5 ประเด็นเด็ดหลังเกมหงส์หล่นสวรรค์พ่ายบอร์นมัธสุดช็อก
Posted 06/12/2016 by siamsport
เกมสุดมันส์ที่ วิทาลิตี้ สเตเดี้ยม ลิเวอร์พูล จะชนะอยู่แล้ว แต่พลิกกลับมาแพ้บอร์นมัธชนิดที่เหลือเชื่อจริงๆ ซึ่งมีประเด็นเด็ดอะไรหลังเกมจบบ้าง เราจะไปไล่เรียงกัน
1. ขาดมาติปคือหายนะของทีม
ในเกมกับบอร์นมัธ ทีมหงส์แดง ใช้งานลูคัส เลย์ว่า ลงมาแทนที่ โจเอล มาติป ที่มีอาการบาดเจ็บ โดยจับคู่กับเดยัน ลอฟเรน ปรากฎว่าเป็นอย่างที่เห็นคือ ลูคัส แทนที่มาติปไม่ได้เลย
สถิติของมาติป เวลาที่่ลงสนาม ปรากฎว่าลิเวอร์พูล ชนะ 10 เสมอ 3 ส่วน 2 เกมที่เขาไม่ได้ลง ปรากฎว่าแพ้รวดทั้ง 2 เกม
โอเค ลูคัสอาจจะมีเชิงบอลที่ดี แต่อย่าลืมว่าพื้นฐานเขาคือมิดฟิลด์ ในการต้องเล่นเกมรับเต็มรูปแบบ เขาทำได้ไม่ดี ความเร็วน้อยเกินไปที่จะไล่ตามกองหน้าคู่แข่งทัน ส่วนสูงก็น้อย แย่งโหม่งกับใครก็ลำบาก
ลูคัส พอเล่นขัดตาทัพได้ชั่วคราว หรือลงได้ เวลาเจอกับทีมเล็กๆในบอลถ้วย แต่ในเกมที่โดดกดดันบีบคั้นทุกนาที เขาคือจุดอ่อนสำคัญในแนวรับจริงๆ
2. นายทวารหงส์ไม่เปรี้ยงสักคน
ลอริส คาริอุส เป็นเหยื่อโจมตีของสื่อในอังกฤษ ถึงฟอร์มการเล่นอันน่าผิดหวังในเกมที่วิทาลิตี้ สเตเดี้ยม โดยสกายสปอร์ตให้คะแนน 3 เต็ม 10 เท่านั้น
ถ้าลองเจาะลึกประตูที่เสีย ลูกแรก เป็นจุดโทษ การรับไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก ส่วนลูกที่ 2 และ 3 ก็ถือว่าคู่แข่งยิงได้ดีด้วย อย่างไรก็ตาม แฟนหงส์แดงก็คาดหวังว่า เขาน่าจะทำได้ดีกว่านั้น อย่างน้อยน่าจะมีซูเปอร์เซฟให้เห็นสักหน
แล้วพอมาถึงประตูที่ 4 เขาโทษใครไม่ได้เลย ที่รับลูกยิงไกลของบอร์นมัธแล้วกระฉอกมาอยู่หน้าประตูตัวเอง ก่อนโดนนาธาน อาเก้ ซ้ำเข้าไป ซึ่งถ้าเป็นโกล์ระดับท็อปๆ ลูกแบบนี้ จะปัดได้ดีกว่านี้แน่นอน
คาริอุส ตั้งแต่ย้ายมา ยังไม่ทำผลงานที่เข้าตานัก ถ้าเป็นแบบนี้ ซิมง มิโยเล่ต์ ที่รอคอยโอกาสอยู่ อาจจะรีเทิร์นกลับมาเป็นตัวจริงในระยะเวลาอันใกล้
จริงๆแล้วนาทีนี้ จะเป็นคาริอุส หรือ มิโญเล่ต์ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถฝากความหวังได้เลย ต่างกับทีมอื่นๆ แมนฯยูไนเต็ด มี เด เกอา , เชลซี มี กูร์กตัวส์ หรือ อาร์เซน่อล มี ปีเตอร์ เช็ก
3. ลิเวอร์พูลปิดเกมไม่เป็น
ในหนึ่งฤดูกาล ลิเวอร์พูลมักจะมีเกมที่ปิดเกมไม่ลงแบบนี้เป็นประจำ อย่างในซีซั่นลุ้นแชมป์ นำคริสตัล พาเลซ 3-0 สุดท้ายกลับมาเสมอ 3-3
ฤดูกาล 2014-15 นำเลสเตอร์ที่ตอนนั้นเป็นบ๊วย 2-0 สุดท้ายจบ 2-2 หรือในซีซั่นที่แล้ว นำซันเดอร์แลนด์ 2-0 จบ 2-2 หรือนำเซาธ์แฮมป์ตัน 2-0 สุดท้าย จบ 2-3 เหตุการณ์แบบนี้มีให้เห็นเป็นประจำ
ในซีซั่นนี้ เกิดขึ้นอีกครั้ง นำ 3-1 จนถึงนาทีที่ 75 แต่สุดท้ายกลับมาแพ้ 4-3 เสียอย่างนั้น ซึ่งถ้าเป็นทีมระดับลุ้นแชมป์ เรื่องแบบนี้จะปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด ต้องปิดเกมให้เด็ดขาดมากกว่านี้ ซึ่งเรื่องนี้ ทีมหงส์แดง ต้องเรียนรู้และปรับแก้กันไป
4. เกมรุกหงส์ยังมีความคม
การขาดหายไปของ เฟลิเป้ คูตินโญ่ และ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ รวมทั้งอดัม ลัลลาน่า ออกสตาร์ตได้แค่เป็นตัวสำรอง ทำให้หลายคนกังวลใจถึงศักยภาพเกมรุก
แต่เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็วางหมากได้ดี โดยใช้ โอริกี้ - มาเน่ - ฟีร์มีโน่ เป็นสามประสานในแนวรุก ส่วนมิดฟิลด์อย่างเอ็มเร่ ชาน และ จินี่ ไวจ์นัลดุม ก็เติมขึ้นมาช่วยอยู่อย่างสม่ำเสมอ
แม้ไม่มีคูตี้ แต่หงส์ก็ทำได้ถึง 3 ประตู ซึ่งถ้าโอริกี้ ใช้โอกาสไม่เปลืองมันน่าจะมี 4-5 ลูกไปแล้ว เรียกได้ว่า แม้จะแพ้ก็เถอะแต่เกมรุกของลิเวอร์พูลยังคงสุดยอด และเป็นอันดับหนึ่งของลีกอยู่
5. ช่องว่าง 4 แต้ม ยังไม่ถือว่ามากเกินไป
ความพ่ายแพ้สุดเซอร์ไพรส์ ทำให้แต้มที่ควรจะไล่เชลซีจาก 1 ขยับเพิ่มเป็น 4 นอกจากนั้น ยังโดนอาร์เซน่อลแซงขึ้นไปอยู่อันดับ 2 บนตารางคะแนนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ช่องว่าง 4 แต้ม กับเกมที่ผ่านมายังไม่ถึงครึ่งฤดูกาล ยังไม่สามารถวัดอะไรได้มากนัก ยังมีเวลาอีกมากมาย ที่ทีมหงส์แดง จะทำแต้มขยับขึ้นไปใกล้เชลซี
โปรแกรมของลิเวอร์พูลต่อจากนี้ เป็นนัดที่ต้องเก็บสามคะแนนให้ได้ ใน 4 นัดต่อไป อย่างน้อยที่สุดควรมีถึง 10 แต้ม
พวกเขาจะเปิดบ้าน เจอเวสต์แฮม ที่ฟอร์มกำลังเป๋ แม้ในซีซั่นที่แล้วจะแพ้คาบ้านมา 3-0 แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว
วีคต่อมา พวกเขาจะไปเยือนมิดเดิลสโบรห์ ที่ริเวอร์ไซด์ ตามด้วยเยือนเอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสัน พาร์ก ก่อนเล่นเกมสุดท้ายของปี กับสโต๊ค ที่แอนฟิลด์
เกมที่หนัก อาจมีแค่เกมเยือนเอฟเวอร์ตัน ดังนั้น พวกเขาต้องรีบกอบโกยแต้ม เอาคืนจากที่เสียในเกมกับบอร์นมัธ และจะพลาดไม่ได้อีกแล้ว
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์