ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันพุธที่ 11 พฤษภาคม 2559
ลิเวอร์พูล - เชลซี
ถ่ายทอดสด : ซีทีเอช สเตเดี้ยม 2 (เวลา 02.00 น.)

สนาม : แอนฟิลด์

        ลิเวอร์พูล หมดลุ้นทำอันดับโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แน่นอนแล้ว แต่ยังมีหวังแซงขึ้นไปจบในพื้นที่ยูโรปา ลีก อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของพวกเขาเวลานี้อยู่ที่รอบชิงชนะเลิศ ยูโรปา ลีก กับ เซบีย่า วันพุธที่ 18 พ.ค. เพื่อตั๋วลุยชปล. สำหรับทีมแชมป์

        เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ถูกมองว่าไม่เน้นเกมลีกแล้ว แต่การจัดทัพชุดผสมลงเล่นในเกมล่าสุด ก็ยังเปิดบ้านพิชิต วัตฟอร์ด อย่างสวยหรู 2-0 เมื่อวันอาทิตย์

        สภาพทีมยังขาด จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีม กับ ดีว็อค โอรีกี กองหน้า ที่อยู่ในช่วงฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ และมีหวังลึกๆ ว่าอาจฟิตทันนัดชิงยูโรปา ลีก ที่ บาเซิ่ล

        แดนนี่ อิงส์ กองหน้าที่ถูกลืม ก็อยู่ในช่วงเรียกความฟิต แต่โอกาสคืนทีมซีซั่นนี้แทบไม่มี ขณะที่ มามาดู ซาโก้ กองหลังอยู่ในช่วงโดนแบน กรณีไม่ผ่านการตรวจหาสารกระตุ้น

        การจัดทัพ คล็อปป์ อาจจะใช้ตัวหลักหลายคนลงเล่นเพื่อเป็นการซ้อมใหญ่ก่อนนัดชิง และเป็นเกมลีกนัดสุดท้ายที่ แอนฟิลด์ ในฤดูกาลนี้ด้วย

        และคาดว่า อาจจะพักดาวดัง เปิดทางให้ตัวสำรองลงเกมลีกนัดสุดท้ายของซีซั่นที่จะไปเยือน เวสต์บรอมวิช แทน

        ผู้รักษาประตูยังคงให้ ซิมง มินโญเลต์ เฝ้าเสา แผงหลัง เนธาเนียล ไคลน์, โคโล ตูเร่, เดยัน ลอฟเรน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่

        กลางสนาม เจมส์ มิลเนอร์ คุมเกมกับ ลูคัส เลว่า และ เอ็มเร่ ชาน ส่วนสามประสานแนวรุก อดัม ลัลลานา, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, แดเนียล สเตอร์ริดจ์

        ฝั่ง เชลซี ของกุนซือ กุส ฮิดดิ้งค์ ที่เหลือคุมทีมอีกแค่ 2 นัดสุดท้ายก่อนหมดสัญญา เวลานี้อยู่อันดับ 9 ซึ่งเป็นอันดับดีที่สุดที่ทีมสามารถหวังได้ในฤดูกาลนี้

        สภาพทีมจะชวดใช้งาน จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมที่ติดโทษแบน 2 นัด หลังโดนเหลือง-แดงในเกมบุกแพ้ ซันเดอร์แลนด์ 2-3 ซึ่งเป็นการโดนไล่ครั้งที่ 2 ในซีซั่นนี้ ทำให้โดนเพิ่มจาก 1 นัด ด้วยเหตุนี้ ทำให้เจ้าตัวหมดสิทธิ์ลงเล่นในฤดูกาลนี้ และอาจสิ้นสุดการรับใช้ทีมเอาไว้ที่ 703 นัด หลังมีทีท่าว่าสโมสรจะไม่ยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้

        ผู้รักษาประตู ติโบต์ กูร์กตัวส์ พ้นโทษแบน 3 นัดกลับมาแล้ว ทำให้ อัสเมียร์ เบโกวิช จะกลับไปนั่งสำรองตามเดิม

        แผงหลัง เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ขยับมายืนแบ็กขวา คู่เซนเตอร์หุบ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช เข้าไปยืนกับ แกรี่ เคฮิลล์ และแบ็กซ้ายใช้ บาบา ราห์มาน

        แดนกลาง จอห์น โอบี มิเกล คุมเกมกับ เนมานย่า มาติช

        แนวรุกต้องรอเช็กความพร้อมของ เปโดร โรดริเกซ กองหน้าสเปนที่บาดเจ็บจนพลาดนัดก่อน จึงไม่น่าเปลี่ยนแปลงจาก วิลเลียน, เชส ฟาเบรกาส, เอแดน อาซาร์ และหน้าเป้า ดีเอโก้ คอสต้า

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        ลิเวอร์พูล : ซิ มง มินโญเลต์, เนธาเนียล ไคลน์, โคโล ตูเร่, เดยัน ลอฟเรน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่, เจมส์ มิลเนอร์, ลูคัส เลว่า, เอ็มเร่ ชาน, อดัม ลัลลานา, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, แดเนียล สเตอร์ริดจ์

        เชลซี : ติโบต์ กูร์กตัวส์, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, บาบา ราห์มาน, จอห์น โอบี มิเกล, เนมานย่า มาติช, วิลเลียน, เชส ฟาเบรกาส, เอแดน อาซาร์, ดีเอโก้ คอสต้า

        ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์

ผลงานการพบกันที่บ้านลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูลชนะ 49 เชลซีชนะ 11 เสมอ 19
ประตูที่ทำได้ : ลิเวอร์พูล 156 ลูก เชลซี 82 ลูก

- ชัยชนะเหนือเชลซีที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อต้นฤดูกาล เป็นการหยุดผลงานไม่ชนะเชลซีในพรีเมียร์ลีกของลิเวอร์พูลไว้ที่ 6 เกม (เสมอ 3 แพ้ 3)
- ลิเวอร์พูลไม่สามารถทำคลีนชีตใน 9 เกมลีกหลังสุดที่พบเชลซี และเสียนัดละ 2 ประตูตลอด 3 เกมหลังที่พบกันที่แอนฟิลด์
- เชลซีทำคลีนชีตได้แค่ครั้งเดียวจาก 11 เกมลีกหลังสุดที่พบลิเวอร์พูล
- 4 จาก 5 เกมลีกหลังสุดที่คู่นี้เจอกัน มีประตูแรกเกิดขึ้นตั้งแต่ 10 นาทีแรก
- "สิงห์บลูส์" ยิงประตูได้ตลอด 9 เกมลีกหลังสุดที่พบลิเวอร์พูล มีเพียงการพบเซาธ์แฮมป์ตัน (12) ที่พวกเขายิงได้ต่อเนื่องมากกว่า (นับเฉพาะทีมที่อยู่ในพรีเมียร์ลีกตอนนี้)
- เชลซีเสียประตูอย่างน้อย 50 ลูกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (51) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1996-97 ซึ่งพวกเขาเสียประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร (55 ลูกเท่ากับฤดูกาล 1994-95)
- ลิเวอร์พูล ยิงประตูในลีกติดต่อกัน 12 นัดซ้อน เป็นสถิติดีที่สุดนับตั้งแต่เมษายน 2014 (25)
- "หงส์แดง" เสียแต้มในบ้านจากสถานการณ์ที่นำคู่แข่งถึง 14 คะแนน มากที่สุดในลีก (เท่ากับเชลซี)
- ดีเอโก้ คอสต้า มีส่วนร่วม 14 ประตูจาก 14 เกมลีกหลังสุดที่ลงเล่นให้เชลซี (9 ประตู 5 แอสซิสต์)

ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (บ้านลิเวอร์พูล)
ลิเวอร์พูล แพ้ เชลซี  1-2
8 พฤศจิกายน 2014 ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์
ผู้ทำประตู : 1-0 เอ็มเร่ ชาน น.9, 1-1 แกรี่ เคฮิลล์ น.14, 1-2 ดีเอโก้ คอสต้า น.67

โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
01:45 น.      ซันเดอร์แลนด์ Vs เอฟเวอร์ตัน      CTH สเตเดี้ยม 1
01:45 น.      นอริช ซิตี้ Vs วัตฟอร์ด      CTH สเตเดี้ยม 3
02:00 น.      ลิเวอร์พูล Vs เชลซี            CTH สเตเดี้ยม 2