นัดที่ 10 ของศึกโตโยต้า ไทยลีก 2016 ดูเหมือนว่าจะเข้มข้นกันทุกสนามเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเราเองก็ไม่เคยลืมที่จะถ่ายทอด 11 ผู้เล่นฟอร์มเลิศในสัปดาห์ที่ผ่านมา สู่สายตาของแฟนบอลกันทั้งประเทศ ซึ่งวีกนี้เราจะมาในระบบ 3-4-3

ทีมงานฟุตบอลสยาม

ผู้รักษาประตู : กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (แบงค็อก ยูไนเต็ด)

        ขอให้คำว่า "ผีเข้า" กับ กิตติพงษ์ ภูแนวเชือก นายด่านจากค่าย "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่เหนียวหนึบเหลือเกินในการพาทีมบุกไปชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-0 โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังเซฟช็อตสำคัญๆได้หลายหน จนทีมยังนำเป็นจ่าฝูงเวลานี้ต่อไป

มีส่วนสำคัญเหลือเกินในชัยชนะของ แบงค็อก ที่มีเหนือ บางกอกกล๊าส

กองหลัง : อันเดอสัน ดอส ซานโตส (ชลบุรี เอฟซี)

        เกมรับของ ชลบุรี เอฟซี ชั่วโมงนี้คงจะต้องไว้ใจ อันเดอสัน ดอส ซานโตส เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น หลังจากเจ้าตัวหยุดเกมรุกของ บีอีซี เทโรฯ ชนิดไม่เคยหลุดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษ จนทำให้ทีมเก็บ 3 คะแนนในบ้านตัวเองได้สำเร็จ

กองหลัง : นาโออากิ อาโอยามะ (เอสซีจี เมืองทองฯ)

        "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทองฯ อุ่นใจได้เสมอเมื่อมีแข้งจากแดนปลาดิบที่ชื่อ นาโออากิ อาโอยามะ ลงสนามยืนเป็นปราการหลัง โดยเขาสามารถหยุดเกมรุกของ เชียงราย ยูไนเต็ด อย่างแข็งแกร่ง จนทีมบุกไปเก็บ 3 คะแนนอันล้ำค่า ออกมาจากถิ่น ยูไนเต็ด สเตเดี้ยม ได้สำเร็จ

กองหลัง : ภานุวัฒน์ ไฟไหล (ชัยนาท ฮอร์นบิล)

        การปราชัยมาถึง 7 เกมติดต่อกันของ ชัยนาท ฮอร์นบิล บวกกับความมุ่งมั่นที่อยากจะลบสถิติก่อนหน้านี้ในการบุกรัง "ปราสาทสายฟ้า" ทำให้พวกเขาหวังที่มีแต้มกลับออกมา ก่อนจะทำได้สำเร็จที่สกอร์ 0-0 ซึ่ง ภานุวัฒน์ ไฟไหล สามารถคุมแนวรับได้อย่างดี ซึ่งถือว่าเจ้าตัวเปรียบเสมือนหัวใจแนวรับในนัดนี้ได้เลยทีเดียว

หัวใจในเกมรับของ "นกใหญ่" เล่นได้อย่างเหนียวแน่น จนได้ 1 แต้มกลับบ้านได้สำเร็จ

ปีกขวา : อังเดร หลุยส์ ไลเต้ (ราชนาวี)

        ปีกรุกชาวบราซิเลี่ยนที่ถือเป็นเทพีแห่งโชคของ "ตะหานน้ำ" ราชนาวี ซึ่งเกมที่เปิดบ้านเชือด นครราชสีมา มาสด้า 1-0 ถือเป็นเกมที่เจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้เข้าฟักมากที่สุด และการตีลังกายิงมุมแคบในกรอบเขตโทษในช่วงต้นครึ่งหลัง ยิ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าตัวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

กองกลาง : ณรงค์ จันทร์เสวก (ชลบุรี เอฟซี)

        ครบเครื่องเหลือเกินสำหรับกองกลางรายนี้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนจากเกมรับมาเป็นการรุกอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีส่วนในการตัดเกมบุกของ บีอีซี เทโรศาสน ขณะเดียวกัน "เจ้าโย" ณรงค์ จันทร์เสวก ยังเป็นผู้ยิงประตูชัยให้กับทัพ "ฉลามชล" เอาชนะไป 1-0 ปลดล็อกจาก 4 เกมก่อนที่ไม่ชนะได้สำเร็จ

กองกลางตัวรุก : คาร์เมโล่ กอนซาเลส (สุพรรณบุรี เอฟซี)

        ผู้ซัดประตูชัยให้ สุพรรณบุรี เอฟซี ซึ่งเขายังโชว์ให้เห็นถึงการเป็นเพชรฆาตล่าประตูในช่วงสำคัญกับการซัดประตู ชัยให้ สุพรรณบุรี เฉือน อาร์มี่ ยูไนเต็ด 1-0 แม้จะไม่ได้มีบทบาทกับเกมตลอดทั้ง 90 นาที แต่การได้รับบทกองหน้าตัวเป้า เจ้าตัวก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองตามมาตรฐานของการเป็นตัวจบสกอร์ที่คู่แข่งจะ ประมาทไม่ได้สักวินาทีเดียว

ซัดประตูโทนพา "ช้างศึกยุทธหัตถี" เก็บสามแต้มในรังเหนือ "สุภาพบุรุษวงจักร"

ปีกซ้าย : คลีตัน ซิลวา (เอสซีจี เมืองทองฯ)

        ด้วยระบบของ เอสซีจี เมืองทองฯ ที่วางหน้า 3 ตัว และแม้ว่า คลีตัน ซิลวา จะถูกขยับออกไปอยู่ตำแหน่งปีก แต่เขาได้แสดงให้เห็นถึงความไวตามแบบฉบับตัวเอง และเพชฌฆาตมือสังหารที่กดแฮตทริค ช่วยให้ทีมบุกไปชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด 3-0 พร้อมกับเป็นประตูที่ 101 ในการค้าแข้งเกมลีกในเมืองไทยอีกด้วย

กองหน้า : ภูวดล สุวรรณชาติ (ศรีสะเกษ เอฟซี)

        หลังจากห่างหายจากการส่งบอลเข้าไปที่ก้นตาข่ายเป็นเวลานาน ในเกมที่ ศรีสะเกษ เอฟซี เปิดบ้านไล่ตีเสมอ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 1-1 "ดัมมี่" ภูวดล สุวรรณชาติ กองหน้า "กูปรีอันตราย" สามารถทำประตูสำคัญในช่วงท้ายเกม ทำให้ทีมมี 1 คะแนน

ยิ่งเล่น ยิ่งมั่นใจ ยิ่งใส่สกอร์ให้ "โลมาพิฆาต" ได้อย่างต่อเนื่อง

กองหน้า :  จูเนียร์ เนเกรา (พัทยา ยูไนเต็ด)

        ฟอร์มของ จูเนียร์ เนเกรา ยังคงดีวันดีคืน หลังจากเจ้าตัวเหมา 2 ตุง ในเกมที่ พัทยา ยูไนเต็ด เปิดบ้านไล่ต้อน โอสถสภา เอ็ม 150 สมุทรปราการ ไป 2-0 เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมแล้ว ยังพาทีมชัยชนะเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน ต้องยกนิ้วให้กับกองหน้า "โลมาน้ำเงิน" จริงๆ

กองหน้า : ดิยุฟ บีรัม (สุโขทัย เอฟซี)

        กองหน้าตัวความหวังของ สุโขทัย เอฟซี ที่ในเกมนี้พังประตูสำคัญช่วยให้ต้นสังกัดกลับมานำในครึ่งแรก และยังเดินเกมร่วมกับเพื่อนได้เป็นอย่างดี มีส่วนร่วมกับประตูแม้ว่าอยู่ไม่ครบ 90 นาทีแต่ผลงานเข้าตาจริงๆ ก่อนที่ทีมจะชนะ บีบีซียู เอฟซี ไป 4-1