บรรเลงเพลงแข้งต่อเนื่องเหลือเกินสำหรับศึก โตโยต้า ไทยลีก 2016 โดยเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีการหวดกันทั้งหมด 9 คู่รวด ซึ่งเราจะนำมาเสนอ 11 แข้งแจ่มๆ กับระบบ 4-3-3

ทีมงานฟุตบอลสยาม

ผู้รักษาประตู : วัชระ บัวทอง (บีบีซียู เอฟซี)

        นายด่านป้ายแดงที่เสริมเข้ามาสู่ทีมได้ถูกจุดอย่าง "เจ้าระ" วัชระ บัวทอง และเกมที่บุกไปเสมอ ศรีสะเกษ เอฟซี นั้น เจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมอ่านจังหวะและเซฟจังหวะอันตรายของศรีสะเกษหลาย ครั้ง เป็นที่มา1คะแนนในนัดนี้ของบีบีซียู เอฟซี

กองหลัง : ชุมพล บัวงาม (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี)

        ปราการหลังพันธุ์แกร่งนามว่า ขุมพล บัวงาม ของ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี สามารถโชว์เซนต์ในการปักหลักเป็นหัวใจสำคัญในเกมรับให้กับทีมได้อย่างเหนียว แน่น และเป็นเบื้องหลังสำคัญพาทีมคว้าชัยชนะเหนือ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ได้อย่างสวยงาม

กองหลัง : สราวุธ กัลยาณบัณฑิต (บีอีซี เทโรศาสน)

        "เจ้าแฟลต" สราวุธ กัลป์ยาณบัณฑิต กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง หลังจากได้ลงสนามให้กับ บีอีซี เทโรศาสน อย่างสม่ำเสมอ กระทั่งเจ้าตัวเป็นผู้โหม่งให้ทีมตีเสมอ ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปารการ 1-1 ก่อนจบเกมทีมจะเอาชนะไป 4-1

กองหลัง : มาซิโอ โรซาริโอ (สุพรรณบุรี เอฟซี)    

        เป็นอีกนัดที่ปราการหลังตัวเก่งของ สุพรรณบุรี เอฟซีรายนี้ สามารถช่วยทีมไว้ได้หลายครั้ง ทั้งลูกกลางอากาศที่เก็บกินหมด การอ่านเกม รวมถึงการสกัดบอลจากเท้า โรดริโก เวอร์จิลิโอ ที่เกือบจะหลุดเดียว และยังเกือบทำประตูให้ทีมอีก โดยรวมแล้วผลงานยอดเยี่ยม

กองหลัง : เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (นครราชสีมา  มาสด้า เอฟซี)

        สำหรับเกมที่ นครคราชสีมา มาสด้า เอฟซี เปิดบ้านชนะ ชัยนาท ฮอร์นบิล ไป 1-0 นั้น  เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว เรียกได้ว่าเป็นแนวรับกัปตันทีมตัวสำคัญของทีม ที่เล่นได้อย่างแข็งแกร่งและมีส่วนช่วยสกัดบอลให้ทีมไม่เสียประตูหลายต่อ หลายลูก

กองกลาง : บียอร์น ลินเดมันน์ (นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี)

        ถือว่าเกมที่ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เปิดบ้านชนะ ชัยนาท ฮอร์นบิล 1-0 นั้น บียอร์น ลินเดมันน์ เป็นตัวทีเด็ดให้กับเจ้าบ้านอย่างแท้จริงทั้งเรื่องเกมรุกที่ดูดุดันและเล่น ได้อย่างเข้าขากับบรรดาแนวรุกของทีม อีกทั้งเป็นผู้ยิงซัดประตูโทนไปอย่างสุดสวยในเกมดังกล่าว

กองกลาง : ปิยะพล ผานิชกุล (เชียงราย ยูไนเต็ด)

        ดาร์บี้แมตช์ภาคเหนือที่จบลงด้วยชัยชนะของ เชียงราย ยูไนเต็ด สาดกระสุนใส่ สุโขทัย เอฟซี 2-0 นั้น มาจากการทำผลงานได้ดีเหลือหลายสำหรับ "ไดร์นาโม"  ปิยพล ผานิชกุล  แข้งสารพัดประโยชน์ นอกจากจะเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง และความขยันทุ่มเทแล้ว ประตูแรกที่ทีมทำได้ จุดเริ่มต้นก็มาจากเขาคนนี้

กองกลาง : แองเจโล่ มาชูก้า (ราชนาวี)

        เพลเมคเกอร์ ราชนาวีที่โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดกับเกมที่ "ตะหานน้ำ" ราชนาวี เปิดบ้านเจ๊า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0-0 ครั้งแรกในรอบ 6 ปี ซึ่งดาวเตะลูกไฟแห่งปารากวัยรายนี้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในแดนกลางของทีม ราชนาวี มีทั้งลูกบู๊และบุ๋นจนทำให้ราชนาวีไม่ได้เป็รรองบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเลยแม้แต่น้อย เรียกได้ว่าเขาคือคีย์แมนคนสำคัญของทีมอย่างแท้จริง

กองหน้า : เฮแบร์ตี้ เฟอนันเดส (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี)

        ยังคงเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของราชบุรีฯอย่างแท้จริง สำหรับ เฮแบร์ตี้ เฟอนันเดส ที่เป็นตัวทีเด็ดในเกมรุก ปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งได้ตลอดเกม ก่อนที่จะโชว์ความเฉียบขาดเหมาเบิ้ลคนเดียว 2 เม็ดพาทีมประเดิมชัยรังเหย้าใหม่ได้อย่างสวยงาม

กองหน้า : จูเนียร์ เนเกรา (เอ็นเอ็นเค พัทยา ยูไนเต็ด)

        เป็นอีกครั้งที่ จูเนียร์ เนเกรา แสดงให้เห็นว่าเขาคู่ควรกับทีมที่ชื่อ เอ็นเอ็นเค พัทยา ยูไนเต็ด มากเพียงใด หลังจากที่จัดการปั่นป่วนแนวรับของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ชนิดที่ขาดกระจาย กระทั่งใน น.75 เขาเป็นคนยิงตีเสมอ 1-1 ทำให้ทีมคว้า 1 คะแนนอันล้ำค่ากลับออกมาจากรัง ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต

กองหน้า : ธีรศิลป์ แดงดา (เอสซีจี เมืองทองฯ)

        ลูกออกนำ 1-0 แบบสุดสวยของ เอสซีจี เมืองทองฯ นี่แหละที่เรียกว่าวิญญาณเพชฌฆาตของ ธีรศิลป์ แดงดา ที่วอลเลย์แบบบอลไม่ตกพื้น อีกทั้งยังขยันตลอดทั้งเกม 90 นาที ทำให้ทีมบุกมาพิฆาต บางกอกกล๊าส เอฟซี 2-0 สร้างสถิติชนะในเกมลีกติดต่อกัน 14 นัด เข้าไปแล้ว