นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางเอกยอมมาเป็นนางแบบให้เราในชุดว่ายน้ำ แต่ ‘วาววา’ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด บอกกับเราว่าครั้งนี้ “เซ็กซี่” แตกต่างจากครั้งก่อนๆ

คุณเคยถ่ายแบบแนวเซ็กซี่มาบ้างแล้ว วันนี้ชิลล์เลยสิ?
ก็ไม่ชิลล์เท่าไหร่นะคะ นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่วาถ่ายชุดว่ายน้ำ ครั้งก่อนจะเป็นแนวออกสปอร์ตๆ แข็งแรงๆ ไม่ได้ออกแนวเซ็กซี่แบบครั้งนี้

ร่วมงานกับ FHM ครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง?
ไม่ยากอย่างที่คิด แล้วก็ไม่เครียดเท่าไหร่ค่ะ ถ้าเวลาทำงานแล้วเรามีความกดดันเยอะ เราจะทำงานออกมาไม่ดี เพราะเราจะกังวล ทำงานกับ FHM ก็จะสบายๆ ทำให้ทุกอย่างค่อนข้างลื่นไหล

แสดงว่าก่อนหน้าที่จะมาถ่ายคุณแอบมีกังวลหรือกลัวอะไรอยู่บ้างเหมือนกัน?
ก็กังวลว่าภาพจะออกมาเป็นยังไง เราจะโพสได้ไหม แต่ว่าช่างภาพก็น่ารัก เป็นผู้หญิงด้วย ซึ่งมันยิ่งทำให้เราสบายๆ

สำหรับคุณ... ความยากของการถ่ายแบบแนวเซ็กซี่คืออะไร?
รูปร่าง หมายถึงเวลาโพสบางทีอาจจะผิดธรรมชาติ แต่ต้องโพสให้ดูเป็นธรรมชาติ เพราะถ้ามันดูผิดธรรมชาติก็จะดูไม่สวย ดูแข็งๆ ไป ต้องโพสให้ดูมีเคิร์ฟ เลยยากตรงนี้นิดนึง แล้ววันนี้ก็มีอุปสรรคเรื่องลม เรื่องทราย ซึ่งเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ เราก็ต้องทำให้ดีเท่าที่มันเป็น

เรารู้มาว่าคุณเป็นอดีตนักกีฬากระโดดน้ำเยาวชนทีมชาติ... ว่าแต่ คุณไปเป็นนักกีฬากระโดดน้ำได้ยังไง?
ค่ะใช่... คุณแม่วาจะสนับสนุนเรื่องกีฬามาก ตอนเจ็ดขวบก็เรียนยิมนาสติก สิบขวบเรียนบัลเลย์ พอเรียนยิมนาสติกก็จะตัวอ่อน ร่างกายจะยืดหยุ่นมาก ก็จะเล่นกีฬาอะไรได้ง่ายหมด แม่ก็จะให้ตีเทนนิส แล้วก็มาว่ายน้ำ ซึ่งวาว่ายตั้งแต่สี่ขวบพอว่ายน้ำมาผสมกับยิมนาสติกมันเลยกลายเป็นกระโดดน้ำ แม่ก็เลยพาไปเล่น แล้วปรากฏว่าก็ทำได้ดี

มันสนุกตรงไหนเหรอ?
ตอนนั้นมันก็สนุกนะ กระโดดๆ แต่พอโตมาก็รู้ว่าเราไม่ได้ชอบมากขนาดนั้น เพราะถ้าเป็นอะไรที่เราชอบ เราจะแฮปปี้กับการที่ได้ไปซ้อม แต่หลังๆ เราก็จะเอื่อยๆ

แล้ววัดผลแพ้ชนะกันยังไง?
วัดด้วยคอมโพส มันก็ยากเหมือนถ่ายแบบนะ (ยิ้ม) คือต้องท่าสวย ในขณะเดียวกันก็ต้องใช้กำลังขา สปริงตัวขึ้นไป และขณะอยู่บนอากาศก็ต้องสวยด้วย แล้วตอนจังหวะลงน้ำก็ต้องลงมาให้เป็นเส้นตรง ไม่ให้น้ำกระเด็นเยอะ มันจะยากตรงนี้ ถึงจะใช้ตากรรมการวัด แต่ก็จะมีโพสิชั่นที่ถูกต้องอยู่

ปีนี้คุณมีละครหลายเรื่องเลยนี่... ส่วนใหญ่เป็นแอ๊กชั่นใช่ไหม?
ที่ออนแอร์ปีนี้น่าจะ 2-3 เรื่อง แต่ถ่ายอยู่ 4 เรื่อง เป็นแอ๊กชั่น 2 เรื่อง

งานถนัดคุณเลยสิ?
ก็ถนัดนะคะ ก็อย่างที่บอกว่าวาเรียนยิมนาสติกมา เตะขาก็เตะได้สูง มันง่าย โชคดีที่แม่ให้ต้นทุนมาดีมาก ถ้าไม่ได้เค้าอาจจะไม่ง่ายขนาดนี้ แล้วจริงๆ วาก็เป็นคนบู๊ๆ นะ วาจะชอบอะไรที่เป็นเอ็กซ์ตรีม โดดร่ม ดำน้ำ

แต่ละเรื่องบทแตกต่างกันอย่างไร?
อย่างคงกระพันนารี จะเป็นเรื่องที่มีเอฟเฟ็กต์เยอะ ปล่อยพลัง มีเหล็กไหลอยู่ในตัว เป็นซูเปอร์วูแมน อีกเรื่องเป็นกุหลาบตัดเพชร ก็จะมีความแค้นมาจากพ่อแม่ถูกฆ่าตอนเด็ก ก็เลยต้องตามหาเพชรเม็ดนี้ เพื่อตามหาฆาตกร ภายนอกก็จะเป็นเจ้าของร้านอาหาร เป็นนักร้อง สวย แต่เบื้องหลังเป็นโจร ไปขโมยเพชรตามที่ต่างๆ เพื่อหาคนฆ่าพ่อแม่ด้วย ซึ่งเป็นคนขโมยของโจรเพื่อเอาไปคืนเจ้าของอีกทีและก็สืบไปในตัวด้วย เป็นบู๊แบบ
ปิดหน้า เหลือแต่ตา วาว่ามันสมจริง ส่วนไข่มุกมังกรไฟ บทดีมากๆ เป็นผู้หญิงที่ไม่รู้เลยว่าพ่อตัวเองเป็นเจ้าพ่อค้ายาเสพติด พ่อถูกลอบฆ่า เราก็ขึ้นมาคุมแก๊งทั้งหมด ขึ้นมาอยู่เหนือผู้ชาย แล้วก็ทำลายทีละแก๊งๆ แล้วอีกเรื่องก็ลูบคมกามเทพ บทก็จะตลกๆ เป็นผู้หญิงเซ็กซี่ จะไม่ค่อยถูกกับพระเอกเท่าไหร่ เล่นกันขำมาก เข้าฉากกับอินดี้วันแรกก็รู้แล้วว่า สบาย ลอยตัว เพราะว่าเคมีเข้ากัน

ที่ผ่านมาบทไหนใกล้เคียงตัวจริงคุณมากที่สุด?
จริงๆ ทุกเรื่องใกล้เคียงตัววาหมดนะ คนเราจะมีหลายมุมในตัวเอง วาก็จะดึงเมมโมรี่รีคอลมาใช้ อย่างเรื่องบางระจันในเรื่องต้องเล่นเป็นเด็กมากแล้วเด็กไทยสมัยก่อน เด็กจะโตช้า อายุ 18 จะเหมือนอายุ 12 เราก็ดึงเอาตัวเองตอน 10 ขวบมาใช้ ก็เป็นตัวเองเหมือนกัน ความเซ็กซี่ที่เรามีก็ดึงมาใช้บางเรื่อง อย่างคงกระพันนารี มันจะต้องตีลังกา ก็ใช้ยิมนาสติก

แล้วมีเรื่องไหนที่ไกลตัวมาก หรือใช้พลังเยอะกับการเล่นบทนั้น?
ที่ยากสุดวาว่าเป็นฉากเลิฟซีนนะ อย่างวากับพี่ท็อปจะมีปัญหานิดนึง เพราะมันอยู่ด้วยกันจนเป็นพี่น้องแล้วไม่มีความรู้สึกชู้สาวน่ะ พอมันไม่มีปุ๊บ ก็จะยากตรงที่มองตายังไงให้รัก (ยิ้ม) จะจูบแล้วฟิลลิ่งมันไม่ได้ อันนี้ยาก เราก็ต้องเข้าไปเป็นตัวละครให้ได้ เพราะตัวละครเค้ารักกัน

‘สนิทกันมาก’ กับ ‘เพิ่งเจอกันครั้งแรก’ แบบไหนเล่นเลิฟซีนยากกว่า?
เพิ่งมาเจอกันครั้งแรกจะไม่ยาก เพราะมันจะมีความเคอะเขิน ทำตามธรรมชาติ แต่นี่มันไม่เขินกันแล้วไง

‘นางเอกที่ไม่ยอมใคร’ กับ ‘นางร้ายที่ไม่แสดงออก’ คุณคิดว่าบทไหนเล่นสนุกกว่ากัน?
จริงๆ วาชอบเล่นร้าย แต่เป็นร้ายแบบมีที่มาที่ไป ร้ายแบบมีเหตุผล แต่ที่วาได้เล่นอย่างกุหลาบตัดเพชร ก็เป็นนางเอกที่ร้าย ไม่ได้หวานๆหรือถูกกระทำ ก็ลุยเหมือนกัน แต่ร้ายเงียบๆ น่าจะเล่นยาก วายังไม่เคยเล่นเลย แต่อยากเล่นร้ายแบบไม่เงียบ แต่ก็ไม่กรี๊ดกร๊าด มีแอ๊กชั่นทำโน่นทำนี่ แต่คนเข้าใจว่ามันถึงร้าย ประมาณว่าถ้าเป็นกู กูก็ทำวะ เหมือนซีรีส์เรื่องจางอ๊กจอง ตํานานรักแห่งจอมนาง วาชอบนะ นางเอกโดนกระทำเรื่อยๆ จนมันร้าย แต่ร้ายมีมิติ

คุณเคยคิดไหมว่า ตัวเองจะได้มาเป็นนักแสดง?
ตอนเด็กๆ ไม่เคยเลย เป็นอะไรที่ไกลตัวมาก เราดูทีวี ดูคนอื่นเค้าเล่นกัน แล้วเราก็อินด้วยนะ แต่เดี๋ยวนี้เรารู้มาก แล้วไง (หัวเราะ) ไฟเค้าจัดแบบนี้ คนนี้เดินมาจากมุมนี้ ดูไม่อินละ

การเป็นนักแสดง ทำให้คุณดูหนังดูละครไม่สนุกหรือเปล่า?
ยังดูหนังฝรั่งสนุกอยู่ เพราะบางทีเค้าจะมีมุมหรือมีอะไรที่เราไม่รู้ไงแต่ละครส่วนมากจะมีแพทเทิร์นที่เรารู้อยู่แล้วว่า นี่ไง กล้องตัดรับ แล้วยิ่งดารารู้จักกัน ก็รู้อยู่ว่าตัวจริงเค้าเป็นยังไง ตลกเฮฮา ไปเล่นร้าย เราก็เลยไม่ค่อยเชื่อ

ก็เลยต้องไปดูซีรีส์เกาหลี
ใช่ๆ ซีรีส์เกาหลี ซีรีส์ฝรั่ง ซึ่งเราไม่รู้จักเค้า เค้าเล่นแล้วเราก็เชื่อกว่า

สมัยนี้ถ้าไม่มีคู่จิ้นถือว่าไม่ดังป่ะ?
วาว่ามันก็มีหลายกระแสนะแต่วามองว่า แต่ละคนมันมีหนทางในการมีชื่อเสียงไม่เหมือนกัน อย่างวาก็รู้สึกว่าเวลาวาเล่นกับใครในละคร ก็อยากให้คนฟินกับคนที่วาเล่น เฮ้ย! เชื่อ แสดงว่าเราเล่นถึง อันนี้โอเค แต่ถ้าคู่จิ้นไม่ได้รู้สึกว่าอยากมี

การมีคู่จิ้นมันดีไหม?
ก็น่าจะดีสำหรับบางคน แต่เราเฉยๆ ไง

คู่จิ้นสามารถพัฒนาไปเป็นคู่จริงได้ไหม?
วาว่าได้นะ เพราะดาราไม่ค่อยเจอใคร วันๆ ก็ไปถ่ายละคร อยู่กองถ่าย ก็เจอกันอยู่แค่นั้น จะให้ไปเจอใครล่ะ

หนุ่มๆ ที่อยากมาเป็นคู่ของคุณ ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?
ต้องเป็นคนเข้าใจวา เพราะวาจะเป็นคนที่มีมุมมองที่แปลก ที่ใหญ่ ที่ผิดปกติบ้างในบางเรื่อง (หัวเราะ) เช่น วาอยากเป็นนายก ซึ่งอยากเป็นมาสักพักใหญ่แล้ว เวลาวาเจอใครก็จะคุยเรื่องนี้ จะมีทีม โอเค ฉันจะเลือกแก

ทำไมถึงอยากเป็น?
ชอบประเทศไทย วามองว่ามันเป็นเพชร ถ้าจะพัฒนาอย่างใดอย่างหนึ่ง มันจะเหมือนเราเจียระไนด้านเดียว จะไม่มีวันสวย วาไม่ได้ชอบการเมือง ไม่ได้อยากจะมีตำแหน่งหรืออะไร แต่มองว่าถ้าเราพัฒนาทุกอย่างไปได้พร้อมกัน มันจะโคตรเพอร์เฟ็กต์ เพราะประเทศนี้มันสวยงาม มันมีผลไม้ที่อร่อยที่สุด มีดินดี มีอากาศดี มีทุกอย่างที่ดีๆ วาอยากให้มันเป็นอย่างที่มันควรจะเป็น

สมมุติว่า มีผู้ชายคนหนึ่งนัดเดตแรกกับคุณ แต่เขาดันขอเลื่อนนัดด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง คุณจะให้โอกาสเขานัดเจอคุณอีกครั้งไหม?
ก็ต้องดูก่อนว่าเหตุผลอะไร (แต่เขาก็โกหกเราได้นะ) เราเป็นนักแสดงนะ ถ้าจะแสดงเก่งกว่าเรา เราก็อาจจะยอมไป (หัวเราะ) แต่ผู้ชายอ่ะนะ ก็เนียนอยู่แหละ วาให้โอกาส บางทีมันก็เป็นเสน่ห์

แล้วถ้าเขามาตามนัด แต่ดันลืมกระเป๋าสตางค์ คุณจะสานสัมพันธ์ต่อหรือเปล่า?
ร้ายละ (ยิ้ม) คือถ้าบอกว่าหารกันคนละครึ่งยังโอเคนะ แต่ถ้าบอกว่าลืมกระเป๋าสตางค์มานี่... ถ้าเราชอบเค้านะ ก็ไม่เป็นไร เค้าอาจจะอยากลองใจเรา เพราะคนจะมองดาราว่าอยากจะได้แฟนรวย จริงๆ เราก็เลี้ยงได้ แต่ถ้าแพงมากก็ต้องคิดอีกที (หัวเราะ)

คุณว่าแบบไหนแย่กว่ากัน?
ลืมกระเป๋าสตางค์ (หัวเราะ) ไม่มานัดแรกยังพอเข้าใจได้ อาจจะมีธุระด่วน

ถามจริงเหอะ... คุณเป็นผู้หญิงเอาแต่ใจป่ะ?
เอาแต่ใจมาก หมายถึงว่าจะเป็นคนมั่นใจในความคิดตัวเอง แต่ก็จะมีเหตุผล ไม่ใช่เอาแต่ใจไร้เหตุผล อย่างวาทำธุรกิจ น้ำเต้าหู้รสนี้ไม่ได้ ก็คือไม่ได้ แต่คนก็จะพยายามหาเหตุผลว่ามันขายได้นะ แต่วาบอกว่าไม่ได้ ถ้าเราไม่แตกต่าง เราอยู่ไม่ได้ แล้วเราต้องมีมาตรฐานแบบนี้ๆ บางทีมันก็เป็นเหตุผลทางความรู้สึก แต่ความรู้สึกของผู้ก่อตั้งมันสำคัญ

งั้นแค่ตามใจ เขาก็สามารถอยู่กับคุณได้แล้วใช่ไหม?
ได้ (ยิ้ม) แต่ก็ยากนะที่จะตามใจเราทุกอย่าง แรกๆ ก็อาจจะได้ มันต้องดูกันยาวๆ

ความรัก สำคัญกับคุณแค่ไหน?
ก็สำคัญนะ อย่างชีวิตวาเจออุปสรรคเยอะ เวลาเหนื่อยๆ ก็จะมาคิดว่า จะทำไปทำไม จะเหนื่อยเพื่ออะไร เรามีความสุขกับอะไร แต่พอมีความรัก มันจะทำให้ยังมีกำลังใจทำงานต่อ มีชีวิตอยู่ต่อ

ระหว่าง ‘คนที่เขารักเรา’ หรือ ‘คนที่เรารักเขา’ คุณจะเลือกแบบไหน?
คนที่เค้ารักเรา เพราะวาเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง เรามีเป้าหมาย เราก็จะไปๆๆ คนที่อยู่กับเราได้ คือคนที่ต้องรักเรามากๆ ต้องเข้าใจความเป็นเรามากๆ เราไม่ค่อยคิดถึงคนรอบข้าง อย่างแม่อยากได้บ้าน แต่ตอนนี้หนูกำลังจะสร้างบริษัท ที่ทำให้วันหนึ่งแม่อยากได้บ้านหลังไหน หนูก็จะซื้อให้ได้ เพราะฉะนั้นวันนี้แม่ต้องรอ เค้าก็ต้องเข้าใจเราว่า เราทำทุกอย่างเพื่ออะไร 

สวยๆ อย่างคุณ เคยถูกบอกเลิกบ้างป่ะ?
เคยเหมือนกันนะ ตอนมัธยม แล้วก็มาคิดว่า เธอเนี่ยโง่มาก (หัวเราะ) เค้าอยู่ๆ ก็เลิก ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไร เศร้าอยู่ประมาณสองเดือน

ถ่ายละครก็เจ็ดวันแล้ว คุณแบ่งเวลาจากการแสดง ให้กับธุรกิจยังไง?
ตอนนี้วามีร้านแว็กซ์ด้วยนะ แล้วก็มีแมกกาซีนด้วย

แล้วเริ่มต้นทำธุรกิจ So Youngได้ยังไง?
วาชอบดื่มน้ำเต้าหู้มาก ตั้งแต่เด็ก แล้วคุณลุงคุณป้าที่ทำน้ำเต้าหู้ที่เอาถุงมาแขวนหน้าบ้านทุกวันเนี่ยเลิกทำ เพราะส่งลูกเรียนจบโทหมดแล้ว ไม่รู้จะทำทำไม พอเค้าเลิกทำก็เลยไปขอซื้อสูตรเค้า ตอนแรกแม่จะขายเป็นรถเข็น แต่วาก็บอกแม่ว่ามันโตไม่ได้ ต้องขายเป็นขวด วาทำตั้งแต่ ม.5 เป็น Boy Bean ก็ขายส่งทำโน่นนี่ แล้วก็หยุดไป เพราะแม่ปวดหลัง แล้ววาก็ไม่ได้ช่วยเพราะเข้าวงการด้วย แล้วก็กลับมาทำต่อเป็นแบรนด์เดิม ขายที่พารากอน เป็นช็อป แล้วก็ไม่มีเวลา บริหารไม่ไหว ยังเด็กอยู่ด้วย วาถือว่าเป็นคร์อสที่วาจบมหาวิทยาลัยเลยนะ มันเป็นคอร์สธุรกิจที่ทำให้เราเห็นทุกอย่าง เราลงทุนจริง เราขายทุนจริง เรารู้จักการบริหารงาน บริหารคน การสั่งของ การส่งของของเสียเอาไปไว้ที่ไหน แล้วก็เจ๊งไปอีกหนึ่งรอบ

ยังไม่ยอมแพ้...
พอล้มปุ๊บได้แผลเป็นแข็งแรงเลย ตอนหลังก็ทำเป็นโรงงานผลิตเลยมาเป็น So Young ตอนนี้ก็มีน้ำมะพร้าว น้ำเต้าหู้ ต่อไปก็จะมีน้ำฟักข้าว ที่มันสุขภาพๆ ที่เราชอบดื่ม เพราะถ้าทำอะไรที่ชอบ เราจะทำมันได้ตลอดชีวิต

แล้วที่ทำ Dream On ล่ะ ได้ไอเดียมาจากไหน?
ช่วงที่วามีข่าวดราม่าหนัก วาไปร้องไห้กับพระอาจารย์ ท่านก็สอนธรรมะ เยอะแยะมากมาย แต่ไม่เข้าหัวเลย ไม่ไหวแล้ว จะเหนื่อยไปทำไม สุดท้ายได้ความสำเร็จมาก็ต้องตายอยู่ดี เราจะมาทุกข์ทำไม พระอาจารย์บอกว่าน้องวาอยู่เพื่อความฝันสิ ก็เลยได้ Dream On มา คล้ายๆ ไทม์ แม็กกาซีนคือเอาคนที่เป็นเดอะ เบสต์ของแต่ละอาชีพมา ให้คุณเห็นว่าในโลกนี้มีอาชีพมากมาย ฉะนั้นคุณฝันอะไร คุณทำไปเหอะ

คุณดูส่วนไหน?
ก็ไปสัมภาษณ์ แต่ให้น้องๆ ถอดเทปให้ แล้วก็ดูคอนเซ็ปต์ วางว่าเล่มนี้จะเอาใครมา เป็นนิตยสารรายสะดวก เพราะเวลาเราน้อยไง

ทำงานเยอะขนาดนี้ จะมีเวลาให้กับหนุ่มข้างกายเหรอ?
ไม่ค่อยมี เพราะเหนื่อยน่ะ แต่ก็อย่างที่วาบอก ถ้าคนที่เข้าใจเราเค้าก็จะเข้าใจ บางคนจะเรียกร้องอะไรจากเรา ทำไมไม่มีเวลาให้ แต่คนที่เข้าใจ เค้าต้องเข้าใจว่าเราเหนื่อย แล้วเค้าต้องดูแลเราให้ดี

แล้วจะสวีทหวานแหวว ตอนไหนล่ะ?
เดี๋ยวมันต้องมีเวลาสิ ตอนนี้มันยังอยู่ในช่วงที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวนะ ต้องเข้าใจกันนิดนึง

สุดท้ายละ คุณเคยเล่น 10 Fact About You ป่ะ... เราขอแค่ 1 อย่างเกี่ยวกับตัวคุณที่คนอื่นยังไม่รู้?
จริงๆ เป็นคนไม่ชอบใส่บรา (ยิ้ม) จะอึดอัดมาก กลับบ้านไปอย่างแรกที่ทำคือถอดบราก่อน ไม่งั้นจะทำอะไรไม่ได้ อาจจะเป็นคนมีหน้าอกด้วย