ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » รอตั้งนาน....โรนัลโด้

รอตั้งนาน....โรนัลโด้

Posted 08/07/2016 by siamsport

การเดินทางนับจากก้าวแรกในแซงต์ เอเตียน ผ่านปารีส, ลียง รวมถึงล็องส์ จนกระทั่งเข้ามายืนรอที่สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ สังเวียนตัดสินแชมป์ยูโร2016 โปรตุเกส สามารถพูดได้เต็มปากว่าพวกเขามีดี ไม่ใช่แค่คริสเตียโน่ โรนัลโด้

 

    แต่ในเวลาเดียวกัน ถ้าโปรตุเกส ไม่มีโรนัลโด้ มันก็ชวนให้สงสัยว่าถนนสู่ฝันของพวกเขาจะมาไกลได้ขนาดนี้ หรือเลี้ยวลงข้างทางที่ไหนสักแห่ง

    บางที สองสิ่งที่ดูจะขัดแย้ง ก็กลับเป็นเรื่องเดียวกัน โปรตุเกส ขาดโรนัลโด้ ไม่ได้ แต่โรนัลโด้ก็ไม่ใช่ทุกอย่างสำหรับทีมฝอยทอง

    ก่อนการเจอเวลส์ ในรอบเซมิ  ฟอร์มของกองหน้ากัปตันทีมวัย 31 ถูกสแกนกรรมว่าไม่ดีเด่และโดดเด่นอย่างที่แฟนโปรตุกีส คาดหวัง

    บางคนด่าแรงด้วยซ้ำว่าแทนจะช่วยแบกทีม (เหมือนแกเร็ธ เบล กับเวลส์) โรนัลโด้ กลับดูเป็นตัวถ่วงเสียมากกว่า

    ทั้งไม่ค่อยมีบทบาทอะไรในเกมรุก แถมมักยืนดูคนอื่นช่วยกันวิ่งไล่แย่งบอล และหนักที่สุดคือการแสดงออกความไม่พอใจ หัวเสีย ฉุนเฉียวจนเกินงามในความผิดพลาดของเพื่อนร่วมทีม พาลไปถึงสไตล์ตั้งรับของคู่แข่ง

    ตั้งแต่เกมแรกมาจนถึงรอบก่อนรองฯ โรนัลโด้ ถูกวาดภาพเป็นตัวร้ายในละคร ขณะที่ฟุตบอลของโปรตุเกส  ก็โดนวิจารณ์ค่อนข้างหนักจากการไม่ชนะใครใน 90 นาทีแม้แต่นัดเดียว

    วันก่อน ผมให้นิยามพวกเขาว่าเป็นทีม "ดาร์ก" ที่สุดในยูโร 2016 มันไม่ใช่การเล่นเกมรับแบบมีเสน่ห์เหมือนอิตาลี และยิ่งไม่ใช่ทีมที่เปิดเกมรุกได้อร่อยเหาะอย่างฝรั่งเศส พวกเขาคือทีมที่ทำประตูใครได้ยาก แต่ก็ยากจะเสียประตูให้ใครเช่นกัน

    โครเอเชีย ที่หักเขากระทิงดุ สเปน มาอย่างหล่อในรอบแรก กลับเล่นไม่ออก ไปไม่เป็น ทำอะไรไม่ได้ ง่อยเปลี้ยเสียขากลายเป็นคนละทีม

    เวลส์ ทำประตูได้ตลอดทุกนัดในทัวร์นาเมนท์ มีค่าเฉลี่ยสองประตูต่อเกม แต่มาตกม้าตายเพราะฟุตบอลสไตล์ดาร์กของทีมฝอยทอง

    กับการมีโรนัลโด้ ยืนขู่ฟอด และนานี่ ขายถั่วต้มเป็นลูกคู่ นักเตะโปรตุเกส รู้ดีว่าตราบเท่าที่ไม่เสียประตู กองหน้าคู่นี้จะหาทางปลดล็อกได้ในที่สุด

    กุนซือ เฟร์นานโด ซานโต๊ส มีส่วนสำคัญมากในการอัพเกรดเวอร์ชั่นแพ้ยากให้โปรตุเกส นับตั้งแต่มารับงานในเดือนกันยายน 2014

    เพลานั้น โปรตุเกส เพิ่งออกสตาร์ตเกมคัดเลือกยูโร 2016 ด้วยการแพ้คาบ้านต่อแอลเบเนีย 0-1 ส่งผลให้เปาโล เบนโต้ โดนตะเพิดพ้นเก้าอี้

    งานแรกของซานโต๊ส คือการคุมทีมลงเกมอุ่นเครื่องกับฝรั่งเศส ที่สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ ในเดือนตุลาคม

    โปรตุเกส แพ้ไป 1-2 แต่หลังจบเกม ซานโต๊ส เรียกนักเตะมารวมในสนาม ก่อนท้าทายให้ทุกคนตั้งเป้ากลับมาเหยียบที่นี่ สังเวียนสต๊าด เดอ ฟร้องซ์ ในอีกเกือบสองปีให้จงได้

    ไม่มีใครคาดคิดว่านักเตะโปรตุเกส จะตอบสนองคำพูดท้าทายของซานโต๊ส ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

    เพราะหลังจากโดนหมูน้อยอย่างแอลเบเนีย บุกกัดในนัดแรกของรอบคัดเลือก ทีมฝอยทองก็ไม่แพ้อีกเลยในเกมทางการ เบ็ดเสร็จรวมแล้ว 13 นัดในยุคของเฟร์นานโด ซานโต๊ส

    ยิ่งถ้าย้อนไปเปิดดูประวัติของกุนซือวัย 61 สมัยคุมทีมชาติกรีซ ก็ต้องบอกว่าเขี้ยวพอตัว

    ฟุตบอลโลก 2010 พาทีมจบที่สองกลุ่ม (ชนะ, เสมอ, แพ้ อย่างละนัด)  ก่อนแพ้ดวลจุดโทษคอสตาริก้า ตกรอบสอง

    ในศึกยูโร 2012 กรีซ ก็ได้อันดับสองของกลุ่ม จากการชนะ, เสมอ, แพ้ อย่างละนัดเช่นเดียวกัน แต่สุดท้ายไปแพ้เยอรมัน 2-4 ในรอบก่อนรองฯ

    สำหรับทีมฝีเท้าประมาณกรีซ การพาหลุดเข้ารอบน็อกเอาท์ได้ ต้องถือว่าไม่ขี้เหร่ สอบผ่านแล้วระดับหนึ่ง

    ไม่น่าแปลกที่เขาจะทำสำเร็จกับโปรตุเกส ถึงแม้ผลงานสามนัดรอบแรกโดนจวกเละกับการเสมอรวด

    แต่สิ่งสำคัญที่คงขาดไม่ได้ คือบุคคลิก คือสไตล์ฟุตบอลที่แพ้ยาก ด้วยความถนัดในการช็อกจุดแข็งของคู่แข่ง

    นัดนี้กับเวลส์ก็ไม่แตกต่าง กองหน้าซึ่งเพิ่งเล่นงานแนวรับหลวมโพรกของเบลเยี่ยม อย่างฮัล ร็อบสัน-คานู หรือแซม โวคส์ กลายเป็นเบบี๋ไปเลยเมื่อเจอกองหลังเขี้ยวลากดินอย่างโชเซ่ ฟอนเต้ กับบรูโน่ อัลเวส

    เกมบุกของเวลส์ พึ่งพาได้คนเดียวคือแกเร็ธ เบล และคงไม่มีใครจะเรียกร้องอะไรจากเขาไปมากกว่านี้กับบทบาทที่ถอยลงมาล้วงบอลต่ำ ไหนต้องกระชากลากขึ้นไปหาโอกาสส่องเอง

    กองเชียร์มังกรแดงพากันคิดถึงแอรอน แรมซี่ย์ ที่เป็นได้แค่ผู้ชมบนอัฒจันทร์เนื่องจากติดโทษแบน

    การขาดหายไปของมิดฟิลด์อาร์เซน่อล ทิ้งช่องโหว่ในการเดินเกมของเวลส์ มากกว่าที่ใครจะคาดคิด ตัวเล่นแทนอย่างแอนดี้ คิง อาจวิ่งสอดไปลุ้นจังหวะเข้าชาร์จได้น่ากลัวในครึ่งแรก แต่เขาก็ขาดทักษะพาบอลกินตัวคู่แข่ง พร้อมทั้งเปิดทางให้เพื่อนร่วมทีมคนอื่น

    โจ อัลเลน พยายามมีบทบาทมากขึ้นในการเซตเกมจากแดนกลาง แต่โปรตุเกส ก็วางอาเดรียน ซิลวา ให้คอยมาร์ก กดดันจนอัลเลน ออกบอลพลาด หรือไม่ก็ครองนานเกินไป

    แดนกลางของเวลส์ ที่ใช้ อัลเลน-เลดลี่ย์-คิง แพ้หลุดลุ่ยบนสมรภูมิดวลกับ ดานิโล่-ซิลวา-เรนาโต้ ของโปรตุเกส

    พอกลางสู้ไม่ได้ เบล ก็ถูกดึงออกจากพื้นที่ปฏิบัติการเพื่อขยับลงมาช่วย เท่ากับปล่อยให้ร็อบสัน-คานู กลายเป็นเหยื่อโอชะของกองหลัง

    รูปเกมอาจจะเหลื่อมกันอยู่ แต่สุดท้าย ผลแพ้ชนะของคู่นี้ก็มาถูกตัดสินกันด้วยจังหวะเซตเพลย์ ซึ่งน่าจะเป็นของชอบเวลส์ ด้วยซ้ำ

    แต่โรนัลโด้ คือนักฟุตบอลที่สามารถเล่นลูกโหม่ง ได้ดีพอกับเท้าซ้าย และไม่เป็นรองเท้าขวา หรือพูดง่ายๆ ว่าเก่งครบเครื่อง

    เวลส์ อาจแสดงให้เห็นว่าพวกเขากลับมาได้ในรอบที่แล้วกับเบลเยี่ยม แต่วินัยเกมรับระหว่างนักเตะเบลเยี่ยม กับโปรตุเกส ต้องบอกว่าคนละเรื่อง

    และขณะที่เวลส์ กำลังคิดถึงหนทางเอาประตูคืนให้เร็ว ก็เป็นอีกครั้งที่การดันขึ้นบุกของคู่แข่ง เปิดช่องให้โรนัลโด้ ลงโทษ เหมือนประตูชัยในช่วงต่อเวลาเหนือโครเอเชีย

    เกมนั้นคือครั้งแรกที่ผมเริ่มสัมผัสถึงพลังงานบางอย่างในทีมโปรตุเกส

    ทรงไม่สวย ไม่น่าเชียร์ แต่เขี้ยวเหลือเกิน บล็อกทางบอลคู่แข่งเก่ง และกองหน้ามีตัวทะลวงอย่างโรนัลโด้ กับนานี่

    เพียงแต่พวกเขากำลังจะเผชิญหน้ากับทีมระดับท็อป-5 บนตารางฟีฟ่า แรงกิ้ง เป็นครั้งแรกของทัวร์นาเมนท์ ไม่ว่าเจอกับใครในนัดชิง

    หลังจากเตะกับทีมอันดับ 34 อย่างไอซ์แลนด์, ออสเตรีย ที่ 10, ฮังการี 20, โครเอเชีย 27 เท่ากับโปแลนด์ ขณะที่เวลส์ ดีกว่าแค่หนึ่งอันดับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »