ประเด็นดราม่ากันมาพักใหญ่ สำหรับกรณีเรื่องการเซ็นรับรองบุตร "น้องแม็กซ์เวลล์" ของนักร้อง นักแสดงหนุ่ม "ไมค์" พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล และสาว "ซ่าร่า คาซิงกินี" ล่าสุด วันนี้ (21 พ.ค.) ซาร่าได้เผยย้ำอีกรอบ ถึงกรรมสิทธิ์ ของไมค์ ที่มีต่อน้องแม็กซ์เวลล์ และเรื่องการเซ็นรับรองบุตรมาว่า

ได้ย้าย "แม็กซ์เวลล์" ไปอยู่ภูเก็ตแล้ว บอกที่ตัดสินใจย้ายไปอยู่เพราะสภาพเเวดล้อม เปรยดูโรงเรียนให้ลูกเเต่อยากให้เรียนที่กรุงเทพมากกว่า เเย้มกลับมารับงานในวงการ บอกไมค์ มาหาที่ภูเก็ตเมื่อ 2 เดือนก่อน รับให้ฝ่ายชายบินไปหาลูกได้ เผยไม่ได้คุยกันเรื่องเซ็นรับรองบุตรโบยให้ลูกตัดสินใจเรื่องนี้เองดีกว่า

เป็นไงบ้างไปชีวิตที่โน้น? ก็สบายดีอ่ะค่ะ เหมือนเราได้อยู่กับครอบครัวด้วย (น้องปรับตัวได้ไหม?)น้องเขาโอเคทุกที่ที่มีแม่อยู่ค่ะ(เห็นว่าดูโรงเรียนให้น้อง?)อยากให้เรียนกรุงเทพมากกว่า แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ ตัวเลือกเยอะ แต่ใจอยากให้อยู่กรุงเทพค่ะ ด้วยงานเราเป็นหลัก

แล้วตอนนี้กลับมารับงานที่กรุงเทพมากขึ้น?ก็ด้วยค่ะเพราะเราก็มีงานวงการ ด้านนอกเราทำธุรกิจส่วนตัว ช่วงนี้ค่อนข้างยุ่ง(งานในวงการก็มี ทำไมตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่โน้น?) ด้วยสภาพแวดล้อมและก็มีคุณพ่อคุณแม่แล้วด้วยจุดที่เราเหนื่อยหันไปหาใครไม่มีคนช่วยดูแลน้องเราไม่มีเวลาส่วนตัว เลยตัดสินใจไปอยู่ที่ภูเก็ต อย่างน้อยคุณแม่ก็ช่วยดูแลน้องได้ค่ะ(ย้ายไปอยู่ภูเก็ตคุณพ่อเขามีตามไปไหม?)ไมค์เขาอยู่ไต้หวัน ทำงานต่างประเทศ ไป 2เดือนได้แล้ว (ยังไม่ได้มาเยี่ยมเลย?) ยังค่ะยัง แต่ก็จะมีติดต่อมาบ้างคุยไลน์เรื่องลูกอ่ะค่ะ

ทางเราสะดวกใจให้พ่อเขามาเจอน้องไหม? จริงๆซาร่า ไม่เคยกีดกั้นความเป็นพ่อกับลูกอยู่แล้ว นั่นก็พ่อเขา นี่ก็ลูกเขา ไม่ได้มีกฎเกณฑ์ว่าเจอไม่ได้ ถ้าเขาว่างยังไงก็ได้ค่ะ(มีโอกาสให้เขาเอาลูกมาเลี่ยงเองไหม?)ถ้าขอเอาไปตอนกลางวันเราก็ให้ได้ แต่กลางคืนน้องค่อนข้างจะติดแม่ ถ้าเราไม่ได้เป็นคนเอาน้องนอนเขาก็จะไม่ยอมหลับค่ะ

ตอนนี้ไมค์เซ็นต์รับรองบุตรหรือยัง?เราไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้นานมากแล้ว เหมือนตัวเขากับเราเองก็ลืมไปแล้ว จริงๆเบื้องต้นมีการคุยกัน แต่อีก 2 เดือน แม็กเวลล์ก็จะ2 ปีแล้ว เราเลยรู้สึกว่าไม่เป็นอะไร ไม่ได้มีอะไรสำคัญมันแค่กระดาษใบเดียว ถ้าเขาให้เวลาให้ความรักลูก มีน่าจะดีกว่า(แสดงว่าตอนนี้ไม่ได้มีการเซ็นต์ใบรับรองบุตร?)ใช่ เราก็ไม่ได้ซีเรียสด้วย เรามองว่าถ้าเขาประสงค์จะทำหน้าที่พ่อ มันมีอะไรตั้งเยอะแยะ พาไปกินข่าว พาไปเล่น ไปเที่ยว


    หลายคนมองไปถึงอนาคต?ตอนนี้เรามองว่าเขาจะเซ็นต์หรือไม่เซ็นต์มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเป็นคนไม่จู้จี้จุกจิกและด้วยความที่เราตัดสินใจแยกทางกันแล้วเราก็ทำในหน้าที่แม่ของเรา หาเลี้ยงลูก เขาก็ทำหน้าที่ของเขา 

มีแนวโน้มจะคุยไหม?เจตนาตั้งแรกเขาไม่ได้เป็นคนขอ เขาเป็นคนเอ่ยปากมาเอง แล้วมีช่วงหนึ่งที่มีเรื่องมีราว เราเลยรู้สึกว่าคนเราไม่ต้องพูดดีกว่า จะทำอะไรก็ทำเลยพูดไปแล้วไม่ทำมันรู้สึกแย่(โกรธเขาไหม เขาเคยพูด แล้วไม่ยอมมาเซ็นต์?)มันไม่ได้เรียกว่าโกรธ แต่มันชิน คือกับเราเราโอเคไงเราอยู่กับเขามาหลายปีแต่กับลูกเราก็อยากให้เขาเปลี่ยนเพื่อลูกเพราะการที่เด็กจะโตมามันขึ้นอยู่กับพ่อแม่ด้วย ก็อยากให้เขาระมัดระวังการประพฤติตัว คำพูดคำจาอะไรกับลูก หลังจากนี้ถ้าเขามาเซ็นต์เรายินดีไหมมันไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณเซ็นต์หรือไม่เซ็นต์อยู่ที่ว่าคุณทำหน้าที่ได้มากน้อยแค่ไหนเด็กไม่รู้ว่าการับรองบุตรคืออะไรเด็กรู้แค่ว่าพ่อมาหาเขาไหม นี่พ่อเขานะ ไม่ใช่แค่เห็นพ่อแค่ในหน้าจอค่ะ

ถ้าเขาอยากจะเซ็ยนต์จริงๆให้โอกาสไหม?รอให้น้องโตดีกว่าค่ะมันเป็นสิทธิ์ของน้องเอง เราเป็นแค่แม่วันหนึ่งโตสื่อสารรู้เรื่องไปคุยกับกับพ่อเขาเองดีกว่า

พูดแบบนี้หลังหลังจากนี้จะมีปัญหาอีกไหม?ใครมีปัญหาคะ เขาไม่กล้ามีปัญหาหรอก เราเป็นคนค่อนข้างคุยตรงๆคำนั้นคำนั้น ทุกอย่างมันอยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด หลังจากนี้ก็ไม่คุยอ่ะค่ะ คุยไปก็เดิมๆ จะทำก็ทำเลยดีกว่า