ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันพุธที่ 11 พฤษภาคม 2559
ซันเดอร์แลนด์ - เอฟเวอร์ตัน
ถ่ายทอดสด : ซีทีเอช สเตเดี้ยม 1 (เวลา 01.45 น.)

สนาม : สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์

        เกมสำคัญสำหรับการลุ้นหนีตกชั้นของ 3 ทีม ซันเดอร์แลนด์, นิวคาสเซิ่ล และ นอริช เพราะหาก แมวดำ เก็บ 3 แต้มเกมนี้ จะอยู่รอดทันที พร้อมส่ง สาลิกาดง กับ นกขมิ้นเหลืองอ่อน ลงไปเล่นแชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลหน้า โดยไม่ต้องลุ้นถึงนัดสุดท้าย

        แซม อัลลาร์ไดซ์ กุนซือมากประสบการณ์ พา ซันเดอร์แลนด์ กลับมาอยู่ที่ได้เปรียบสุดๆ หลังพลิกสถานการณ์จากตามหลัง กลับมาแซงชนะ เชลซี 3-2 ในเกมล่าสุดเมื่อสุดสัปดาห์

        สภาพทีม ลามีน โคเน่ เซนเตอร์ฮาล์ฟซึ่งเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาจากนัดก่อน ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง ล่าสุดฟิตกลับคืนทีมแล้ว และคาดว่าจะพร้อมลงเล่นเกมนี้

        นอกนั้นไม่มีปัญหา มีเพียง บิลลี่ โจนส์ แบ็กขวาที่เจ็บสะโพก ต้องรอทดสอบความฟิต

        ดังนั้น บิ๊กแซม จึงพร้อมส่งชุดเดิมลงเล่นต่อเนื่องอีกนัด เริ่มจากผู้รักษาประตู วีโต้ มานโนเน่ แนวรับ ดีอันเดร เยดลิน, ลามีน โคเน่, ยูเนส กาบูล, พาทริค ฟาน อานโฮล์ท

        แดนกลาง ยาน เคียร์ชโฮฟ, ลี แคตเทอร์โมล และ ยานน์ เอ็มวีล่า คุมเกมร่วมกัน

        แนวรุกเป็นหน้าที่ของ วาห์บี คาซรี, ฟาบิโอ บอรินี่ และ เจอร์เมน เดโฟ ที่ยิง เชลซี มาได้ทุกคน

        ฟาก เอฟเวอร์ตัน เล่นแบบไม่มีลุ้นอะไรแล้วในฤดูกาลนี้ เพราะอยู่อันดับ 12 ดีที่สุดคือการแซงขึ้นไปจบครึ่งบนของตาราง

        เป้าหมายที่หวังเอาไว้ก่อนหน้านี้คือถ้วยเอฟเอ คัพ ก็ไปตกรอบรองชนะเลิศ ด้วยน้ำมือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือชาวสเปน ตกเป็นข่าวอาจโดนปลดในช่วงจบฤดูกาลนี้

        สภาพทีมจะได้ รามิโร่ ฟูเนส โมรี เซนเตอร์ฮาล์ฟอาร์เจนไตน์พ้นโทษแบนกลับมา หลังโดนไล่ออกตั้งแต่เกมที่แพ้ ลิเวอร์พูล 0-4

        และอาจได้ แกเร็ธ แบร์รี่ กองกลางตัวรับหายเจ็บโคนขาหนีบด้วย โดยต้องรอทดสอบความฟิต

        ส่วนที่พลาดลงเล่นแน่นอนมี ฟิล จากีลก้า กับ เชมัส โคลแมน เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าทั้งคู่, เคราร์ด เดวโลเฟว เจ็บเข่า และ โทนี่ ฮิบเบิร์ต เจ็บข้อเท้า

        มาร์ติเนซ พร้อมจัดทีมชุดที่ดีที่สุดเพื่อศักดิ์ศรี เพราะรู้ดีว่ามี นิวคาสเซิ่ล กับ นอริช คอยเชียร์อยู่อย่างเต็มที่

        ผู้รักษาประตู โจเอล โรเบลส เฝ้าเสา แผงหลัง ไบรอัน โอเวียโด้, จอห์น สโตนส์, รามิโร่ ฟูเนส โมรี และ เลห์ตัน เบนส์

        แดนกลาง เจมส์ แม็คคาร์ธี่ คุมเกมกับ แกเร็ธ แบร์รี่ แนวรุกส่ง เกวิน มิราลลัส ลงตัวจริง ประสานงานกับ รอสส์ บาร์คลี่ย์ และ อารอน เลนน่อน หน้าเป้ายึด โรเมลู ลูกากู

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        ซันเดอร์แลนด์ : วีโต้ มานโนเน่, ดีอันเดร เยดลิน, ลามีน โคเน่, ยูเนส กาบูล, พาทริค ฟาน อานโฮล์ท, ยาน เคียร์ชโฮฟ, ลี แคตเทอร์โมล, ยานน์ เอ็มวีล่า, วาห์บี คาซรี, ฟาบิโอ บอรินี่, เจอร์เมน เดโฟ

        เอฟเวอร์ตัน : โจเอล โรเบลส, ไบรอัน โอเวียโด้, จอห์น สโตนส์, รามิโร่ ฟูเนส โมรี, เลห์ตัน เบนส์, เจมส์ แม็คคาร์ธี่, แกเร็ธ แบร์รี่, อารอน เลนน่อน, รอสส์ บาร์คลี่ย์, เกวิน มิราลลัส, โรเมลู ลูกากู

        ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์

ผลงานการพบกันที่บ้านซันเดอร์แลนด์
ซันเดอร์แลนด์ชนะ 45 เอฟเวอร์ตันชนะ 20 เสมอ 16
ประตูที่ทำได้ : ซันเดอร์แลนด์ 155 ลูก เอฟเวอร์ตัน 91 ลูก

- ซันเดอร์แลนด์ชนะแค่ครั้งเดียวจาก 10 เกมลีกหลังสุดที่เปิดบ้านรับมือเอฟเวอร์ตัน (เสมอ 4 แพ้ 5)
- แมวดำยิงได้แค่ 6 ประตูจาก 10 เกมดังกล่าว
- เจอร์เมน เดโฟ ยิงได้แค่ 3 ประตูจาก 17 เกมลีกที่พบเอฟเวอร์ตัน ก่อยย้ายมาอยู่กับซันเดอร์แลนด์ แต่ยิงได้ทั้ง 2 นัดในการเล่นให้ "แมวดำ" พบทอฟฟี่
- เอฟเวอร์ตันทำได้ 6 ประตูจากการยิงเข้ากรอบ 8 ครั้งในเกมแรกที่เจอกันต้นฤดูกาลนี้ ขณะที่ซันเดอร์แลนด์ทำได้ 2 ประตูจากการยิงเข้ากรอบ 9 ครั้ง
- อารูน่า โคเน่ ทำ 3 ประตูจาก 2 เกมลีกที่พบซันเดอร์แลนด์ (ทั้งหมดมาจากแฮตทริกในเกมชนะ 6-2 เมื่อเดือนพฤศจิกายน) ไม่มีคู่แข่งทีมไหนที่เขายิงได้มากกว่า (3 ลูกเท่ากับเวสต์บรอมวิช)
- 2 จาก 5 ครั้งที่เอฟเวอร์ตันยิงได้อย่างน้อย 6 ประตูในกมพรีเมียร์ลีก เป็นการเจอซันเดอร์แลนด์ (7-1 เมื่อพฤศจิกายน 2007 และ 6-2 เมื่อพฤศจิกายน 2015)
- ซันเดอร์แลนด์แพ้แค่ครั้งเดียวจาก 9 เกมลีกหลังสุด (ชนะ 2 เสมอ 6)
- ทอฟฟี่ชนะแค่นัดเดียวจาก 9 เกมลีกหลังสุด (เสมอ 3 แพ้ 5)
- ด้วยผลงาน 143 ประตูในพรีเมียร์ลีก ทำให้ เจอร์เมน เดโฟ ห่างจาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (144) ในการติดท็อปเทนดาวยิงสูงสุดของพรีเมียร์ลีก
- โรเมลู ลูกากู ยิงไม่ได้ใน 7 เกมลีกหลังสุดที่ลงสนาม เป็นผลงานแย่สุดนับตั้งแต่มกราคม 2015 (8 เกม)

ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (บ้านซันเดอร์แลนด์)
ซันเดอร์แลนด์ เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1
9 พฤศจิกายน 2014 ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน
ผู้ทำประตู : 1-0 เซบาสเตียน ลาร์สสัน น.67, 1-1 เลห์ตัน เบนส์ (จุดโทษ) น.76

นอริช - วัตฟอร์ด
ถ่ายทอดสด : ซีทีเอช สเตเดี้ยม 3 (เวลา 01.45 น.)

สนาม : แคร์โรว์ โร้ด

        นอริช ซิตี้ ของกุนซือ อเล็กซ์ นีล ต้องหวังพึ่งโชคชะตาแล้ว เพราะหากผลคู่ ซันเดอร์แลนด์ ชนะ นั่นก็หมายความว่า พวกเขาจะตกชั้นทันที แต่ก่อนอื่นต้องเก็บ 3 แต้มจาก วัตฟอร์ด ให้ได้เสียก่อน

        นกขมิ้นเหลืองอ่อน ที่แพ้มารวด 4 นัดติด ชนิดยิงประตูคู่แข่งไม่ได้เลย ต้องขาด จอนนี่ ฮาวสัน กองกลางที่เจ็บเข่าจากเกมที่แล้ว

        ทำให้ แกรม ดอร์แรนส์ พร้อมลงทำหน้าที่แดนกลางแทน

        นอกนั้นอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นจาก นีล มากกว่า ดิวเมอร์ชี่ เอ็มโบคานี่, สตีเว่น เนสมิธ, แม็ทธิว จาร์วิส 3 ตัวรุกที่เป็นสำรองเกมล่าสุด อาจได้ลงตัวจริงบางราย

        การจัดทัพผู้รักษาประตู จอห์น รัดดี้ ลงเฝ้าเสา แผงหลัง อีโว ปินโต้, รัสเซลล์ มาร์ติน, เซบาสเตียง บาสซง, มาร์ติน โอลส์สัน

        แดนกลาง แกรี่ โอนีล คุมเกมกับ แกรม ดอร์แรนส์ แนวรุก เนธาน เร้ดมอนด์, สตีเว่น เนสมิธ, ร็อบบี้ เบรดี้ หน้าเป้า ดิวเมอร์ชี่ เอ็มโบคานี่

        ฝั่ง วัตฟอร์ด ของกุนซือ กีเก้ ซานเชซ ฟลอเรส ชาวสเปน หมดลุ้นอะไรแล้วในซีซั่นนี้ หลังตกรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ขณะที่ในลีกลอยตัวอยู่อันดับ 13

        สภาพทีมได้ตัว วาลอน เบห์รามี่ กองกลางหายเจ็บซี่โครงกลับมาเป็นตัวเลือก แต่ยังขาด เอเตียน กาปู มิดฟิลด์อีกคนที่ยังเจ็บต้องพักต่อไป

        ฟลอเรส อาจสลับนักเตะลงสนามจากนัดก่อนที่บุกแพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 พอสมควร

        ผู้รักษาประตูยังใช้ เอเรลโญ่ โกเมส แนวรับ อัลลัน นียอม, เซบาสเตียน เพรอเดิล, เคร็ก แคธคาร์ท, โฮเซ่ โฮเลบาส

        แดนกลาง อัลเมน อับดี, มาริโอ ซัวเรซ, เบน วัตสัน, ฆูราโด้ ประสานงานร่วมกันต่อไป

        คู่กองหน้า ทรอย ดีนี่ย์ จับคู่ โอเดียน อิกาโล่ ที่ปืนฝืดอย่างแรง ยิงประตูในลีกไม่ได้มา 13 นัดติดต่อกันแล้ว นับตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        นอริช : จอห์น รัดดี้, อีโว ปินโต้, รัสเซลล์ มาร์ติน, เซบาสเตียง บาสซง, มาร์ติน โอลส์สัน, แกรี่ โอนีล, แกรม ดอร์แรนส์, เนธาน เร้ดมอนด์, สตีเว่น เนสมิธ, ร็อบบี้ เบรดี้, ดิวเมอร์ชี่ เอ็มโบคานี่

        วัตฟอร์ด : เอเรลโญ่ โกเมส, อัลลัน นียอม, เซบาสเตียน เพรอเดิล, เคร็ก แคธคาร์ท, โฮเซ่ โฮเลบาส, อัลเมน อับดี, มาริโอ ซัวเรซ, เบน วัตสัน, ฆูราโด้, ทรอย ดีนี่ย์, โอเดียน อิกาโล่

        ผู้ตัดสิน : โรเจอร์ อีสต์

ผลงานการพบกันที่บ้านนอริช
นอริชชนะ 26 วัตฟอร์ดชนะ 10 เสมอ 12
ประตูที่ทำได้ : นอริช 106 ลูก วัตฟอร์ด 56 ลูก

- วัตฟอร์ดชนะ 4 จาก 6 เกมลีกหลังสุดที่เยือนแคร์โรว์ โร้ด (แพ้ 2)
- นอริชยิงเข้ากรอบแค่ครั้งเดียว ในเกมแรกที่แพ้วัตฟอร์ด 0-2 เมื่อเดือนธันวาคม
- เอลเรโญ่ โกเมส นายทวารวัตฟอร์ด เสีย 6 ประตูในเกมกับนอริช ในแชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลที่แล้ว มากกว่าที่เสียให้คู่แข่งทีมอื่นถึง 2 เท่า
- นอริช ยิงติดต่อกัน 22 เกมลีกที่พบวัตฟอร์ด ก่อนหยุดสถิติดังกล่าวจากเกมที่วิคาเรจ โร้ด เมื่อเดือนธันวาคม
- "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" ไม่แพ้ในแคร์โรว์ โร้ด 11 เกมลีกหลังสุดที่พบทีมน้องใหม่ (ชนะ 7 เสมอ 4) นับตั้งแต่พ่ายคารังต่อ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 0-1 เมื่อเมษายน 1995
- นอริชชนะแค่นัดเดียวจาก 8 เกมลีกหลังสุดที่แคร์โรว์ โร้ด (เสมอ 2 แพ้ 5)
- โอเดียน อีกาโล่ ศูนย์หน้าวัตฟอร์ด ยิงไม่ได้ใน 12 เกมลีกหลังสุด หลังทำ 14 ประตูจาก 23 เกมก่อนหน้านั้น
- นอริชยิง ไม่ได้ในเกมลีกปี 2016 ถึง 10 นัด มากที่สุด โดยมีวัตฟอร์ด ตามมาด้วยจำนวน 9 นัด (เท่ากับวิลล่า)
- นอกจากนั้น นอริช ยิงไม่ได้ใน 4 เกมลีกหลังสุด มีเพียงครั้งเดียวที่พวกเขายิงไม่ได้ 5 นัดซ้อน (มกราคม 1993)
- วัตฟอร์ดได้ประตูจากผู้เล่นแค่ 8 คนในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ น้อยที่สุดในลีก

ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (บ้านนอริช ซิตี้)
นอริช ซิตี้ ชนะ วัตฟอร์ด    3-0
16 สิงหาคม 2014 ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์
ผู้ทำประตู : 1-0 แบร็ดลี่ย์ จอห์นสัน น.32, 2-0 เลวิส แกร็บแบน น.59, 3-0 อเล็กซานเดอร์ เตตเตย์ น.61
ใบแดง : โจเอล เอ็คสตรานด์ (วัตฟอร์ด) น.2

โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
01:45 น.      ซันเดอร์แลนด์ Vs เอฟเวอร์ตัน      CTH สเตเดี้ยม 1
01:45 น.      นอริช ซิตี้ Vs วัตฟอร์ด      CTH สเตเดี้ยม 3
02:00 น.      ลิเวอร์พูล Vs เชลซี            CTH สเตเดี้ยม 2