ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » ได้"อุ้ม"ไร้"โด"!ไทยปรับ4-3-3,ลอดช่องหลังยวบ

ได้"อุ้ม"ไร้"โด"!ไทยปรับ4-3-3,ลอดช่องหลังยวบ

Posted 22/11/2016 by siamsport

 
"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือ "ช้างศึก" เตรียมปรับหมากเป็น 4-3-3 บู๊ สิงคโปร์ โดยให้ "กัปตันมุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ยืนกองหน้าล่าตาข่ายลุ้นทุบสถิติต่อไป รวมทั้ง ธีราทร บุญมาทัน ฟิตพร้อมประจำการแบ๊กซ้ายตัวจริงอีกครั้ง ทว่า ทริสตอง สมชาย โด ส่อนั่งสำรอง หลังเจ็บจากนัดก่อน แม้กลับมาซ้อมแล้วก็ตาม โดย อดิศร พรหมรักษ์ จะไปยืนแทน งานนี้ ช่อง 7 สี, บั๊กกาบู ทีวี และ ฟ็อกซ์ สปอร์ตส์ เอชดี 680 ยิงสดให้ชมกันทั้งประเทศ ในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ ที่สนามฟิลิปปิน สปอร์ตส์ สเตเดี้ยม เวลา 15.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) วันที่ 22 พ.ย. นี้

 วัสพล ปิ่นทอง ผู้สื่อข่าว พร้อมด้วย กิตติ ทัพมาลัย ช่างภาพจาก นสพ.สยามกีฬาและฟุตบอลสยาม รายงานความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย จากแดนตากาล็อคว่า เกมนัด 2 วันอังคารนี้ "ช้างศึก" เตรียมปรับแท็กติกเป็น 4-3-3 หลังใช้ระบบ 3-4-1-2 ในสองเกมหลังที่เจอออสเตรเลีย ศึกคัดบอลโลก รวมถึงแม็ตช์เปิดหัว เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ขยี้ อินโดนีเซีย 4-2

กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เฝ้าเสาเช่นเดิม หลังแผงแบ๊กโฟร์ที่มี กรวิทย์ นามวิเศษ จับคู่กับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ เป็นปราการรหลังคู่กลาง ส่วนแบ๊กซ้ายน่าจะกลับมาใช้ ธีราทร ที่เป็นสำรองในนัดแรก และ อดิศร จะยืนฝั่งขวาแทน โด ที่แม้จะกลับมาซ้อม แต่ทีมคงไม่เสี่ยงให้ลงสนาม เพราะต้องการเก็บความสดไว้ซัดกับ ฟิลิปปินส์ ในเกมสุดท้าย วันที่ 25 พ.ย. นี้

          สารัช อยู่เย็น กับ ปกเกล้า อนันต์ คุมห้องเครื่อง โดยมี "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ รับบทตัวรุก ปีกซ้ายเป็น รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก โดยทางขวาน่าจะเป็น มงคล ทศไกร สนับสนุน "กัปตันมุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ซึ่งซัดแฮตทริกในเกมแรก ที่พร้อมสร้างสถิติใหม่ในรายการนี้ให้ทีมชาติไทย หลังกดรวม 12 เม็ด ตามหลังเจ้าของสถิติอย่าง วรวุฒิ ศรีมะฆะ แค่ 3 ประตู

ลอดช่องแบน1-ไร้หลังตัวเก๋า 
 

ด้าน สิงคโปร์ ภายใต้การกุมบังเหียนของ วาราดารายู ซุนดรามูร์ตี ได้รับข่าวร้ายก่อนเกมเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 รอบแบ่งกลุ่ม นัดสอง กลุ่ม เอ หลังล่าสุด มุสตาฟิค ฟาห์รุดดิน กองหลังวัย 35 ปี ตัดสินใจถอนตัวจากทีมชาติหลังคุณพ่อเสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจ ทำให้แนวรับของทีมยวบลงทันที
 
ถือเป็นข่าวร้ายทีเดียวสำหรับโค้ช ซุนดรามูร์ติ เนื่องจากก่อนหน้านี้ เขาต้องขาด ฮาฟิซ สุยัด แบ็กซ้ายที่ติดโทษแบนจากใบแดงในเกมแรกที่เสมอกับฟิลิปปินส์ 0-0 และ อับดุล ฮามีด สต็อปเปอร์ด้านขวา ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับ ฮัสซัน ซันนี่ แล้ว

อีกคู่ปินส์เจ้าถิ่นเปิดรังบู๊อินโดฯมุ่งชนะทั้งคู่
                  
 

 สำหรับอีกคู่ซึ่งจะเล่นในเวลา 20.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ของวันเดียวกัน ฟิลิปปินส์ เจ้าภาพ ที่พลาดไปได้แต้มเดียวในเกมแรก น่าจะมี ฟิล ยังฮัสแบนด์ กองหน้าตัวหลักลงบู๊ ขณะที่อินโดนีเซียแน่นอนว่าอาจจะมาตั้งรับและสวนกลับ โดยใช้ความแม่นยำของปีกทั้งสองข้าง เพื่อเปิดให้ โบอาซ โซลอสซ่า หัวหอกตัวเก่งเข้าทำสกอร์
 
ในเรื่องของผลงานที่พบกันของทั้งสองทีมในถ้วยใบนี้ ปรากฏว่ากลายเป็นฟิลิปปินส์ที่สู้แทบไม่ได้ เมื่อชนะ 1 แพ้ 5 ได้ 5 เสีย 21 ประตู ประกอบด้วย วันที่ 27 ส.ค. 1988 ฟิลิปปินส์ แพ้ อินโดนีเซีย 0-3 (ก) ซูซูกิ คัพ รอบแรก, วันที่ 6 พ.ย. 2000 ฟิลิปปินส์ แพ้ อินโดนีเซีย 0-3 (ก) ซูซูกิ คัพ รอบแรก วันที่ 23 ธ.ค. 2002 ฟิลิปปินส์ แพ้ อินโดนีเซีย 1-13 (ก) ซูซูกิ คัพ รอบแรก, วันที่ 16 ธ.ค. 2010 ฟิลิปปินส์ แพ้ อินโดนีเซีย 0-1 (ห) ซูซูกิ คัพ รอบรองฯ นัดแรก, วันที่ 19 ธ.ค. 2010 ฟิลิปปินส์ แพ้ อินโดนีเซีย 0-1 (ย) ซูซูกิ คัพ รอบรองฯ นัดสอง และวันที่ 25 พ.ย. 2014 ฟิลิปปินส์ ชนะ อินโดนีเซีย 4-0 (ก) ซูซูกิ คัพ รอบแรก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »