"ขุนพลตราไก่" ฝรั่งเศส เตรียมส่ง ดิมิทรี ปาเยต นำแผนแนวรุกบุกล่าสกอร์ เกมพบ "ยักษ์เขียว" ไอร์แลนด์ ที่มี เชน ลอง พร้อมยิงประตู จากสถิติพบกันก่อนหน้าเป็น ฝรั่งเศสที่เหนือกว่า ในศึกฟุตบอล ยูโร 2016 (รอบ 16 ทีมสุดท้าย) คืนวันอาทิตย์ที่ 26 มิ.ย. ศกนี้

ปรีวิวฟุตบอล ยูโร 2016
(รอบ 16 ทีมสุดท้าย)
วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2559
ฝรั่งเศส - ไอร์แลนด์
ถ่ายทอดสด : ช่อง 3 แฟมิลี่ (13), (เวลา : 20.00 น.)

สนาม : ปาร์ก โอลิมปิก ลียงเน่ส์, (ลียง, ฝรั่งเศส)

        พลิก ดูสถิติการเจอกันของคู่นี้ 16 นัด ที่ ฟีฟ่า บันทึกไว้ ปรากฏว่า ฝรั่งเศส ทำได้เหนือกว่าชนะไป 7 นัด เสมอ 5 และ พลาดท่าแพ้ไป 4 นัด

        "เล ส์ เบลอส์" ทีมชาติฝรั่งเศส ทีมอันดับ 17 ของโลกจากการจัดอันดับของฟีฟ่า เข้ารอบในฐานะทีมอันดับ 1 กลุ่มเอ. ตามคาด หลังจากชนะ โรมาเนีย 2-1, เชือด แอลเบเนีย 2-0 และจบรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเสมอ สวิตเซอร์แลนด์ แบบโนสกอร์ 0-0 ทะลุเข้ามาเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้ายพบกับ ไอร์แลนด์ คู่ปรับเก่าที่เคยมีอดีตกันอยู่

        ครั้งนั้น "ยักษ์เขียว" แพ้ "ตราไก่" ตกรอบเพลย์ออฟ ฟุตบอลโลก 2010 ซึ่งมีจังหวะปัญหาจากการทำแฮนด์บอลของ เธียร์รี่ อองรี อดีตกองหน้าคนดังของทัพตราไก่ ใช้มือแปะบอลเพื่อไม่ให้ออกหลัง ก่อนจ่ายให้ วิลเลี่ยม กัลลาส ยิงประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ รอบเพลย์ออฟ นัดสอง และจบเกมในเวลา 120 นาที 1-1 ส่งผลให้ ฝรั่งเศส ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ที่แอฟริกาใต้ ด้วยประตูรวมสองนัด 2-1 ในท้ายที่สุด

        ดี ดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เทรนเนอร์คนดังของทีมชาติฝรั่งเศส ต้องรอเช็คความฟิตของ อาดิล รามี่ ปราการหลังตัวเก่งที่ไม่ได้ลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่าน มา โดยมีรายงานว่า ไม่ได้บาดเจ็บอะไร เพียงแต่ เดส์ชองส์ ต้องการให้พักและออกกำลังกายในโรงยิม แทน

        สภาพทีมเกมนี้ไม่มี ใครติดโทษแบนเลย สามารถจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามได้ โดยตำแหน่งผู้รักษาประตูให้ อูโก้ โยริส กัปตันทีมลงเฝ้าเสา ส่วนแผงหลังจากขวาไปซ้าย บาการี่ ซาญ่า, อาดิล รามี่, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ และ ปาทริซ เอวร่า ลงประจำการ

        ในแดนกลางเรียก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กับ แบลส มาตุยดี้ ที่ได้พักเป็นสำรอง คืนตัวจริงเพื่อประสานงานกับ ปอล ป็อกบา

        แนว รุก โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ คืนหน้าเป้า โดยมี อ็องตวน กรีซมันน์ เป็นตัวรุกริมเส้น และเรียก ดิมิทรี ปาเยต จอมทัพคนสำคัญคืนตัวจริงด้วย

        ทาง ด้าน "ยักษ์เขียว" ไอร์แลนด์ ผ่านเข้ารอบมาอย่างหวุดหวิดในฐานะทีมอันดับ 3 กลุ่มอี จากชัยชนะนัดสุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม เหนือ อิตาลี 1-0 ซึ่งประตูชัยมาจากการโหม่งของ ร็อบบี้ เบรดี้ ในนาที 85

        ไอร์แลนด์ มีเวลาพักเพียง 3 วัน ก็ต้องทำศึกหนักรอบน็อกเอาท์ทันที ขณะที่เจ้าภาพพักยาวมาตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 19 มิ.ย.แล้ว

        ความ พร้อมเกมนี้ จอน วอลเตอร์ส ศูนย์หน้าฮีโร่ของทีมในรอบคัดเลือก รอบเพลย์ออฟ หายเจ็บเอ็นร้อยหวายแล้ว หลังจากไม่ได้ลงเล่นในสองเกมหลังสุดกับ เบลเยียม และ อิตาลี แต่ตอนนี้สามารถลงซ้อมได้แล้ว

        มาร์ติน โอนีล กุนซือของทีมชาติไอร์แลนด์ ยังต้องรอประเมินอาการบาดเจ็บข้อเท้าของ สตีเฟ่น วอร์ด ฟูลแบ็คที่เจ็บจากเกมเอาชนะ อิตาลี จนไม่ได้ลงซ้อมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยถ้าเล่นไม่ไหว ร็อบบี้ เบรดี้ ผู้ยิงประตูชัยในเกมล่าสุด อาจต้องถอยไปยืนตำแหน่งดังกล่าวแทน

        ใน แนวรับนั้นอาจให้ เชน ดั๊ฟฟี่ กับ ริชาร์ด คีโอห์ ลงยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟด้วยกันต่อไป หลังจากพาทีมเก็บคลีนชีตได้ในเกมเชือดอัซซูร์รี่

        คาดว่า โอนีล อาจปรับทีมอีกเล็กน้อย เวส ฮูลาแฮน มิดฟิลด์ตัวรุกอาจกลับคืนตัวจริงยืนหน้าต่ำแทนที่ ดาริล เมอร์ฟี่ โดยให้ เชน ลอง ยืนหอกเป้าคนเดียว พร้อมได้ เจฟฟ์ เฮนดริค, เกล็นน์ วีแลน, เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์ และ เจมส์ แม็คคลีน ลงผนึกกำลังกันในแดนกลาง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม

        ฝรั่งเศส : อู โก้ โยริส (กัปตันทีม) - บาการี่ ซาญ่า, อาดิล รามี่, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, ปาทริซ เอวร่า - ปอล ป็อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, แบลส มาตุยดี้ - อ็องตวน กรีซมันน์, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, ดิมิทรี ปาเยต

        ไอร์แลนด์ : ดาร์เรน แรนดอล์ฟ - เชมัส โคลแมน (กัปตันทีม), เชน ดั๊ฟฟี่, ริชาร์ด คีโอห์, สตีเฟ่น วอร์ด (ร็อบบี้ เบรดี้) - เจฟฟ์ เฮนดริค, เกล็นน์ วีแลน, เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์, เจมส์ แม็คคลีน - เวส ฮูลาแฮน - เชน ลอง

        ผู้ตัดสิน: นิโกล่า ริซโซลี่ (อิตาลี)

เกร็ดเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- ไอร์แลนด์ กำชับเหนือ ฝรั่งเศส 1-0 ในเกมล่าสุดที่เจอกันในบอลโลกรอบคัดเลือกเมื่อปี 2009
- 5 เกมหลังที่พบกับมีประตูเกิดขึ้นเพียง 4 ลูกเท่านั้น (3 ของ ฝรั่งเศส และ 1 ของ ไอร์แลนด์)
- หนล่าสุดที่เจอกันเกิดขึ้นเมื่อพฤศจิกายน 2009 ในเกมคัดบอลโลกรอบเพลย์ออฟ โดย ฝรั่งเศส ชนะ 1-0 ที่ดับลิน ก่อนกลับมาแพ้ในรัง 0-1 และเสมอกันไป 1-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
- หนสุดท้ายที่ ฝรั่งเศส จบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มของศึกยูโรเกิดขึ้นเมื่อปี 2004 ก่อนไปตกรอบก่อนรองชนะเลิศด้วยการพ่าย กรีซ
- ทีมตราไก่ ไม่แพ้ใครมาแล้ว 15 เกมในรายการเมเจอร์ที่เล่นในบ้าน โดยชนะ 13 เสมอ 2, หนสุดท้ายที่แพ้คือการพ่ายให้กับ เช็กโกสโลวาเกีย 0-2 ในยูโร 1960
- ครั้งล่าสุดที่ ฝรั่งเศส ชนะในรอบน็อคเอาท์ฟุตบอลยูโรคือรอบชิงชนะเลิศยูโร 2000 (ชนะ 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษจากโกลเด้น โกลด์) หลังนั้นพวกเขาแพ้ กรีซ ในปี 2004 และแพ้ สเปน ในปี 2012
- ฝรั่งเศส ไม่เสียประตูมาแล้ว 2 เกมติด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยูโร 1996 โดยประตูเดียวที่พวกเขาเสียในยูโรหนนี้มาจากลูกจุดโทษ
- หนสุดท้ายที่ ฝรั่งเศส ปล่อยใหคู่แข่งยิงเข้ากรอบต้องย้อนไปในเกมกับ โรมาเนีย จากจังหวะจุดโทษนั่นเอง โดยไม่มีคู่แข่งยิงเข้ากรอบทัพตราไก่มานาน 205 นาทีแล้ว
- 9 จาก 10 ประตูหลังที่ ฝรั่งเศส ทำได้ในยูโรรอบสุดท้ายเกิดขึ้นในครึ่งหลัง โดยในยูโรหนนี้ 3 จาก 4 ประตูที่ทำได้เกิดขึ้นหลังนาทีที่ 89 ด้วย
- ทีมตราไก่ ยิงชนเสา-คาน (5) มากกว่าประตูที่ทำได้เสียอีก (4)
- ไอร์แลนด์ ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยชัยชนะเหนือ อิตาลี นับเป็นหนที่สองที่ชนะในยูโรรอบสุดท้ายนับตั้งแต่ชนะ อังกฤษ เมื่อปี 1988
- อูโก้ โยริส สวมปลอกแขนกัปตันลงสนามมาแล้ว 54 เกมให้กับ ฝรั่งเศส มากที่สุดเท่ากับ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เทรนเนอร์ของทีม
- ดิมิทรี ปาเยต ทั้งยิง (2) และแอสซิสต์ (1) ให้ทีม 3 ลูกจาก 4 ประตูที่ทีมทำได้
- ปอล ป็อกบา หาจังหวะพังประตูในรายการเมเจอร์มาแล้ว 18 ครั้ง (10 ในบอลโลก 2014 และ 8 ในยูโร 2015) แต่ยังยิงประตูไม่ได้เลย
- เวส ฮูลาแฮน มีส่วนร่วมกับทั้ง 2 ประตูที่ทีมทำได้ในยูโรหนนี้ โดยยิงในเกมกับ สวีเดน และ แอสซิสต์ในเกมกับ อิตาลี

โปรแกรมฟุตบอล ยูโร 2016
02:00 น.      ฮังการี Vs เบลเยียม          ช่อง 3 แฟมิลี่ (13)
20:00 น.      ฝรั่งเศส Vs ไอร์แลนด์    ช่อง 3 แฟมิลี่ (13)
23:00 น.      เยอรมัน Vs สโลวาเกีย        ช่อง 3 เอชดี (33)