ปรีวิวฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม 2559

บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน) - แอตเลติโก มาดริด (สเปน)

ถ่ายทอดสด: PPTV HD, (เวลา: 02.45 น.) 

สนาม: ฟุตบอล อารีน่า มึนเช่น, (มิวนิค, เยอรมัน) 

             คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ชาวอิตาเลี่ยนของ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมจากเมืองเบียร์ พาทีมผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้แล้ว หลังได้รองแชมป์ของกลุ่ม ดี. 

             ความพร้อมเกมนี้ บาเยิร์น ต้องขาด  คิงส์ลี่ย์ โกมัน กับ จูเลียน กรีน ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน ขณะที่กลุ่มผู้เล่นอย่างฟิลิปป์ ลาห์ม, เยโรม บัวเต็ง, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ดาวิด อลาบา, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ฟร้องค์ ริเบรี่, ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ อาร์เยน ร็อบเบน จะได้โอกาสพัก ส่วน สเวน อูลไรช์ จะได้ลงเฝ้าเสาแทน มานูเอล นอยเออร์ 

             แผงหลังวาง ราฟินญ่า, ฆาบี มาร์ตีเนซ, โฮลเกอร์ บาดชตูเบอร์ และ ฆวน เบร์นาต ลงประจำการ ส่วนแดนกลางส่ง อาร์ตูโร่ วิดาล, ชาเบียร์ อลอนโซ่ และ เรนาโต้ ซานเชส ลงมาปั้นเกม

             สามประสานแดนหน้าส่ง โยชัว คิมมิช, โธมัส มุลเลอร์ และ ดั๊กลาส คอสต้า ลงล่าตาข่าย

             ทางด้าน "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด ภายใต้การควบคุมทีมของดีเอโก้ ซิเมโอเน่ โชว์ฟอร์มในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ได้อย่างสุดยอด เก็บชัย 5 นัดรวด ในรอบแบ่งกลุ่ม จนคว้าแชมป์กลุ่ม ดี. ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้แล้ว 

             สภาพทีมเกมนี้ไม่มี เอากุสโต้ เฟร์นานเดซ กองกลางชาวอาร์เจนไตน์ที่บาดเจ็บต้องพักยาว ขณะที่ ติอาโก้ เมนเดส กับ ฟิลีเป้ ลุยส์ กาสมีร์สกี้ จะได้โอกาสพัก ไม่มีชื่อติดโผเยือนกรุงมิวนิค แต่ เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าตัวเก่งฟิตพร้อมลงเล่น โดยจะล่าตาข่ายกับ อ็องตวน กรีซมันน์ ดาวยิงชาวฝรั่งเศส 

             ขุมกำลังในแดนกลางวาง นิโกลัส ไกตาน,โกเก้, ซาอูล ญีเกซ และ อังเคล กอร์เรอา ลงมาทำเกม ส่วนเกมรับได้ ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้, สเตฟาน ซาวิช, โฮเซ่ คีเมเนซ และ ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ ลงต้านเกมรุกคู่แข่ง 
    
             รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม 
             บาเยิร์น มิวนิค: สเวน อูลไรช์ - ราฟินญ่า, ฆาบี มาร์ตีเนซ, โฮลเกอร์ บาดชตูเบอร์, ฆวน เบร์นาต - อาร์ตูโร่ วิดาล, ชาเบียร์ อลอนโซ่, เรนาโต้ ซานเชส - โยชัว คิมมิช, โธมัส มุลเลอร์ (กัปตันทีม), ดั๊กลาส คอสต้า  
             แอต.มาดริด: ยาน โอบลัค - ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้, สเตฟาน ซาวิช, โฮเซ่ คีเมเนซ, ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ - นิโกลัส ไกตาน,โกเก้, ซาอูล ญีเกซ, อังเคล กอร์เรอา - เฟร์นานโด ตอร์เรส (กัปตันทีม), อ็องตวน กรีซมันน์ 
             ผู้ตัดสิน: เกลม็องต์ ตูร์กแป็ง (ฝรั่งเศส) 

เกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจ
- นี่เป็นครั้งที่ 4 ระหว่างบาเยิร์นกับแอต.มาดริด ในชปล. ปี 2016 โดย 3 เกมก่อนหน้านี้ จบลงด้วยชัยชนะของทีมที่เป็นเจ้าบ้าน
- แอต.มาดริดไม่เคยยิงมากกว่า 1 ประตูใน 5 เกมอย่างเป็นทางการที่พบบาเยิร์น มิวนิค
- บาเยิร์น มิวนิค แพ้แค่ 2 จาก 17 เกมเหย้าชปล.ที่พบคู่แข่งจากสเปน (2-3 ต่อลา กอรุนญ่า เมื่อกันยายน 2002 และ 0-4 ต่อเรอัล มาดริด เมื่อเมษายน 2014)
- ความพ่ายแพ้ 0-4 ต่อเรอัล มาดริด เมื่อเมษายน 2014 เป็นครั้งเดียวที่บาเยิร์นยิงประตูไม่ได้ในเกมเหย้าชปล. ที่พบคู่แข่งจากสเปน
- ในทางกลับกัน บาเยิร์นทำคลีนชีตได้แค่ครั้งเดียวจาก 16 เกมชปล.หลังสุดที่เปิดบ้านพบคู่แข่งจากสเปน (4-0 เหนือบาร์เซโลน่า เมื่อเมษายน 2013)
- นับรวมฤดูกาลนี้ แอต.มาดริดจบรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มตลอด 4 ฤดูกาลในยุค ดีเอโก้ ซิเมโอเน่
- นอกจากนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่บาเยิร์นไม่ได้เป็นแชมป์กลุ่ม นับตั้งแต่ฤดูกาล 2009-10 ซึ่งพวกเขาผ่านถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อนพ่ายอินเตอร์ 0-2
- แอต.มาดริด เป็นทีมเดียวที่ชนะทุกนัด ในชปล. ฤดูกาลนี้ (5/5) โดยทีมสุดท้ายที่ชนะรวดทั้ง 6 เกมรอบแบ่งกลุ่มคือ เรอัล มาดริด เมื่อฤดูกาล 2014-15
- บาเยิร์นชนะรวด 14 เกมชปล.หลังสุดในบ้าน (ได้ 52 เสีย 8) เป็นสถิติชนะติดต่อกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์รายการนี้ โดย เรอัล มาดริด เป็นทีมสุดท้ายที่บุกชนะที่อัลลิอันซ์ อารีน่า เมื่อเมษาน 2014 (0-4)
- ครั้งเดียวในถ้วยชปล.ที่แอต.มาดริดบุกชนะทีมเยอรมัน เกิดขึ้นเมื่อตุลาคม 1996 ที่พบดอร์ทมุนด์ (2-1) โดยหลังจากนั้น พวกเขาแพ้ 2 ครั้งที่มาเยือน (0-1 ต่อเลเวอร์คูเซ่น เมื่อกุมภาพันธ์ 2015, 1-2 ต่อบาเยิร์น เมื่อพฤษภาคม 2016)
- แอต.มาดริดชนะรวด 2 เกมแรกที่เล่นนอกบ้านชปล.ฤดูกาลนี้ ด้วยสกอร์ 1-0 ทั้งหมด แต่ไม่เคยชนะ 3 เกมเยือนติดต่อกันมาก่อนในถ้วยนี้
- แอต.มาดริด เป็นหนึ่งใน 2 ทีมที่มีสถิติเกมรับดีที่สุดในชปล. ฤดูกาลนี้ ร่วมกับเลสเตอร์ ซิตี้ (1 ประตูจาก 5 นัด)
- ในยุค ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ แอต.มาดริดไม่เคยแพ้ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. (ชนะ 2 เสมอ 1)
- อองตวน กรีซมันน์ มีส่วนใน 2 ประตูหลังสุดของแอต.มาดริดที่พบบาเยิร์น มิวนิค โดยยิงประตูแรก และแอสซิสต์ลูกที่ 2 โดยนับตั้งแต่ฤดูกาลที่ลแว กองหน้าฝรั่งเศสทำ 10 ประตู 3 แอสซิสต์จาก 24 ประตูของแอต.มาดริดในรายการนี้ (54%)