เจิดยกอิสตันบูลเจ๋งสุด-ลื่นเกมเชลซีเป็นตราบาป
Posted 25/11/2016 by siamsport
สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานกัปตันทีมลิเวอร์พูล ยกเกมรอบชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เอซี มิลาน ที่ อิสตันบูล ปี 2005 เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตค้าแข้ง ขณะที่เกมลีกกับ เชลซี ปี 2014 ที่เขาลื่นล้ม มีส่วนทำให้ทีมแพ้ และชวดลีกในบั้นปลาย เป็นตราบาป และหายนะครั้งใหญ่ในชีวิต พร้อมยอมรับว่าปัญหาความฟิต สังขารที่ร่วงโรยคือปัจจัยทำให้เลือกแขวนสตั๊ด
สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานแข้งทีมชาติอังกฤษ และลิเวอร์พูล ที่เพิ่งประกาศแขวนรองเท้าหมาดๆ ย้อนอดีตวันวาน โดยยกเกมนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ อิสตันบูล ปี 2005 เป็นที่สุดของค่ำคืนแห่งความทรงจำ ขณะที่เกมลีกกับ เชลซี ปี 2014 คือตราบาปที่จะหลอกหลอนเขาไปตลอดชีวิต เพราะมีส่วนทำให้ "หงส์แดง" พลาดโอกาสที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรก
ลิเวอร์พูล อยู่ในตำแหน่งที่มีโอกาสคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกปี 2014 โดย ณ เวลานั้นพวกเขาลุ้นแชมป์กับ เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ "หงส์แดง" มีเกมสำคัญกับ เชลซี ที่ แอนฟิลด์ เดือนเมษายน 2014 ที่ลงเอยด้วยการแพ้คาบ้าน 2-0 โดยมีไฮไลท์คือการล่นล้มของ เจอร์ราร์ด ที่ทำให้ เดมบ้า บา ได้บอลไปยิงประตูเบิกร่อง 1-0 ช่วงนาทีสุดท้ายครึ่งแรก ขณะที่ย้อนไปปี 2005 ลิเวอร์พูล ในยุค ราฟาเอล เบนิเตซ เข้าชิงถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก เจอ เอซี มิลาน ที่ อิสตันบูล และตามหลัง 3-0 ในครึ่งแรก แต่กลับไล่ตีเสมอ 3-3 และคว้าแชมป์จากการดวลจุดโทษหน้าตาเฉย
"แน่นอนว่าต้องเป็นเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ อีสตันบูล ปี 2005 (ช่วงเวลาที่ดีที่สุด)" เจอร์ราร์ด กล่าวกับ บีที สปอร์ต "การพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 5 และได้เก็บถ้วยรางวัลไว้ตลอดกาล การได้เล่นรายการนี้เป็นเหมือนความฝัน แต่การได้ถ้วยแชมป์หลังจากนั้น และในเกมที่น่าจะเป็นหนึ่งในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ดีที่สุดมันมหัศจรรย์จริงๆ"
"สิ่งดีของผมคือการที่ผมได้มีส่วนสำคัญในเกม การเป็นกัปตันทีมทำให้ผมแบกความกดดันที่จะต้องทำผลงาน พอมองย้อนกลับไป ผมมีความสุขกับสิ่งที่ออกมา แต่ผมก็มีจุดตกต่ำที่โหดร้ายหลายอย่าง เกมกับเชลซี มันเป็นสิ่งหนึ่งที่จะหลอกหลอนผมไปอีกนาน มันเป็นความรู้สึกที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่คุณรู้สึกสุดยอดที่สุด เกมกับเชลซี ในช่วงเวลาสำคัญ มันให้ความรู้สึกเหมือนหายนะที่เกิดขึ้นในชีวิตของผม" เจอร์ราร์ด กล่าว
เจอร์ราร์ด ซึ่งเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ 114 นัด และย้ายไปเล่นที่ สหรัฐฯ 2 ปี เผยอีกว่าสภาพความฟิตเป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนทำให้เขาเลิกเล่น "มันก็มีเหตุผลอยู่ 2-3 ข้อ คุณรู้ว่าเวลานี้ต้องมาถึง ร่างกายมันบอกคุณเอง ความเจ็บปวดถามหาต่อเนื่อง คุณรู้สึกไม่เหมือนเดิมเวลาอยู่ในสนาม"
"ช่วงไม่กี่ปีมานี้ผมรู้สึกเลยว่าผมช้าลง และผมเล่นได้ไม่เหมือนก่อน มันทำให้หงุดหงิดมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ผมได้ยินหลายๆ คนพูดมาหลายปี พวกเขามักบอกว่า - ไปโดยเหลืออะไรไว้, อย่าอยู่เล่นนานเกินไปจนมันกลายเป็นความอับอาย - ผมรู้สึกเลยว่ามันไม่ไกลเกินไป และตอนนี้แหละคือช่วงเวลาที่เหมาะสม"
"ผมบาดเจ็บบ่อยมากในช่วง 3-4 เดือนสุดท้ายกับแกแล็กซี่ ผมไม่รู้สึกฟิตแบบแต่ก่อน เกมแต่ละเกมเป็นความท้าทายมากขึ้นๆ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนๆ และพื้นที่สูงๆ การเดินทางมีผลกับผม มันกลายเป็นช่วงเวลาหนึ่งมากกว่าที่จะเป็นช่วงเวลาที่พิเศษ ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมามีบางครั้งที่ผมคิดว่า - วันนี้ชั้นเล่นไม่ดีเลย - หรือ "หมอนั่นเล่นดีกว่าชั้น - ผมไม่ชอบพูดแบบนี้ เพราะฉะนั้น ตอนนี้แหละ ถึงแก่เวลาแล้ว" ตำนานวัย 36 ปี กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
หมวดไวกิ้ง ตำรวจสาวขวัญใจหนุ่ม ๆ...
แป้ง สุกานดา หรือ แป้งสามป๋องซาว...
เสี่ยว ปุย ยี่ อดีตดาวดัง OnlyFa...
แม่เจ้าโว้ย! นักร้องสาวนุ่งบิกิน...
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
คลิปไฮไลท์