นี่เป็นครั้งแรกที่หนุ่มๆ จะได้เห็น‘แซมมี่’ ดลลชา เคาวเวลล์ ถ่ายแบบชุดชั้นในสุดเซ็กซี่ ในฐานะเจ้าของรางวัลสาวเซ็กซี่ที่สุดแห่งปี 2016 จากการโหวตของสาวก FHM ทั่วประเทศ! 

ร่วมงานกับ FHM เป็นครั้งแรก รู้สึกอย่างไรบ้าง?
ยอมรับว่าตื่นเต้นมาก เพราะปกติถ่ายแบบทั่วไปก็จะเป็นเสื้อผ้าอีกแนวอันนี้เป็นครั้งแรกกับ FHM แล้วก็เป็นครั้งแรกที่ถ่ายชุดชั้นในด้วย ก็ยอมรับว่ามีเกร็งๆ บ้างนะ

คุณมักจะบอกใครๆ ว่าไม่ใช่สาวเซ็กซี่ แต่ทำไมถึงได้รางวัล Star’s Light Awards 2015 นางแบบเซ็กซี่แห่งปีล่ะ?
อาจจะด้วยลุคเวลาเราทำงาน เราออกงาน มี่มาดูรูปย้อนหลังส่วนมากก็จะได้อะไรที่เซ็กซี่ ชุดที่มันเซ็กซี่ แล้วเวลาที่เราถ่ายแบบ ถ้าเราจะต้องเซ็กซี่เราก็ต้องไปให้สุดนะ เวลาเราทำงานแต่ละครั้งเราต้องทำให้สุด เพราะฉะนั้น คนภายนอกก็เลยมองเราเป็นลุคเซ็กซี่

จริงๆ แล้ว คุณมีบุคลิกยังไง? 
เป็นคนลุยๆ นะ ไม่ค่อยใส่กระโปรง ถ้าพูดให้เห็นภาพนะคะ ใส่แต่กางเกงยีนส์ ใส่แต่ผ้าใบซะส่วนใหญ่ คนรอบข้างจะรู้ว่ามี่ออกแนวติดดินๆ หน่อย ไม่แต่งตัวเซ็กซี่เลยถ้าไม่ได้ทำงาน

คุณคิดว่าช่วงเวลาไหนที่ตัวเองจะดูเซ็กซี่ที่สุด? 
ไม่มีนะ (คิดอยู่นาน) แต่ถ้าจะมีเซ็กซี่บ้างก็น่าจะเป็นช่วงออกกำลังกาย เซ็กซี่ด้วยชุด บางทีก็ใส่เลกกิ้งกับสปอร์ตบรา

ทุกวันนี้คุณยังต้องกลับบ้านก่อน 3 ทุ่มอยู่หรือเปล่า?
ตอนนี้อะลุ่มอล่วยได้ถึงสามทุ่มครึ่ง (ยิ้ม) เหมือนเราประพฤติตัวดีมาตลอด เวลามีเหตุสุดวิสัย จำเป็นอะไรก็จะโทรบอกก่อน มีเหตุผลให้เค้า ตอนนี้ก็เลยได้เพิ่มเวลามาอีกครึ่งชั่วโมง มันเป็นเวลาที่มีค่ามาก (หัวเราะ)

แล้ว ผจก. เพิ่มเงินเดือนจาก 4 พันเป็น 8 พันหรือยัง?
ยังค่ะ ยังอยู่ในสี่พันห้าพัน แต่มี่ไม่ค่อยได้ใช้อะไร ปกติอยู่กองก็จะกินข้าวกอง นอกจากซื้อกาแฟนิดหน่อย

ใน ‘เสน่หามายา’  คุณต้องเล่นกับดารารุ่นใหญ่รู้สึกอย่างไรบ้าง?
เกร็งมาก อย่าว่าแต่เล่นเลยค่ะ แค่ฟิตติ้ง แค่เจอมี่ก็ตื่นเต้น คือพี่แอนดังมาก สวยมาก ฝีมือเค้าก็ระดับนั้น ไม่มีใครไม่รู้จักพี่แอน สิเรียม ซึ่งถามว่าดีใจไหม ดีใจ และรู้สึกเป็นเกียรติมาก เป็นโอกาสที่ไม่ค่อยมีมาบ่อยๆ พี่เค้าหายไปนานมาก แล้วกลับมาในฐานะผู้จัดและนักแสดงด้วย มี่ค่อนข้างตื่นเต้น ก็จะขอไปเวิร์กช็อป กับเค้าด้วย เพราะเวลาถ่ายจริงเราจะได้ไม่เกร็ง ไม่อยากเป็นคนที่ทำให้ต้องเทค เป็นตัวถ่วงเวลาไปถ่าย

รับบทเป็นเพลงพิณ... ยากสำหรับคุณไหม? 
คาแรกเตอร์คล้ายๆ พี่แอนเลยนะ จะประมาณเป็นสาวมั่นๆ หน่อย จบนอก แล้วก็มีทุกอย่างเพียบพร้อม เหมือนพี่แอน แต่พี่แอนเจ้าชู้ แต่เราไม่เจ้าชู้ เรามีแฟน แต่แฟนเจ้าชู้ แล้วเราก็มีปมด้วย ได้มาเจอพระเอก แต่สุดท้ายเรากลายเป็นเมียน้อย แต่ก็ไม่ยอมคนถ้าดีมาก็ดีกลับ ร้ายมาฉันก็สู้กลับ

แตกต่างจาก ‘พิณ’ ใน ‘ไฟรักเกมร้อน’ ยังไง?
อันนั้นเหมือนมีสองบุคลิก ในพาร์ตแรกช่วงต้นๆ เป็นผู้หญิงใสๆ เรียนเมืองนอก รักกับพระเอก แล้วก็แอบแต่งงานกัน แล้วอยู่ดีๆ กลับมาแล้วรู้ว่า พระเอกเป็นลูกของเมียน้อยพ่อเรา แล้วแม่เราเป็นบ้า แทนที่พ่อจะเลือกเราก็ดันไม่เลือกครอบครัวเรา ไปเลือกอยู่กับทางแม่พระเอก เราก็เลยเกลียดไปเลย เรื่องทั้งเรื่องก็อยู่กับการแก้แค้นพระเอก พยายามจะทำร้ายชีวิตพระเอก ใช้ความรักเป็นเครื่องมือ เรื่องนี้ก็แซ่บนะ ก็ค่อนข้างยากเหมือนกัน ตัวละครพิรญาณ์ในเรื่องนี้กราฟจะขึ้นลงง่ายมาก มันไม่ได้ไล่สเต็ปอารมณ์ มีความสับสนในตัวเอง ซึ่งเราต้องเล่นให้ชัดด้วย ก็ค่อนข้างยาก

ตัวละครสองตัวนี้ มีอะไรเหมือนคุณบ้างไหม?
ไม่ยอมคน ถ้าเราไม่ผิดเราก็สู้ตาย อันนี้คล้าย

ไปถ่ายที่สเปนมาด้วยนี่... มีอะไรตื่นเต้นบ้างไหม?
คงจะตื่นเต้นกับอากาศ แล้วก็วันสุดท้ายที่ได้ช้อปปิง (หัวเราะ) ไปทั้งหมดสิบวัน แต่ย้ายสามเมือง เหนื่อยกับการเก็บของ ย้ายโรงแรม แล้วก็ไปถ่ายเมืองนอกก็ต้องเอาให้คุ้ม เราก็เดินถ่ายไปเรื่อย บางทีที่ที่เค้าไม่ให้ถ่ายก็แอบถ่าย ก็ตื่นเต้นดีนะ ลุ้นๆ ดี แต่ที่สนุกคือ กองเราไม่ได้ไปแบบกองฮอลลีวูดที่ยิ่งใหญ่ เราไปแบบกล้องสองสามตัว แล้วก็มีไฟนิดๆ หน่อยๆ ไม่เหมือนเวลาถ่ายเมืองไทยใช่ป่ะ แล้วฝรั่งเค้าก็ไม่รู้จักเรา เค้าก็ไม่รู้ว่าเราถ่ายละคร ทำงานอยู่แล้วมีฉากพระเอกคุกเข่าขอแต่งงานกลางลาน เป็นจุดที่ท่องเที่ยว ฝรั่งก็คิดว่าขอแต่งงานจริง เค้าก็ตบมือคือถ่ายละครที่เมืองไทยยังไม่อายเท่าที่สเปน แต่ก็สนุกดีนะ เค้ากล้าแสดงออก ยินดีด้วยนะ ก็น่ารักดี

เขาว่าหนุ่มสเปนหล่อจริงป่ะ? 
ไม่เห็นน่ะสิ (ยิ้ม) หล่อเหรอ... แต่ผู้หญิงหน้าตาดีนะ แซมมี่ว่าเค้าได้หุ่น ความสูง สเปนจะเข้มๆ อาจจะได้ความเท่

‘หล่อ’ ของคุณต้องประมาณไหน พอจะบอกได้ไหม? 
ยากนะ มี่ไม่ชอบคนหล่อมาก บางทีหล่อมากเราก็มองว่าไม่หล่อ (หัวเราะ) ถ้าลุคภายนอกก็แบบลีมินโฮ พระเอก The Heirs ด้วยความสูง หุ่น คือมี่ว่าไม่ใช่แค่หน้า มี่ชอบคนที่เท่ๆ หน่อย ดูที่บุคลิกมากกว่า บางทีหน้าเฉยๆ แต่อุ๊ย! ทำไมดูมีเสน่ห์จังคุณเคยใช้ ‘ความรัก’ เป็นเครื่องมือใน

เคยแก้แค้นใครเหมือนพิณในไฟรักเกมร้อนไหม?
ไม่เคย เราไม่ได้เจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนั้น คือถ้าเราเจอเหตุการณ์แบบพิณในเรื่องไฟรักจริงๆ ถ้าเป็นมี่ มี่จะเลือกคุยกับพระเอกให้รู้เรื่อง ไม่ใช่ เอะอะจะเลิก ไม่เอาแล้ว อย่ามายุ่ง ฉันจะแก้แค้น คงคุยมากกว่าสุดท้ายแล้วมันจะเป็นยังไงก็ค่อยคิดขั้นตอนต่อๆ ไป

ถ้ารักคือไฟ แล้วเซ็กซ์จะคืออะไร?
ก็คงต้องเป็นน้ำมันแหละ ถ้ารักจะมาทางไฟแล้ว เซ็กซ์ก็คงต้องเป็นน้ำมัน (ยิ้ม)

บทเรียบร้อยกับบทร้าย บทไหนขัดความรู้สึกคุณมากกว่ากัน?
เรียบร้อย (หัวเราะ) แต่เรียบร้อยก็ไม่ใช่ว่าจะเล่นง่ายนะ เล่นยาก เพราะไม่ใช่ตัวเราด้วยหนึ่ง แล้วก็ถ้าเกิดเราพยายามเรียบร้อย มันจะดูพยายามจนเฟคไปเลย ไม่เป็นธรรมชาติ อันนี้ยาก มี่ว่ายากกว่าให้เล่นร้าย ยากกว่าให้ร้องไห้อีก มันหาความพอดียาก

คุณมีแพลนจะเล่นภาพยนตร์บ้างไหม? 
ถามว่าอยากเล่นไหม อยากนะคะ เพราะว่าเราก็ทำมาเกือบจะครบละ เดินแบบ เล่นละคร ก็เหลือเล่นหนัง ซึ่งวิธีการทางละครกับหนังต่างกันเราก็อยากไปลองเหมือนกันค่ะ

ถ้าเลือกได้คุณอยากเล่นแนวไหน?
แนวไหนที่ดูเหมาะกับมี่มากกว่า ถ้ามากุ๊กกิ๊ก ใสๆ แบ๊วๆ ก็คงไม่ใช่แล้วแหละ มี่ว่านะ คนคงไม่เชื่อ...ผีเหรอ ผีก็น่าเล่นนะ ดราม่า หนังชีวิตอะไรแบบเนี่ย

แบรนด์เสื้อผ้า Fleur Bangkok (เฟลอร์ แบงคอก) ไปได้สวยไหม?
กำลังจะทำ Lookbook คอลเลกชั่นที่ 2 จริงๆ ก็ค่อยๆ ไปนะคะ ไม่รีบ เพราะว่าคนที่เป็นพาร์ตเนอร์ที่ทำคู่กัน เค้ามีแบรนด์ของตัวเองด้วย เราเองก็มีงานของเราด้วย เพราะฉะนั้นเวลาที่ว่างตรงกันค่อนข้างน้อย ช่วงที่ขายคอลเลกชั่น 1 ไป เค้าก็ทำแบรนด์ของเค้า ส่วนเราก็ถ่ายละคร ช่วงที่เลื่อมสลับลายปิดก็ได้มานั่งคุยกัน นัดฟิตติ้ง เพราะมี่เป็นคนลองเสื้อผ้าเอง แล้วก็ลงรายละเอียดเอง มันก็เลยค่อนข้างนาน เพราะไม่ค่อยมีเวลา ค่อยๆ ทำไปเราไม่รีบ

ตอนนี้คุณมีบ้านที่ชั้นล่างเป็นร้านขายกาแฟบรรยากาศดีๆ หรือยัง? 
ยังค่ะ (ยิ้ม) คงใช้เวลาอีกสักพักเลย

คุณอยากปักหลักใช้ชีวิตสโลว์ ไลฟ์ที่ไหน?
ที่ไหนก็ได้ที่เป็นภูเขา หรือที่ที่ไม่ใช่ในเมืองที่วุ่นวาย แต่ก็ไม่อยากไปไกลมากนะ เดี๋ยวนี้ที่แปลกๆ ก็มีเยอะ เราไม่ต้องไปถึงเหนือ กาญจนบุรี หรือเพชรบูรณ์ก็โอเค แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องที่เท่าไหร่ มี่ชอบภูเขามากกว่าทะเลนะอยู่ได้นานกว่า เหมือนมันอยู่ได้จริงมากกว่าอยู่ทะเล รู้สึกว่าไปทะเลวันสองวันพอแล้ว แต่ถ้าเป็นภูเขาอยู่ได้เป็นอาทิตย์

แล้วผู้ชายที่คุณจะยอมให้ใช้ชีวิตร่วมด้วยต้องเป็นแบบไหน?
จริงๆ แบบไหนก็ได้ แต่ทัศนคติต้องไปในทิศทางเดียวกันเท่านั้นแหละ เค้าอาจจะเป็นผู้ชายใส่สูท แต่ทัศนคติเรามองคล้ายๆ กัน แต่ละคนถูกเลี้ยงมาไม่เหมือนกัน ไม่มีใครที่จะเหมือนกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ต่อให้ทัศนคติไม่เหมือนกัน แต่เราปรับจูนเข้าหากันได้ไหม อันนี้สำคัญกว่า หาจุดตรงกลาง

คุณเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า คนที่จะเป็นแฟนคุณต้องใช้ความเข้าใจสูง… คุณเป็นคนเข้าใจยากเหรอ?
ไม่ ด้วยการทำงานมากกว่า ผู้ชายบางคนอาจจะชอบผู้หญิงเซ็กซี่ แต่ไม่ชอบให้แฟนตัวเองเซ็กซี่ ซึ่งเราทำงานอยู่ตรงนี้มันไม่สามารถเลี่ยงได้ เพราะฉะนั้นคนที่เข้ามาและอยู่นอกวงการก็ต้องเข้าใจเราสูง แล้วก็จะเป็นเรื่องของเวลาด้วย บางทีเราว่างก็จริง แต่เราเหนื่อย เราก็อยากอยู่เฉยๆก็ต้องใช้ความเข้าใจ

ผู้ชายที่ไม่ใช่ สำหรับคุณเป็นยังไง?
เมื่อก่อนรู้สึกว่า เด็กๆ น่ะไม่ใช่ คือมี่รู้สึกว่าเราเข้ามาทำงานตรงนี้ เราต้องการคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่า เพราะเค้าอาจจะเข้าใจเราได้มากกว่า แต่พอเราโตขึ้น เราเจอคนเยอะมากขึ้น อายุมันไม่ใช่แล้ว มันอยู่ที่ความคิด อยู่ที่ทัศนคติ มี่ไม่ชอบคนง้องแง้ง บางทีผู้ใหญ่ก็มีมุมเด็กเหมือนกัน ซึ่งเด็กบางทีก็อาจจะโตกว่าเราก็ได้ ไม่ชอบคนที่นิสัยที่เด็กๆ ไม่เกี่ยวกับอายุ งี่เง่า งอแง หรืออะไร

คุณโอเคไหม ถ้าผู้ชายบอกตรงๆว่าจะจีบ?
อยู่ที่ว่าเค้ามาในแนวไหนมากกว่า ถ้าตรงๆ โอเค เพราะเราก็เป็นคนตรง แต่ถ้าแบบจะจีบนะ แต่ก็มีฟอร์ม แล้วก็เป็นพ่อบุญทุ่ม มี่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นะ 

ถ้าเขาถามว่า... จีบได้ป่ะเนี่ย แบบนี้ตรงไปไหม?
คือถ้าเจอกันครั้งแรก ครั้งเดียว แล้วจีบเลยอันนี้เราตกใจ เดี๋ยวก่อนไหม ขอดูก่อน แล้วค่อยมาถามใหม่ ถ้าเกิดเจอกันสักสองสามครั้งแล้วเค้ารู้สึกว่าอยากจีบ อันนั้นก็โอเค บอกตรงๆ

แล้วถ้าเขามาขอจีบตรงๆ นี่แหละ แต่คุณไม่โอเคกับเขา คุณจะปฏิเสธเขาตรงๆ ไหม?
ตรงๆ ค่ะ อย่าเลย... แต่เอาจริงๆ มี่ก็ไม่อยากตัดโอกาส เพราะบางทีอย่างที่บอก เราต้องได้ลองคุย ต้องได้สัมผัสจริงๆ ถ้ามองลุคภายนอกอย่างแรกแล้ว ยังไงก็ไม่ใช่ก็คงบอกเป็นพี่เป็นน้องกันไปก่อนแล้วกันเนาะ อย่าเพิ่งบอกว่าจะจีบเลยดูห่างๆ เราก็ไม่อยากตัดสินคนเราเองก็ยังไม่ชอบให้ใครมาตัดสินเราจากลุคภายนอกเลย ถูกป่ะคะ เราไม่ชอบยังไง เราก็ไม่ทำแบบนั้นกับคนอื่น 

คุณชอบดูของเก่า ของมือสอง?
ใช่ แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องนะ แต่ชอบ

แล้วถ้าผู้ชายเคยแต่งงานมาแล้วมาจีบ คุณโอเคไหม?
ก็โอเคนะ แต่อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าปกติแค่นั้นเอง มันอาจจะมีเหตุผลของเค้าก็ได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะไม่โอ แต่ตอนนี้มุมมองเปลี่ยน แล้วการทำงานก็ทำให้เราโตขึ้นกว่าอายุ

ถ้าเจอคนที่ใช่ คุณจะบอกให้ใครๆรู้ไหม?
ถ้ามั่นใจจริงๆ นะ มี่เป็นคนไม่ปิด แต่ก็ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะบอก อ๋อ! ตอนนี้ก็คบอยู่กับคนนี้อยู่นะคะ ก็คงไม่พูดออกไปเลย คืออย่างน้อยก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเราด้วย แล้วมี่เป็นคนค่อนข้างแยก แต่ถ้าเกิดว่าไม่มั่นใจ เราก็ไม่รู้ว่าจะพูดทำไม เพราะว่าอะไรมันก็ไม่แน่นอน

อะไรที่จะทำให้คุณมั่นใจ?
เวลา เราอยู่ในวงการ เจอคนค่อนข้างเยอะ แล้วเราก็อยู่มาเกือบสิบปีแล้ว มันสอนอะไรเรา มองคนหลายๆ มุม คนมันต้องดูไปนานๆ ถ้าจะให้มั่นใจจริงๆ มี่ก็คงต้องถามตัวเองแล้วถามตัวเองอีก ไม่ใช่แค่เรานะ อีกฝั่งเค้าก็ต้องมั่นใจในเราด้วย ไม่ใช่เรามั่นใจแค่ฝ่ายเดียว แล้วเราก็ไปพูด อ่าว! โป๊ะอีก เค้าใช่สำหรับเรา แต่เราไม่ใช่สำหรับเค้า มันก็เป็นไปได้

เป็นโสดกับมีแฟน แบบไหนแฮปปี้กว่ากัน?
มันแฮปปี้ต่างกันนะ คนมีแฟนกับคนโสดใช้ชีวิตก็ไม่เหมือนกันแล้ว เวลามีแฟนก็จะทำให้หัวใจเราชุ่มชื่น ทำอะไรก็แฮปปี้ไปหมด แต่ข้อเสียก็คือเวลาเราทำงานมันก็จะมีความไม่สบายใจอยู่บ้าง แต่โสดมีเพื่อนมีอะไร ก็เฮฮาได้ แต่บางครั้งก็มีความรู้สึกแบบ เฮ้ย! เพื่อนมีแฟนน่ะ ไปเที่ยวกันเป็นกลุ่ม มันก็ดูน่ารักดี แต่ก็ไม่ได้เว้าวอนว่า ฉันจะต้องหาแฟนแบบนั้น ถ้าเป็นโสดทำงานก็สบายใจ ทำอะไรก็ได้ ไม่ต้องกังวลอะไร

งั้นอัพเดตสถานะหัวใจหน่อย ตอนนี้เป็นยังไง?
โสดมากค่ะ (หัวเราะ) มี่โสดมาตลอด