ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบรองชนะเลิศ นัดสอง
วันพุธที่ 4 พฤษภาคม 2559
เรอัล มาดริด (สเปน) 1 - แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) 0

        สนาม :  ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, (มาดริด, สเปน)

         นัดแรกเสมอกันมา 0-0 เรอัล มาดริด เกมนี้ไม่มี คาริม เบนเซม่า และ คาเซมิโร่ ตัวรับชาวบราซิเลียนที่เจ็บจึงเป็นโอกาสของ อิสโก้ ประสานงานกับ โทนี่ โครส และ ลูก้า โมดริช สามแนวรุกได้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ฟิตกลับมาเป็นตัวจริงทะลวงตาข่ายร่วมกับ เฆเซ่ โรดริเกซ และ แกเร็ธ เบล

         แมนฯ ซิตี้ นัดนี้ไม่มี ดาบิด ซิลบา ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าแต่ได้ ยาย่า ตูเร่ ฟิตกลับมาช่วยทีมโดยประสานงานกับ เฆซุส นาบาส และ เควิน เดอ บรอยน์ ในเกมรุกสนับสนุนหน้าเป้า เซร์คิโอ อเกวโร่

         ครึ่งแรกเริ่มมาเพียง 10 นาที ทีมเยือนต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลังจาก แว็งซ็องต์ ก็องปานี กัปตันทีมมีอาการบาดเจ็บแล้วเล่นต่อไม่ไหวจีงเป็น เอเลียควิม ม็องกาล่า ลงมาเล่นแทน

         อีกสี่นาทีต่อมา เรอัล มาดริด เกือบได้เฮก่อนเมื่อ ดาเนียล การ์บาฆาล เติมขึ้นมาทางขวาก่อนเปิดโค้งไปให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ขึ้นเทกตัวได้สูงกว่าโขกบอลหลุดกรอบออกไป

         จนแล้วจนรอด นาที 20 "ราชันชุดขาว" ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่  ดาเนียล การ์บาฆาล จ่ายบอลไปพื้นที่ว่างให้ แกเร็ธ เบล สอดมารับบอลทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะตวัดเปิดเข้ากลางบอลแฉลบขาของ แฟร์นานโดกองกลางแมนฯ ซิตี้ นิดหนึ่ง ก่อนเช็ดเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม โดยทางยูฟ่าให้เป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ แฟร์นานโด

         อีกสองนาทีต่อมา แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นบ้าง เควิน เดอ บรอยน์ เปิดลูกเตะมุมเข้ามาให้ แฟร์นานโด โถมมาโขกบอลเหินข้ามคานออกไป

         จากนั้นนาที 36 เรอัล มาดริด เกือบได้ประตูเพิ่ม โทนี่ โครส เปิดลูกฟรีคิกไปเสาไกลให้ เปเป้ เติมมาเก็บตกได้ก่อนยิงเข้าประตูไป ทว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าก่อนแล้ว

         ช่วงนาทีสุดท้ายครึ่งแรก "เรือใบสีฟ้า" เกือบตีเสมอสำเร็จเมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ ไหลมาให้ แฟร์นันดินโญ่ กดด้วยขวาบอลพุ่งแรงหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย จบครึ่งแรกเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ขึ้นนำ 1-0

         มาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลังได้ห้านาที เรอัล มาดริด ได้ลุ้นเมื่อ แกเร็ธ เบล ผ่านไปให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วอลเลย์ด้วยซ้าย แต่ไม่ผ่าน โจ ฮาร์ท นายทวารแมนฯซิตี้

         เจ้าถิ่นมาเป็นชุดๆ การ์บาฆาล ไหลให้กับ เฆเซ่ โรดรีเกซ ยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษด้านขวาบอลข้ามคานไปในนาทีที่ 51

         ถัดมานาทีเดียว เรอัล มาดริด น่าจะได้ประตูที่สอง เมื่อ แกเร็ธ เบล โยนจากกราบขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ ลูก้า โมดริช สอดมาดึงบอลลงแล้วแปด้วยขวาแค่ 6 หลา ไปติดเซฟของ โจ ฮาร์ท นายทวารเรือใบสีฟ้า อย่างไม่น่าเชื่อ

         กระเถิบมานาทีที่ 55 เรอัล มาอีกครั้ง การ์บาฆาล โยนจากกราบขวาให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เทคตัวโหม่งในกรอบเขตโทษบอลไปตรงตัวของ โจ ฮาร์ท นายด่านทีมเยือน

         นาทีเดียวกันนั้น เรอัล มาดริด ส่ง ลูกัส บาซเกซ ลงมาเล่นแทน เฆเซ่ โรดรีเกซ ในแนวรุก

         เขยิบมานาที 59 ชุดขาว บดหนัก ลูกัส บาสเกซ เปิดบอลให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษติดเซฟ ฮาร์ท อีกครั้ง

         ล่วงเลยมานาทีที่ 67 เจ้าบ้านส่ง ฮาเมส โรดรีเกซ เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติโคลอมเบีย ลงเล่นแทน อีสโก้

         เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก จบเกม เรอัล มาดริด เปิดรังชนะ 1-0 รวมผลสองนัด เรอัล มาดริด ผ่านเข้าชิงด้วยสกอร์รวม 1-0 และเป็นการผ่านเข้าชิงชนะเลิศถ้วยใหญ่ของยุโรปเป็นครั้งที่ 14 ของราชันชุดขาวแล้วเข้าไปพบกับ แอต.มาดริด เพื่อนร่วมชาติในนัดชิงชนะเลิศ วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม นี้ ที่ซานซีโร่ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ต่อไป

         รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

         เรอัล มาดริด : เกย์ลอร์ นาวาส - ดาเนียล การ์บาฆาล, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่ - โทนี่ โครส, อิสโก้, ลูก้า โมดริช - แกเร็ธ เบล, เฆเซ่ โรดริเกซ, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

         สำรอง : กิโก้ กาซิย่า, ดานิโล่, ราฟาเอล วาราน, มาเตโอ โควาซิช, บอร์ฆา มาโยรัล, ลูคัส บาซเกซ, ฮาเมส โรดริเกซ
 

         แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - บาการี่ ซาญ่า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, กาแอล กลิชี่ - แฟร์นันดินโญ่, แฟร์นานโด - เฆซุส นาบาส, ยาย่า ตูเร่, เควิน เดอ บรอยน์ -  เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน''

         สำรอง : วิลลี่ กาบาเยโร่, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, เอเลียควิม ม็องกาล่า, ฟาเบียน เดลฟ์, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่, ราฮีม สเตอร์ลิง, วิลฟรีด โบนี่
 

         ผู้ตัดสิน : ดามีร์ สโคมิน่า (สโลวีเนีย)