน่าสนใจมากเลยทีเดียว
สโมสรแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1923 หรือเมื่อเกือบ 93 ปีที่แล้ว พวกเขาได้รับฉายาว่า "เรือดำน้ำสีเหลือง" อันมาจากสีเสื้อแข่งของพวกเขา และแม้จะก่อตั้งมานานแล้ว แต่สโมสรแห่งนี้เพิ่งจะได้ขึ้นมาเล่นลาลีกา สเปนเมื่อปี 1998 เท่านั้น ซึ่งกว่าที่ทีมเรือดำน้ำจะได้ขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดของแดนกระทิงดุนั้น ทีมหงส์แดงก็กวาดแชมป์ยุโรปไปแล้วถึง 4 สมัย รวมถึงคว้าแชมป์ลีกอีก 19 ครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ภายในระยะเวลาแค่ 5 ปีหลังจากที่พวกเขาขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดของประเทศ บียาร์เรอัลก็มีโอกาสได้ไปลุยฟุตบอลถ้วยยุโรปและจากนั้นเป็นต้นมาพวกเขาก็เป็นขาประจำของฟุตบอลรายการยุโรปทันที โดยเฉพาะปี 2007 พวกเขาทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมเมื่อสามารถทะลุเข้าถึงรอบลึกๆของฟุตบอลถ้วยยุโรป รวมถึงยังสามารถจบอันดับที่สองในศึกลาลีกาสเปนได้อีกด้วย
แต่ในปี 2012 พวกเขาต้องพบเจอกับช่วงเวลาที่เลวร้าย เพราะนอกจากจะจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 18 ทำให้ต้องร่วงตกชั้นแล้ว พวกเขายังต้องสูญเสีย มานูเอล เปรเซียโด้ ผู้จัดการทีมคนใหม่ ซึ่งเสียชีวิตจากโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ทั้งที่เพิ่งรับงานได้แค่วันเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตามฟ้าหลังฝนย่อมดีเสมอ บียาร์เรอัลใช้เวลาแค่ปีเดียวก็สามารถคัมแบ็คสู่ลาลีกา สเปนได้ทันที ซึ่ง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาตั้งแต่พวกเขากลับมาสู่ลีกสูงสุด ทัพเรือดำน้ำสามารถจบอันดับที่ 6 ได้ทั้งสองซีซั่นรวมถึงยังคว้าโควต้าไปเล่นฟุตบอลยุโรปได้อีกด้วย
โค้ชคนปัจจุบันของทีมคือ มาร์เซลิโน่ เขามีส่วนสำคัญทำให้ทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะกุนซือชาวสเปนรายนี้มีไหวพริบ ความฉลาดและความเป็นผู้นำ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ มานูเอล เปเยกรินี่ อดีตกุนซือทีมเรือดำน้ำ
แผนการเล่นในปัจจุบันของทีมคือ 4-4-2 ซึ่งเป็นรูปแบบคล้ายกับทีม แอธเลติโก มาดริด โดยในปีนี้มีแค่แนวรับของลูกทีม ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ เท่านั้น ที่ทำผลงานได้ดีกว่าเกมรับของทีมเรือดำน้ำ ทั้งสองทีมมีสิ่งที่คล้ายคลึงกันอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็น การให้มิดฟิลด์ 4 คนยืนบีบพื้นที่ให้แคบ รวมถึงเน้นให้แผงแบ็คโฟร์ยืนให้ลึก และต้องอดทนรอ คอยใช้จังหวะสวนกลับในการทำประตูคู่แข่ง สิ่งสำคัญที่ทำให้ทั้งสองทีมประสบความสำเร็จด้วยแผนการเล่นนี้คือ การที่นักเตะในทีมช่วยกันเล่นและทุกคนรู้จักหน้าที่ของตนเอง
บรูโน่ กัปตันทีมวัย 31 ปี คือหัวใจในแดนกลางของบียาร์เรอัล มิดฟิลด์ตัวรับรายนี้เป็นผู้เล่นปิดทองหลังพระซึ่งมีหน้าที่ขับเคลื่อนเกมในแดนกลาง รวมถึงยังมีการผ่านบอลที่มีประสิทธิภาพ เขาเป็นหนึ่งในนักเตะประสบการณ์สูงไม่กี่คนในทีม เนื่องจากนักเตะชุดนี้เต็มไปด้วยผู้เล่นวัยหนุ่มซะเป็นส่วนใหญ่
ในทีมยังมีสองนักเตะฝีเท้าดีซึ่งเป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของบาร์เซโลน่าด้วยคือ โจนาธาน โดส ซานโตส และ เดนิส ซัวเรส ทั้งคู่เป็นตัวอันตรายของทีมคู่แข่งและทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะซัวเรสนั้นฟอร์มดีจนถึงกับมีข่าวว่า ทีมเจ้าบุญทุ่มพร้อมที่จะดึงตัวกลับถิ่นคัมป์นูในช่วงซัมเมอร์นี้
แนวรุกมี เซดริก บาก็อมบู เป็นศูนย์หน้าตัวหลักของทีม ซึ่งสื่อชื่อดังของสเปนอย่าง มาร์ก้า ถึงกับยกย่องเขาว่าเป็น การเซ็นสัญญาแห่งฤดูกาล เพราะแค่เพียงปีแรกที่เล่นในสเปน ดาวยิงผิวสีรายนี้ก็สามารถตะบันไปได้ถึง 22 ประตูรวมทุกรายการเลยทีเดียว โดยเขามีคู่หูในแดนหน้า เป็นอดีตนักเตะผู้ที่เคยล้มเหลวในพรีเมียร์ลีก อังกฤษอย่าง โรเบร์โต้ โซลดาโด้ ซึ่งกระหายที่จะพิสูจน์ตัวเองในการเจอกับทีมจากอังกฤษอีกครั้ง
ดังนั้นเป็นที่แน่นอนว่าในเกมที่พวกเขาจะต้องเจอกับ "หงส์แดง" ที่นำโดย เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือฝีมือดี การันตีได้เลยว่ามันจะต้องเป็นเกมที่สนุกอย่างแน่นอน เพราะทั้งสองทีมมีรูปแบบการเล่นที่น่าสนใจ มีการใช้พลังงานในการเล่นที่สูง รวมถึงจะได้เห็นเกมเค้าเตอร์แอทแท็คอันน่าตื่นเต้นจากทั้งสองทีม
หากทีม "เรือดำน้ำ" หวังที่จะเป็นแชมป์ฟุตบอลยูโรป้า ลีกในปีนี้ สิ่งแรกที่ลูกทีมของ มาร์เซลิโน่ จะต้องทำให้ได้คือ การล้ม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ซึ่งกำลังยืนขวางทางของพวกเขาอยู่นั่นเอง...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
วิเคราะห์บอล บาเยิร์น พบ เอาก์สบวร์ก วันศุกร์ที่ 22 พ.ย. 67
เพื่อนไม่ทิ้งกัน! เป๊ป เผยแพ้ 4 เกมติดเหตุผลต่อสัญญาใหม่ แมนซิตี้
ผลงาน 5 ดาว!แฟน ฟิออเรนติน่า โหวต เด เคอา แข้งยอดเยี่ยมตุลาคม
ทางการ! เจนัว ตั้ง ปาทริค วิเอร่า นั่งแท่นกุนซือคนใหม่
วิเคราะห์บอล เซลต้า พบ บาร์เซโลน่า วันเสาร์ที่ 23 พ.ย. 67
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์