หงส์ทวงรองฝูง!ใช้โอริกี้เป้าโป้งนัดเปิดรังฟัดสโต๊ค
Posted 27/12/2016 by siamsport
ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2559
ลิเวอร์พูล - สโต๊ค ซิตี้
ถ่ายทอดสด ช่อง : บีอิน สปอร์ตส์ 1 (เวลา : 00.15 น.)
สนาม : แอนฟิลด์
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ปลุกฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกครั้งหลังกำชัย 2 นัดรวด ล่าสุดบุกซิว เอฟเวอร์ตัน 1-0 ในศึก เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ จากประตูชัยในช่วงทดเจ็บของ ซาดิโอ มาเน่
ความเคลื่อนไหวล่าสุด โฌแอล มาติป (ข้อเท้า) ยังต้องรอประเมินความฟิตต่อไป เต็มที่น่าจะกลับมามชื่อบนม้านั่งสำรอง
ส่วน ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (ข้อเท้า) ยังไม่กลับมาซ้อม และต้องรอดูกันต่อไปว่าจะสลัดเดี้ยงเรียกฟิตกลับมาทันเกมสำคัญที่จะรับการมา เยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันส่งท้ายปีเก่าหรือไม่
การจัดทัพ ซิมง มิโญเล่ต์ ลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงต่อเนื่อง แนวรับยึดชุดเดิม เนธาเนี่ยล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, รักนาร์ คลาวาน และ เจมส์ มิลเนอร์
แดนกลางใส่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นห้องเครื่องพร้อมตัวช่วยอย่าง อดัม ลัลลาน่า กับ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม แดนหน้า ซาดิโอ มาเน่ ฮีโร่จากเกมล่าสุด กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ขนาบข้างหอกเป้า ดิว็อค โอริกี้ ส่วน แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ นั่งสำรองเหมือนเดิม
"ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ ของ มาร์ค ฮิวจ์ส ไม่ชนะมา 3 เกมติดแล้ว เกมล่าสุดยิ่งเจ็บปวดหลังออกนพ 2-0 ตั้งแต่ครึ่งแรกแถมตัวผู้เล่นมากกว่าถึง 60 นาที แต่กลับโดน เลสเตอร์ ซิตี้ ไล่ตีเสมอ 2-2
ความพร้อมล่าสุด อิบราฮิม อเฟลลาย ที่ร้างสนามมาตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา พร้อมเป็นตัวเลือกอีกครั้งหลังกลับมาเรียกฟิตให้ทีม ยู-23 เมื่อสัปดาห์ก่อน
ทว่า แจ็ค บัตแลนด์ เตรียมพักนานกว่าเดิมหลังต้องเข้ารับการผ่าตัดข้อเท้า ส่วน ฟิล บาร์ดสลี่ย์ (เข่า) กับ เจฟฟ์ คาเมร่อน (เข่า) ยังวืดเหมือนเดิม ขณะที่ มาร์โค อาร์เนาโตวิช ชดใช้โทษแบนนัดรองสุดท้ายจากทั้งหมด 3 เกม
การจัดทัพ ลี แกรนท์ ประจำการด่านสุดท้ายเหมือนเดิม แผงหลังไม่เปลี่ยน เกล็น จอห์นสัน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ และ เอริค ปีเตอร์ส
แดนกลางให้ เกล็นน์ วีแลน ผนึกกำลังกับ จานเนลลี่ อิมบูล่า แผงรุกใส่ มาเม่ บิราม ดิยุฟ, โจ อัลเลน และ โบยาน เกร์กิช สนับสนุนหน้าเป้า จอน วอลเตอร์ส
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิ มง มิโญเล่ต์ - เนธาเนียล ไคลน์, รักนาร์ คลาวาน, เดยัน ลอฟเรน, เจมส์ มิลเนอร์ - จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อดัม ลัลลาน่า - ซาดิโอ มาเน่, ดิว็อค โอริกี้, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
สโต๊ค ซิตี้ (4-2-3-1) : ลี แกรนท์ - เกล็น จอห์นสัน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้, เอริค ปีเตอร์ส - จานเนลลี่ อิมบูล่า, เกล็นน์ วีแลน - มาเม่ บิราม ดิยุฟ, โจ อัลเลน, โบยาน เกร์กิช - จอน วอลเตอร์ส
ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์
ผลงานการพบกันที่บ้านลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูลชนะ 48 สโต๊ค ซิตี้ชนะ 4 เสมอ 13
ประตูที่ทำได้ : ลิเวอร์พูล 136 ลูก สโต๊ค ซิตี้ 41 ลูก
- ลิเวอร์พูลชนะ 5 จาก 6 เกมลีกหลังสุดที่พบสโต๊ค ยกเว้นเพียงเกมแพ้ 1-6 ในเดือนพฤษภาคม 2015 (นัดอำลาลิเวอร์พูลของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด)
- สโต๊คชนะลิเวอร์พูลในนัดที่ 2 ถ้วยลีก คัพ รอบรองชนะเลิศ เมื่อมกราคมที่แล้ว โดยสกอร์ 1-0 แต่ตกรอบจากการดวลจุดโทษ อย่างไรก็ตาม ชัยชนะดังกล่าวเป็นการหยุดผลงานไม่ชนะที่แอนฟิลด์ 36 เกมรวมทุกรายการก่อนหน้านั้น โดยพวกเขาแพ้ 1-4 เมื่อเดือนเมษายน ในเกมลีกล่าสุดที่เจอกันที่นี่
- ลิเวอร์พูลไม่แพ้ 15 เกมลีกหลังสุดในบ้าน (ชนะ 9 เสมอ 6) เป็นผลงานไม่แพ้ในบ้านนานที่สุดตอนนี้
- ครั้งล่าสุดที่ลิเวอร์พูลไม่แพ้เกมพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์นานกว่านี้คือ 31 นัด เกิดขึ้นระหว่างธันวาคม 2007 ถึงสิงหาคม 2009
- โจ อัลเลน ทำ 5 ประตูจาก 16 เกมลีกที่เล่นให้สโต๊ค ซิตี้ ฤดูกาลนี้ มากกว่าที่ยิงให้ลิเวอร์พูล 1 ลูก (4 ประตูจาก 91 เกม)
- มาร์ค ฮิวจ์ส ไม่เคยคุมทีมชนะเกมพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์ (เสมอ 4 แพ้ 6) และแพ้มากที่สุดในฐานะนักเตะ จากการเล่นที่นี่ (1-7 สมัยอยู่กับเซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อมกราคม 1999)
- สโต๊คยิงไม่ได้ 11 จาก 17 ครั้งที่เยือนถิ่นเมอร์ซี่ไซด์ในเกมพรีเมียร์ลีก (นับรวมทั้งลิเวอร์พูลและเอฟเวอร์ตัน)
- ซาดิโอ มาเน่ มีส่วนร่วม 8 ประตูจาก 9 เกมลีกหลังสุดที่ลงสนาม (5 ประตู 3 แอสซิสต์)
- เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่เปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริง ในเกมลีกล่าสุด (พบเอฟเวอร์ตัน) นับเป็นครั้งที่ 3 ในเกมอย่างเป็นทางการ แต่เขาไม่เคยทำอย่างนี้ติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก
- ลิเวอร์พูลทำคลีนชีต 2 นัดติดต่อกัน แต่ไม่เคยทำได้ 3 เกมซ้อนในลีกยุค เจอร์เก้น คล็อปป์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เอ็นรีเก้สุดแฮปปี้ดินเนอร์กับอดีตเพื่อนหงส์
โฆเซ่ เอ็นรีเก้ แบ็กชาวสเปน แฮปปี้สุดๆ หลังได้กลับไปดินเนอร์กับอดีตเพื่อนร่วมทีม ลิเวอร์พูล ทั้ง ลูคัส เลว่า, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี หลังย้ายจากถิ่นแอนฟิลด์ ไปร่วมทีม เรอัล ซาราโกซ่า เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ผลงาน!เยนดริค ลุยซ์ เชื่อซบบุรีรัมย์ไม่ปิดโอกาสติดทีมชาติ
ดาวยิงชาวคอสตาริก้าเชื่อตนเองยังมีโอกาสติดทีมชาติเช่นเดิมแม้ล่าสุดจะย้ายมาค้าแข้งที่ไทยกับปราสาทสายฟ้าเยนดริค รุยซ์ กองหน้าวัย 29 ปี เชื่อตนเองยังมีโอกาสติดทีมชาติแม้ล่าสุดจะเลือกย้ายจาก เฮเรเดียโน รองแชมป์ลีกคอสตาริกา มาค้าแข้งกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกไทยลีก ในฤดูกาล 2017 ชี้ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ฟอร์มการเล่นขึ้นหิ้ง! 7เกมสุดคลาสสิควันบ๊อกซิ่งเดย์
"บ๊อกซิ่ง เดย์" ไม่ได้แปลว่าวันชกมวย หากแต่หมายถึงวันแกะกล่องของขวัญคริสต์มาสที่ได้รับหนึ่งวันก่อนหน้า และมันยังเป็นวันสำคัญของวงการฟุตบอลอังกฤษด้วย ในขณะที่บ้านอื่นเมืองอื่น เค้าปล่อยให้นักเตะกลับไปพักผ่อนกับครอบครัว แต่กับอังกฤษ เหล่าผู้เล่นต้องลงทำศึกหนักท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ และจะมีโปรแกรมติดๆ กันรอให้โม่ในช่วงเวลาห่างกันแค่ราว 48 ชั่วโมงอีกคล็อปป์ชูหงส์ทีมเหมาะสุดสำหรับตน
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ระบุ สำหรับตนแล้ว "หงส์แดง" นับเป็นทีมที่เหมาะที่สุดที่จะช่วยทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริงได้ พร้อมเผย ชอบความท้าทายใน พรีเมียร์ลีก สุดๆ
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
วิเคราะห์บอล บาเยิร์น พบ เอาก์สบวร์ก วันศุกร์ที่ 22 พ.ย. 67
เพื่อนไม่ทิ้งกัน! เป๊ป เผยแพ้ 4 เกมติดเหตุผลต่อสัญญาใหม่ แมนซิตี้
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์