และแล้วในที่สุด ฝรั่งเศส ก็มาตามนัด ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ยูโร 2016 จะบู๊กับ เยอรมัน ที่สต๊าด เวโลโดรม เมือง มาร์กเซย ทางตอนใต้ คืนวันพฤหัสบดี 7 กรกฎาคม

    เรียกได้ว่าเป็นคู่หยุดโลก ที่แฟนบอลต่างรอคอย รับรองสนามแตกแน่ ที่เวโลโดรม รองรับผู้ชมได้ 67,394 คน

    ชาติเจ้าภาพคว้าชัยชนะตามคาด แต่ที่เกินคาดคือ สกอร์ 5-2 โดยจบครึ่งแรก พวกเขานำห่างถึง 4-0

    เมื่อวันอาทิตย์ 3 กรกฎาคม ฝนตกทั้งวันที่ แซงต์-เดอนีส์ ชานกรุงปารีส เรามาถึงสต๊าด เดอ ฟร้องซ์ ก่อนเตะ 4 ชั่วโมง

    ภารกิจแรกคือ การถ่ายเฟซบุ๊ค ไลฟ์ ออกอากาศสดๆ ทางเฟซบุ๊ค siamsport ทั้ง โมนาลิซ่า, พี่มาเฟียรี่, ลิตเติ้ลโจ คุยกันหน้าสนามทั้งที่ฝนตก พร้อมสัมภาษณ์กองเชียร์ไอซ์แลนด์รุ่นใหญ่

    จากนั้น น้องเบิร์ด ครีเอทีฟ ตากล้องมืออาชีพของเรา ขอตัวไปถ่ายรูป เก็บภาพสวยๆ มาฝากแฟนบอลที่เมืองไทย

    ผู้ชมคู่สุดท้ายของรอบ ควอเตอร์-ไฟนั่ลส์ ที่สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ มีจำนวนทั้งสิ้น 76,833 คน กองเชียร์ทั้งสองทีมส่งเสียงเชียร์ดังลั่นในสนาม แม้ฝนตกก็บ่ยั่น

    ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เซเล็กซิยอนเนอร์ทีมชาติฝรั่งเศส ปรับแท็กติกจาก 4-3-3 มาเล่นระบบ 4-2-3-1 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ให้ อองตวน กรีซมันน์, ดิมิทรี ปาเยต นำเกมรุก วาง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เป็นกองหน้าตัวเป้า และมี มุสซา ซิสโซโก้ เป็นตัวช่วยแนวรุกอีกคน

    โมนาลิซ่า ได้ดูเพลงแข้งของทีมเชียร์ ในสนาม เป็นนัดที่ 4 และดู ไอซ์แลนด์ เกมที่สาม

    เป็นแมตช์ยูโร นัดที่ 15 ที่ตัวเอง เข้ามาดูในสนาม

    เกมรุกของ เลส์ เบลอส์ สมบูรณ์แบบ ทำได้มากถึง 5 ประตู จากนักเตะ 4 คน ชิรูด์ เหมาคนเดียวสองลูก ได้ตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ และ ปอล ป็อกบา, ปาเยต, กรีซมันน์ จัดการคนละประตู โดยตอนนี้ กรีซมันน์ นำดาวซัลโวยูโร ที่จำนวน 4 ประตู

    เดส์ชองส์ เปลี่ยนตัวฮีโร่ ชิรูด์ ออกจากสนามตั้งแต่นาที 60 และเปลี่ยน โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ นาที 72 เนื่องจาก กลัวสองคีย์แมน โดนใบเหลืองเพิ่ม ไม่เช่นนั้นหากยังเล่นยาวจนจบเกม เสี่ยงต่อการได้รับใบเหลือง จะทำให้ทั้งคู่ติดโทษแบนนัดปะทะ เยอรมัน

    นัดนี้แนวรับไอซ์แลนด์ ผลงานแย่ที่สุดตั้งแต่ดูมา สอบตกกันทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ฮันเนส ธอร์ ฮัลล์ดอร์สสัน ผู้รักษาประตู รวมถึง แผงหลัง เบียร์เคียร์ มาร์ แซวาร์สสัน, คารี่ อาร์นาสัน, รักนาร์ ซิเกิร์ดส์สัน, อารี่ สกูลาสัน

    เจอการทำชิ่งต่อบอล เปิดเกมรุกเร็วของเจ้าภาพ อีกทั้งยังยิงประตูแม่นยำ หลังไอซ์แลนด์ เปื่อยยุ่ย

โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เป็นพระเอกเต็มตัวในนัดที่ ฝรั่งเศส ต้อน ไอซ์แลนด์ ในยูโร รอบ 8 ทีมสุดท้าย

    ลาร์ส ลาเกอร์บัค กุนซือร่วมของไอซ์แลนด์กล่าวชม ฝรั่งเศส ว่าโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด ขณะที่ทีมของเขาเล่นผิดพลาด ช้าเกินไป และมาโดนยิงประตูเร็ว ทำให้สภาพจิตใจของนักเตะไม่ดี จนทุกอย่างดูแย่ไปหมด

    ตราไก่ ทำสถิติไม่แพ้ ไอซ์แลนด์ เป็นแมตช์ที่ 12 ติดต่อกัน (ชนะ 9 เสมอ 3) และ 12 จาก 26 ประตูหลังสุดของทีม เกิดขึ้นในครึ่งหลัง

    นอกจากนั้น 3 ครั้งหลังสุดที่ ฝรั่งเศส พบ ไอซ์แลนด์ มีประตูเกิดขึ้น 17 ลูก โดยทั้ง 3 เกมจบลงด้วยชัยชนะ ของ ตราไก่ ทั้งหมด

    ไอซ์แลนด์ ถูกหยุดเส้นทางแห่งความฝันไว้ที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่เมื่อดูผลงานโดยรวม ทุกเกมที่พวกเขาลงเล่นในยูโร รอบสุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทีมเพิ่งแพ้เป็นนัดแรก อีกทั้งเป็น 1 ใน 2 ทีม (เหมือน เวลส์) ที่ยิงประตูได้ทุกนัดในยูโร หนนี้ พวกเขาสมควรกลับบ้านอย่าง วีรบุรุษ แล้ว
   
    ฝรั่งเศส ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเป็นครั้งแรกในรายการใหญ่ นับตั้งแต่เคยเข้ารอบนี้ในฟุตบอลโลก 2006

    และจะเป็นการเล่นนัดตัดเชือกเกมที่ 10 ในทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ (5 ครั้งใน ฟุตบอลโลก, 5 หนในยูโร)

    "เดเด้" จะได้ อาดิล รามี่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ พ้นโทษแบนคนละ 1 นัด กลับมา ในเกมปะทะ เยอรมัน โดยน่าจะกลับไปเล่นสูตร 4-3-3 ตามเดิม

    พร้อมกับที่ ชิรูด์ ต้องการล้างแค้น อินทรีเหล็ก ให้ได้ หลังจาก ฝรั่งเศส แพ้ เยอรมัน 0-1 ในฟุตบอลโลก 2014 รอบควอเตอร์-ไฟนั่ลส์

    ทางด้าน โยอัคคิม เลิฟ กุนซือเยอรมัน มีปัญหามากในการจัดทัพ มาริโอ โกเมซ กองหน้าบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าฉีก ลงเล่นไม่ได้ ซามี่ เคดิร่า บาดเจ็บโคนขาหนีบซ้าย โอกาสลงเล่นมีน้อย และ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ เซนเตอร์แบ็กติดโทษแบน เนื่องจากสะสมใบเหลืองครบตามโควตา

    สองยักษ์ใหญ่เจอกันมาแล้ว 27 นัด ฝรั่งเศส ชนะ 12 ยิง 43 ประตู เสีย 43 ประตู เยอรมัน ชนะ 9 เสมอ 6

    และคุณว่า ผลระหว่าง เยอรมัน - ฝรั่งเศส จะเป็นอย่างไร?!!!!