เผยโฉม 11 ยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกวีก 13
Posted 28/11/2016 by siamsport
ผู้รักษาประตู : ดาร์เรน แรนดอล์ฟ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด)
นายทวารวัย 29 ปีรายนี้ โชว์ซูเปอร์เซฟจังหวะสำคัญได้หลายครั้ง ทั้งจังหวะหลุดเดี่ยวของ มาร์คัส แรชฟอร์ด, ลูกยิงช่วงท้ายครึ่งแรกของ เจสซี่ ลินการ์ด และลูกยิงไกลของ ปอล ป็อกบา ก่อหมดเวลา 10 นาทีสุดท้ายของเกม ส่งผลให้ทีม "ขุนค้อน" บุกมาคว้าหนึ่งแต้มกลับบ้านจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จด้วยสกอร์ 1-1 และได้ถูกรับเลือกให้เป็น แมน ออฟ เดอะ แม็ตช์ ประจำเกมนี้ด้วย
วิงแบ๊กขวา : วิคเตอร์ โมเซส (เชลซี)
ดูเหมือนว่า โมเซส จะหลงรักตำแหน่ง "วิงแบ๊กขวา" เข้าอย่างจัง เมื่อโชว์ฟอร์มได้ดีอย่างต่อเนื่อง และเกมลอนดอน ดาร์บี้ เจ้าตัวเป็นผู้ยิงประตูชัยดับสถิติไร้พ่ายในลีกของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ลงได้สำเร็จด้วยสกอร์ 2-1 ส่งทีม "สิงห์บลูส์" ขึ้นไปยืนจ่าฝูงได้อีกหนึ่งสัปดาห์ อีกทั้งยังถูกรับเลือกให้เป็นแข้งยอดเยี่ยมประจำเกมเป็นนัดที่สองติดต่อกัน แล้ว
เซนเตอร์ฮาล์ฟ : เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า (เชลซี)
อีกหนึ่งดาวเตะที่ถูก อันโตนิโอ คอนเต้ จับแต่งพันธุกรรมมาเล่นในตำแหน่ง เซนเตอร์ฮาล์ฟ ด้านขวา ในระบบ 3-4-3
เซซาร์ ยังคงฉายฟอร์มเก่งต่อเนื่องกับตำแหน่งนี้ ซึ่งผลงานในเกมเขาเด่นมากในจังหวะเข้าแท็กเกิ้ลคู่แข่ง โดยแท็กเกิ้ลสำเร็จได้ถึง 7 จาก 10 ครั้ง ถือว่ามากที่สุดในเกมนี้ อีกทั้งยังเคลียร์บอลได้ 5 ครั้ง และเข้าสกัดได้อีก 4 ครั้ง
อัซปิลิกวยต้า เป็นแบ๊กร่างเล็ก ที่เล่นได้ดีกับทุกตำแหน่งในแนวรับทั้ง แบ๊กขวา-ซ้าย รวมไปถึงเซนเตอร์ฮาล์ฟด้านขวา อีกทั้งสไตล์การเล่นที่มีความเร็ว เข้าสกัดแม่นยำ เล่นได้ชัวร์ เป็นตัวตอดที่น่ารำคาญสำหรับคู่ต่อสู้สุดๆ ด้วยความคล้ายคลึงนี้ทำให้เรานึกถึง ฟิลิปป์ ลาห์ม ของ บาเยิร์น มิวนิค ขึ้นมาทันที ข้อหาที่มีการเล่นที่ใกล้เคียงกัน
เชื่อว่าแบ๊กทีมชาติสเปนรายนี้ ยังพัฒนาได้อีก และมีสิทธิ์เทียบชั้นกับ อดีตกัปตันทีมชาติเยอรมันได้แน่นอนในอนาคต
เซนเตอร์ฮาล์ฟ : เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค (เซาธ์แฮมป์ตัน)
แข็งแกร่งต่อเนื่องสำหรับปราการหลังสัญชาติดัตช์ ในเกมเปิดบ้านเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0
ฟาน ไดจ์ค เข้าสกัดบอลสำเร็จ 5 ครั้ง มากที่สุดในนัดนี้ ทำให้ทีมเก็บคลีนชีตได้เป็นนัดที่สองติดต่อกัน
เซนเตอร์ฮาล์ฟ : อันเจโล่ อ็อกบอนน่า (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด)
พุ่งเข้าบล็อกลูกยิงของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ในช่วงท้ายครึ่งแรก ถือเป็นจังหวะสำคัญที่ทำให้ เวสต์แฮม ไม่เสียประตูที่สองก่อนจบ 45 นาทีแรก และทีมก็สามารถคว้าแต้มกลับบ้านได้สำเร็จ แถมเจ้าตัวยังเล่นได้เด่นที่สุดด้วยในบรรดาแผงหลังทีมเยือน
วิงแบ๊กซ้าย : เจมส์ มิลเนอร์ (ลิเวอร์พูล)
"ผมจะเล่นทุกตำแหน่งเพื่อทีม" นี่คือคำมั่นสัญญาที่ทางแข้งสารพัดประโยชน์รายนี้พ่นออกมาเพื่อช่วยให้ทีม "หงส์แดง" มีผลงานที่ดีในทุกๆเกม
ถึงตอนนี้เส้นทางในสายงานใหม่ของ เจมส์ กำลังไปได้สวย แถมคงเส้นคงวาสุดๆ เมื่อเขากำลังสนุกกับตำแหน่งนี้ที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ มอบให้
และอีกเรื่องที่ยังทำได้ไม่มีข้อบกพร่องนั่นก็คือการรับหน้าที่ เป็นมือปืนหมายเลข 1 ในระยะ 12 หลาให้กับทีม ซึ่งในเกมเปิดบ้านเอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 เจ้าตัวก็สังหารไม่พลาด ถือเป็นประตูที่ 5 ในซีซั่นนี้ของเขา ซึ่ง 5 เม็ดดังกล่าวมาจากลูกยิงที่จุดโทษเพียวๆ
มิลเนอร์ ถือเป็นแข้งที่ถูกโฉลกกับ ซันเดอร์แลนด์ เหมือนกัน เมื่อเขาทำประตูใส่ทีม "แมวดำ" ได้ตั้งแต่ค้าแข้งกับ แอสตัน วิลล่า, นิวคาสเซิ่ล, ลีดส์, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จนมาถึง ลิเวอร์พูล
กองกลาง : กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน (สวอนซี ซิตี้)
จอมทัพทีมชาติไอซ์แลนด์ ยิง 1 ฟรีคิกสุดสวยเป็นประตูตีเสมอให้ทีม หงส์ขาว กลับสู่เกม และจัดการทำ 1 แอสซิสต์ให้ เฟร์นานโด ยอเรนเต้ กองหน้าตัวสำรองยิงประตูสำคัญให้กับทีม โดยรวมแล้ว ซิเกิร์ดสัน โดดเด่นที่สุดในเกมนี้เลยทีเดียว
กองกลาง : เลรอย เฟอร์ (สวอนซี ซิตี้)
เฟอร์ เป็นอีกหนึ่งมิดฟิลด์จอมสอยตาข่ายในพรีเมียร์ลีก เจ้าตัวมักจะสอดขึ้นไปทำประตูได้บ่อยครั้ง และเกมนี้ก็กดไป 2 ดอกส์ ส่งผลให้เจ้าตัวทำไปแล้ว 6 ประตู นำเป็นดาวซัลโวของทีมหงส์ขาวในขณะนี้
กองหน้า : อเล็กซิส ซานเชซ (อาร์เซนอล)
โหดเสมอ....เมื่อเธอต้องการ น่าจะเป็นคำนิยามที่ใช้ได้เลยสำหรับฟอร์มของ อเล็กซิส ซานเชซ ในเกมเปิดบ้านเอาชนะ เอเอฟซี บอร์นมัธ 3-1
นัดนี้ ดาวเตะทีมชาติชิลี ใช้โอกาสในการทำประตูไม่เปลืองเลย เมื่อได้ยิง 4 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้ง และมันก็เพียงพอกับการได้มาถึง 2 ดอกส์
นอกจากจะทำประตูได้แล้ว อเล็กซิส ทำงานหนักเพื่อทีม ไม่อยู่นิ่งกับที่ ปั่นป่วนกองหลังทีมเยือนเสียจนหัวปั่น และนั่นก็สมควรแก่การได้เป็น แมน ออฟ เดอะ แม็ตช์ ประจำเกมนี้
กองหน้า : เฟร์นานโด ยอเรนเต้ (สวอนซี ซิตี้)
หัวหอกสัญชาติสแปนิช คือผู้ชี้ชะตาให้กับ สวอนซี อย่างแท้จริงในเกมเปิดบ้านเอาชนะ คริสตัล พาเลซ สุดระทึก 5-4 โดยเขาลงมาเป็นสำรองแล้วทำ 2 ประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลังนาทีที่ 90+1 และ 90+3 ส่ง "หงส์ขาว" เก็บสามแต้มไปได้ในที่สุด
กองหน้า : เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
อันตรายเสมอเมื่อยามที่ อเกวโร่ ได้ลงสนามล่าตาข่าย และเกมบุกไปชนะ เบิร์นลี่ย์ ถึงรัง เทิร์ฟ มัวร์ 2-1 เขาเป็นคนพัง 2 ประตูให้ทีมเก็บสามแต้มสำคัญ หลังจากโดนเจ้าบ้านยิงนำไปก่อน ทำให้เจ้าตัวขึ้นไปนำดาวซัลโวร่วมกับ ดีเอโก้ คอสต้า ศูนย์หน้า เชลซี ที่ 10 ประตูเท่ากัน
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์