ผู้รักษาประตู : จอร์แดน พิคฟอร์ด (ซันเดอร์แลนด์)

        นายด่านหนุ่มวัย 22 ปี ช่วยเซฟชีวิตของทีมไว้ได้หลายครั้ง แถมตัวผู้เล่นของ "แมวดำ" ยังน้อยกว่าด้วยหลัง สตีเว่น พีนาร์ โดนตะเพิดไล่ออกจากสนามก่อนผ่าน 1 ชั่วโมงของเกม

        พิคฟอร์ด ปฏิเสธลูกยิงที่น่าเป็นประตูของ แจ๊ค วิลเชียร์ และ โจชัว คิง เอาไว้ได้ ส่งผลให้ทีมบุกคว้าสามแต้มเหนือ เอเอฟซี บอร์นมัธ 2-1 และเป็นชัยชนะในลีกเกมแรกของซันเดอร์แลนด์ อีกด้วย

แบ๊คขวา : วิคเตอร์ โมเซส (เชลซี)

        อีกหนึ่งแข้งที่ลดบทบาทจากปีกเล่นเกมรุกเต็มสูบ มาเป็นวิงแบ๊คคอยเล่นทั้งเกมรุกและรับ

        โมเซส ทำได้ดีเรื่อยๆกับบทบาทใหม่นี้ เติมเกมรุกก็ได้ เล่นเกมรับก็ดี อีกทั้งยังมีจังหวะขึ้นไปจบสกอร์ให้ได้เห็นบ่อยครั้ง

เซนเตอร์ฮาล์ฟ : เอริค ดายเออร์ (ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์)

        ดายเออร์ เล่นได้โดดเด่นมากในเกมนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้

        ซึ่งเกมนี้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ปรับมาใช้ระบบหลัง 3 โดยให้ เอริค เป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟด้านขวา คอยช่วยงานทาง ไคล์ วอร์คเกอร์ อีกหนึ่งแรง

        เจ้าตัวเคลียร์บอลได้ 6 ครั้ง มากกว่าเพื่อนร่วมทีมทุกคน และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของการบุกเสมอ อาร์เซนอล 1-1 ยังคงไร้พ่ายในลีกต่อไป

เซนเตอร์ฮาล์ฟ : ไมเคิ่ล ดอว์สัน (ฮัลล์ ซิตี้)

        "เจ้าเสือน้อย" ต้องการสามแต้มอย่างมาก หลังไม่ชนะใครมา 8 เกมติด โดยแพ้ไปถึง 7 นัดแล้ว

        เกมนี้ทำท่าจะพังอีกตามเคยเมื่อโดนทีมเยือนอย่าง เซาธ์แฮมป์ตัน นำไปก่อน แต่สุดท้ายเจ้าถิ่นมาได้ประตูชัย 2-1 จาก ไมเคิ่ล ดอว์สัน กัปตันทีมคนนี้นี่เอง

        นอกจากจะพังประตูสำคัญให้ กับทีมได้แล้ว ฟอร์มส่วนตัวยังดีอีกด้วย เมื่อเข้าบล๊อกได้ 6 ครั้ง มากที่สุดในลีกเทียบเท่ากับ ไมเคิ่ล คีน ที่เคยทำไว้ในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วย

แบ๊คซ้าย : จอร์จ เฟรนด์ (มิดเดิลสโบรช์)

        "สิงห์แดง" กำลังเล่นได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการเจอกับบิ๊กทีมของลีก

        ในเกมบุกยันเสมอ แมนฯ ซิตี้ ถึงรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม นอกจาก บิคตอร์ บัลเดส นายด่านจอมเก๋าที่ช่วยทีมได้เยอะแล้ว กัปตันทีมอย่าง จอร์จ เฟรนด์ เป็นอีกคนที่โดดเด่นมากเหลือเกิน    

        เฟรนด์ แท็กเกิ้ลสำเร็จ 5 ครั้งมากที่สุดในทีม อีกทั้งยังเป็นคนแอสซิสต์ให้ มาร์เทน เดอ รูน โขกประตูตีเสมอนำ 1 แต้มกลับบ้านได้สำเร็จ

กองกลาง : ไมเคิ่ล คาร์ริค (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

        ได้โอกาสลงสนามเกมลีกเป็นนัดแรก มิดฟิลด์จอมเก๋าทำหน้าที่ได้สุดยอด คุมเกมแดนกลางของ ยูไนเต็ด ได้นิ่งเหลือเกิน และแน่นอนการลงสนามของ คาร์ริค ทำให้ทีมมีผลการแข่งขันที่เป็นใจเสมอ โดยเกมนี้ ปีศาจแดง คืนฟอร์มแล้วโดยการบุกชนะ สวอนซี 3-1

กองกลาง : ปอล ป็อกบา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

        หลังจากทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันในเกมกลางสัปดาห์ กลับมาในลีก ป็อกบา เรียกความมั่นใจของตัวเองกลับมาได้แล้วด้วยลูกยิงไกลเปิดหัวสุดสวย ซึ่งถือเป็นลูกเก่งของเจ้าตัว ทำให้คลายความกดดันไปได้เยอะเลยทีเดียว

        อีกทั้งเจ้าตัวยังผ่านบอลถึง 98 ครั้ง มากที่สุดในเกมนี้อีกด้วย

กองกลาง : ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (ลิเวอร์พูล)

        อีกหนึ่งเกมที่เยี่ยมยอดสำหรับยอดแข้งจากแดนกาแฟ....

        เพลย์เมกเกอร์คนเก่งของทีม ร่ายสกิลทะลายเกมรับของ วัตฟอร์ด จนเสียขบวน และเกมนี้เขาก็จัด 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ ให้กับทีมสำเร็จ

        คูตินโญ่ มีส่วนทำให้ทีมได้ถึง 8 ประตู จาก 7 เกมหลังสุดในลีก (3 ประตู 5 แอสซิสต์)

กองหน้า : โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (ลิเวอร์พูล)

        ผู้เล่นอีกหนึ่งคนที่ ลิเวอร์พูล จะขาดไม่ได้เสียแล้วในการทำเกมรุก

        ฟีร์มิโน่ มีส่วนทำให้ทีมได้ประตูเป็นนัดที่สามติดต่อกัน โดยเกมรัว วัตฟอร์ด 6-1 เขายิง 1 แอสซิสต์อีก 2 ครั้ง

กองหน้า : ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

        พี่หลา คัมแบ๊ก! หยุดเวลาอันเลวร้ายไว้ที่ 609 นาที

        ซลาตัน ยิง 2 ประตูได้ในเกมบุกชนะ สวอนซี 3-1 โดยอีกคนที่ต้องยกเครดิตให้คือ "เสี่ยหมู" เวย์น รูนี่ย์ ผู้จ่ายให้หัวหอกวัยดึกรายนี้ยิงถึง 2 ครั้งด้วยกัน

กองหน้า : เอแด็น อาซาร์ (เชลซี)

        ณ เวลานี้ มิดฟิลด์เลือดเบลเจี้ยน ทำอะไรก็ดูง่ายดายไปหมด

        ไม่ว่าจะ เลี้ยง จ่าย หรือ ยิงประตู อาซาร์ ทำมันได้อย่างไหลลื่น มั่นใจเหลือเกิน โดยเฉพาะลูกยิงทั้งประตูที่เจ้าตัวทำได้ในเกมอัด เอฟเวอร์ตัน 5-0

        เจ้าตัวยิงติดต่อกันเป็นเกมที่สองแล้วกับผลงาน 3 ประตู 1 แอสซิสต์

--------------------------------------------------

สำรอง : บิคตอร์ บัลเดส (มิดเดิลสโบรช์)

        ประสบการณ์ของ บัสเดส ช่วย "สิงห์แดง" ไว้ได้มากเลยทีเดียว

        เจ้าตัวทำผลงานได้ดีในเกมบุกยันเสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 ช่วยเซฟไว้ได้หลายครั้ง ทุ่มสุดตัวจนถึงกับเลือดตกยางออกกันเลยทีเดียว

เซนเตอร์ฮาล์ฟ : ดาวิด ลุยซ์ (เชลซี)

        ฟอร์มแกร่งต่อเนื่องสำหรับปราการหลังคนเก่งของสิงโตน้ำเงินคราม

        เจ้าตัวจัดการ โรเมลู ลูกากู ได้อยู่หมัดแทบไม่มีโอกาสส่องตาข่ายทีมเก่าเลย

        เป็นอีกเกมที่ ลุยซ์ มีส่วนพาทีมเก็บคลีนชีตได้เป็นนัดที่ 5 เข้าไปแล้ว

สำรอง : อดัม ลัลลาน่า (ลิเวอร์พูล)

        ลัลลาน่า เป็นผู้เล่นที่ทุกทีมในพรีเมียร์ลีกอยากมีติดทีมเอาไว้....

        ด้วย ทักษะ พละกำลัง และความขยันของเขา ทำให้การวิ่งไล่เพรสซิ่งคู่แข่งของ "หงส์แดง" มีประสิทธิภาพอย่างมาก จากมิดฟิลด์ตัวรุก เล่นด้านข้าง ถูกปรับแต่งมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง กลายเป็นว่าเจ้าตัวทำมันได้ดีเหลือเกิน ซึ่งเจ้าตัวใส่พานให้เพื่อน 2 ครั้งในเกมกับวัตฟอร์ด ทำให้ยอดสะสมจำนวนแอสซิสต์แตะหลัก 5 ครั้งแล้ว เทียบเท่ากับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เพื่อนร่วมทีม

สำรอง : ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล)

        มาเน่ ยังคงน่ากลัวในแนวรุกของ ลิเวอร์พูล ความเร็วของเขาเล่นงานทาง โฮเซ่ โฮเลบาส จนหัวหมุน และเขาก็มีชื่อทำประตูถึง 2 ลูกด้วยกัน แถมกลายเป็นดาวซัลโวประจำทีมทันทีด้วยจำนวน 6 ลูก

สำรอง : เปโดร โรดริเกซ (เชลซี)

        เปโดร กลับมาเป็นกำลังหลักของ "สิงโตน้ำเงินคราม" อีกครั้ง

        ซึ่งนัดล่าสุดที่ถล่ม เอฟเวอร์ตัน 5-0 เจ้าตัวประสานงานกับ เอแด็น อาซาร์ และ วิคเตอร์ โมเซส ได้อย่างเนียนตา และผลลัพธ์ในเกมนี้ของเขาก็คือ 1 ตุง กับ 2 แอสซิสต์