ห้างยาบุกดับชาลเก้10ตัว, สิงห์หนุ่มเฮหวิว1-0
Posted 12/12/2016 by siamsport
ฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน
วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม 2559
ชาลเก้ 0 - เลเวอร์คูเซ่น 1
สนาม : เฟลตินส์ อารีน่า
''ราชันสีน้ำเงิน'' ออกสตาร์ตด้วยการให้ เอริค-มักซิม ชูโป-โมติง ปักหอก แดนกลางมี เลออน โกเร็ตซ์ก้า ปั้นเกม ฝั่ง ''ห้างยา'' ส่งให้ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ''ชิชาริโต้'' ประสานงานล่าตาข่ายกับ สเตฟาน คีสลิงก์ หัวหอกจอมเก๋า
ออกสตาร์ตไปได้เพียง 4 นาที เจ้าบ้านต้องมาเหลือ 10 ตัวอย่างรวดเร็ว เซอาด โคลาซินัค จ่ายบอลพลาดไปโดนชิชาริโต้ตัดได้แล้วพาโต้เข้าไปนัลโด้ตามไปตัดฟาวล์จากทาง ด้านหลัง กรรมการแจกใบแดงไล่ออกจากสนามไป
แม้จะตัวน้อยกว่า แต่ชาลเก้ก็ได้ลุ้นก่อน เลออน โกเร็ตซ์ก้า ตัดบอลได้ที่กลางสนาม แล้วลากโต้ขึ้นไปเอง จ่ายไปทางซ้ายให้ เยฟเก้น โคโนเปลียนก้า รับบอลในเขตโทษแต่โดนบังให้ลากเข้าเหลี่ยมเท้าซ้าย แล้วซัดทันที แต่บอลบดพื้นหลุดเสาสองออกหลัง
ท้ายครึ่งแรก เจ้าบ้านมาได้ฟรีคิกฝั่งขวานอกเขตโทษ โยฮันเนส ไกส์ เจ้าพ่อลูกนิ่งเปิดเข้าไปกลางเขตโทษให้ อเลสซานโดร เชิฟ ขึ้นโขก แต่โดนไม่ดี บอลข้ามคานหลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ครบ 45 นาทีแรก ชาลเก้ เสมอกับ เลเวอร์คูเซ่น 0-0
กลับมาเตะได้ถึงนาทีที่ 58 เจ้าบ้านได้ลุ้นก่อน เยฟเก้น โคโนเปลียนก้า พาบอลลากโต้ขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ลุยไปในเขตโทษ แล้วล็อกมาเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ยิงหักข้อหามุมแคบเสาแรก แต่บอลเฉี่ยวเสาออกหลังไปอย่างหวุดหวิด
จังหวะต่อมายังคงเป็นชาลเก้ที่ได้ลุ้นต่อเนื่อง เซอาด โคลาซินัค เก็บตกบอลจังหวะสองได้ที่หน้าเขตโทษฝั่งขวา แล้วซัดด้วยขวาทันที แต่บอลเลยเสาสองออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
โอกาสจะแจ้งของเลเวอร์คูเซ่นเกิดขึ้นในนาทีที่ 65 ฮาคาน ชาลาโนกลู ได้บอลแถวสอง แล้วตั้งป้อมลองซัดทันที แต่บอลติดบล็อก
อีก 2 นาทีต่อมาผู้มาเยือนหาโอกาสได้จบต่อเนื่อง วลาเดน ยูร์เชนโก้ ตัวสำรองได้สับไกด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ แต่บอลเลี้ยวหลุดเสาสอง
ช่วงท้ายเกม ชาลเก้ต้านไม่ไหว มาโดนทีเด็ดของเลเวอร์คูเซ่น ฮาคาน ชาลาโนกลู เปิดฟรีคิกจากหน้าเขตโทษเข้าไปทางซ้าย สเตฟาน คีสลิงก์ โขกย้อนบอลไปเสียบตาข่ายที่เสาสอง ครบ 90 นาที เลเวอร์คูเซ่น บุกมาเชือด ชาลเก้ 1-0
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ชาลเก้ : ราล์ฟ เฟห์รมันน์ (กัปตันทีม) - ธิโล เคห์เรอร์, นัลโด้, เซอาด โคลาซินัค - โยฮันเนส ไกส์ (โดนิส อัฟดิยาย น.90) - อเลสซานโดร เชิฟ, อับดุล ราห์มาน บาบา - เลออน โกเร็ตซ์ก้า, มักซ์ เมเยอร์ (นาบิล เบนทาเล็บ น.79), เยฟเก้น โคโนเปลียนก้า (เบาฌาแมง สตอมบูลี่ น.87)- เอริค-มักซิม ชูโป-โมติง
เลเวอร์คูเซ่น : แบร์นด์ เลโน่ - เบนจามิน เฮนริช, โจนาธาน ทาห์, โอเมอร์ ท็อปรัค (กัปตันทีม) (อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช น.58), เวนเดลล์ - ชาร์ลส์ อารันกิซ (วลาเดน ยูร์เชนโก้ น.46), ยูเลี่ยน เบาม์การ์ทลิงเกอร์ (ไค ฮาเวิร์ตซ์ น.46) - ฮาคาน ชาลาโนกลู, ยูเลี่ยน บรันด์ท - ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ''ชิชาริโต้'', สเตฟาน คีสลิงก์
กลัดบัค 1 - ไมนซ์ 0
สนาม : โบรุสเซีย พาร์ค
เกมช่วงต้นยังไร้รายละเอียด สองฝ่ายครองบอลพอกัน และไม่สามารถลุยฝ่าแนวรับคู่แข่งเข้าไปลุ้นสกอร์จะแจ้งได้
นาที 21 ทีมเยือนพยายามร้องเอาจุดโทษ เมื่อ คาริม โอนิซิโว กระชากทะลุไปโดน อันเดรียส คริสเตนเซ่น รวบล้มคะมำ แต่ผู้ตัดสินยังเฉยเมื่อเป็นการเสียบโดนบอลชัดเจน
ไมนซ์ทำเกมได้เหนือกว่าเล็กน้อยในช่วงกลาง จนนาทีที่ 38 เกือบได้ประตูนำจังหวะ คาริม โอนิซิโว ทะลุขึ้นทางซ้ายเขตโทษไปยิงดีดกะให้เข้าเสาไกล และแม้ ยานน์ ซอมเมอร์ จะได้แค่เอี้ยวมองแล้ว แต่บอลก็เสยข้ามคานไป จนสิ้นครึ่งแรกยัง 0-0
ลงต่อครึ่งหลัง อันเดร ชูแบร์ต เปลี่ยนส่ง ธอร์กาน อาซาร์ ลงสำรองมาแทน อันเดร ฮาห์น
เล่นกันถึงนาที 64 เป็นโอกาสลุ้นของกลัดบัค บอลต่อกันมาจบที่ ออสการ์ เวนด์ท ตั้งป้อมซัดด้วยซ้ายเต็มข้อทางฝั่งซ้ายเขตโทษ แต่ โยนาส เลิซเซิ่ล ยังบินรับไว้ติดหนึบ
นาที 72 คาริม โอนิซิโว ลองส่องไกลหน้าเขตโทษ ตรงตัว ยานน์ ซอมเมอร์
และสามนาทีให้หลัง แฟนสิงห์หนุ่มก็ได้เฮกันลั่นสนามด้วยประตูนำ 1-0 จากเตะมุมลูกเลยมาที่ ลาร์ส สตินเดิ้ล ตวัดยิงไปข้างหน้า ลูกเข้าทาง อันเดรียส คริสเตนเซ่น ดีดต่อจาก 6 หลาผ่าน โยนาส เลิซเซิ่ล เข้าไปตุงตาข่าย
ไมนซ์ ต้องลุยแหลกในช่วงท้าย และก็ส่งลูกเข้าประตูได้ในนาที 88 จากการตวัดยิงของ ฌอง-ฟิลิปป์ บาแม็ง ที่ติดเซฟ และ ปาโบล เด บลาซิส ตามเข้าซ้ำจ่อๆ ไม่เหลือ อย่างไรก็ตาม กลายเป็นการเฮเก้อของ เด บลาซิส และแข้งทีมเยือนเมื่อผู้ตัดสินเป่าเป็นล้ำหน้า
ไม่ได้ประตูแถมยังมาเหลือ 10 คนด้วยสำหรับไมนซ์ เมื่อ ฌอง-ฟิลิปป์ บาแม็ง ตัดเกม นิโก้ ชูลซ์ ที่ริมเส้น ผู้ตัดสินชูใบเหลืองที่ 2 มาแต่ไกล เป็นใบแดงไล่ออกในนาที 89 จนสุดท้าย ไมนซ์ ก็ตามทวงคืนไม่สำเร็จ เกมจบที่ กลัดบัคเฉือนชัย 1-0 เป็นชัยชนะนัดแรกในรอบ 2 เดือนครึ่ง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
มึนเช่นกลัดบัค : ยานน์ ซอมเมอร์, โทนี่ ยันท์ชเค่, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, นิโก้ เอลเวดี้, มามูด ดาอูด, โทเบียส ชโตรเบิ้ล, อันเดร ฮาห์น (ธอร์กาน อาซาร์ น.46), ออสการ์ เวนด์ท (นิโก้ ชูลซ์ น.87), ลาร์ส สตินเดิ้ล, รัฟฟาเอล (โยซิป เดอร์มิช น.90)
ไมนซ์ : โยนาส เลิซเซิ่ล, จูลิโอ โดนาติ, สเตฟาน เบลล์, อเล็กซานเดอร์ ฮัค, กาแอต็อง บุสส์มันน์, แดนนี่ ลัตซ่า (ปาโบล เด บลาซิส น.80), ฌอง-ฟิลิปป์ บาแม็ง, เลวิน เอิซตูนาลี่ (เกอร์ริต โฮลท์มันน์ น.87), ยูนุส มัลลี่, ไฮโร ซัมเปริโอ (อารอน เซย์เดล น.71), คาริม โอนิซิโว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
เพิ่งมาก็ไม่รอด! รูเบน อโมริม รับอาจโดนปลดหากแมนยูผลงานยังห่วย
ตามนั้น! วินิซิอุส หน้าบาน โรนัลโด้ เชิดชูแข้งเก่งสุดในโลก
แมนยู ดีขึ้นแน่! คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แนะวิธีปลุกผีไม่ยาก
วิเคราะห์บอล ทีมชาติฟิลิปปินส์ พบ ทีมชาติไทย วันศุกร์ที่ 27 ธ.ค. 67
แม้ชนะเกมแรกกุนซือเวียดนามไม่ประมาท เชื่อสิงคโปร์มีทีเด็ด
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
แม่เจ้าโว้ย! นักร้องสาวนุ่งบิกิน...
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
คลิปไฮไลท์