ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » หงส์ขาวฮึดเฮท้ายเกม2-1,สโต๊คคืนฟอร์ม2-0

หงส์ขาวฮึดเฮท้ายเกม2-1,สโต๊คคืนฟอร์ม2-0

Posted 04/01/2017 by siamsport

"หงส์ขาว'' สวอนซี เก็บชัยชนะนัดแรกในรอบ 5 เกม ต่อหน้าพอล คลีเมนต์กุนซือคนใหม่สำเร็จ หลังบุกเชือด ''ปราสาทเรือนแก้ว''คริสตัล พาเลซ 2-1 โดย แซม อัลลาร์ไดซ์ ยังคงไม่สามารถพาทีมคว้า 3 คะแนนได้เลย ส่วน 'ช่าง ปั้นหม้อ'' สโต๊ค ซิตี้ ผลงานในบ้านยังคงไว้ใจได้ เปิดรังอัด ''แตนอาละวาด'' วัตฟอร์ด สบายเท้า 2-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอังคารที่ผ่านมา
 
 

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ


วันอังคารที่ 3 มกราคม 2560

คริสตัล พาเลซ 1 - สวอนซี ซิตี้ 2

 

สนาม : เซลเฮิร์สท์ พาร์ค

          ''ปราสาทเรือนแก้ว'' ลงเล่นภายใต้การคุมทีมของ แซม อัลลาร์ไดซ์ ในบ้านนัดแรก ด้วยการปรับทีมจากเกมพ่ายอาร์เซน่อล 2 ตำแหน่ง ด้วยการเรียกให้ เดเมี่ยน เดลานี่ย์ ออกสตาร์ตในแผงแนวรับแทน สกอตต์ แดนน์ ขณะที่

โจ เล็ดลี่ย์ กลับมาเป็นตัวจริงแทนที่ มาติเยอ ฟลามินี่

          ''หงส์ขาว'' ซึ่งเพิ่งประกาศแต่งตั้ง พอล คลีเมนต์ เป็นกุนซือคนใหม่ แต่ยังให้ อลัน เคอร์ติส คุมทีมข้างสนาม ปรับทีม 4 ตำแหน่ง เรียก เวย์น เราท์เล็ดจ์, แจ็ค คอร์ก, เจย์ ฟูลตัน และ เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ ออกสตาร์ต

          ออกสตาร์ตไปได้ 6 นาที สวอนซีได้ออกอาวุธก่อน เวย์น เราท์เล็ดจ์ เปิดบอลจากทางฝั่งขวาเข้าไปกลางเขตโทษให้ เฟร์นานโด ยอเรนเต้ ขึ้นโขก แต่โดนเบา บอลหลุดเสาแรกออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

          หลังจากนั้นนาทีที่ 17 ยังเป็นทีมเยือนที่ได้ออกอาวุธต่อเนื่อง เฟร์นานโด ยอเรนเต้ พาบอลลากโต้ขึ้นมาตรงกลาง ดึงจังหวะรอเพื่อนเติม แล้วจ่ายเข้าไปทางขวาของเขตโทษ แจ็ค คอร์ก จับบอลไม่ดี จนยิงไปติดเซฟเฮนเนสซี่ย์

          ท้ายครึ่งแรก สวอนซีออกนำสำเร็จ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน เปิดฟรีคิกจากทางฝั่งซ้ายเข้าไปกลางเขตโทษ เอลฟี่ มอว์สัน ที่หันหลังให้ประตู โขกเช็ดตามน้ำส่งบอลตุงตาข่ายทางเสาสอง ครบ 45 นาทีแรก คริสตัล พาเลซ ตามหลังสวอนซี 0-1

          กลับมาเตะกันได้ 7 นาที สวอนซี เกือบจะได้อีกประตู จากจังหวะเปิดบอลจากทางฝั่งขวาเข้ามาที่เสาแรกให้ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ชาร์จ แต่บอลเบา ติดเซฟ เวย์น เฮนเนสซี่ย์

          หลังจากนั้นนาทีที่ 57 ยังเป็นฝั่งทีมเยือนที่ได้ลุยต่อเนื่อง เฟร์นานโด ยอเรนเต้ พาบอลจี้มาตรงกลาง แล้วจ่ายมาที่บริเวณหัวกะโหลกให้ แจ็ค คอร์ก ยิงด้วยขวา แต่บอลหลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

          อีก 2 นาทีต่อมาคริสตัล พาเลซ เกือบจะได้ประตูตีเสมอจากจังหวะฟรีคิกด้านขวา บาการี่ ซาโก้ ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง ตัดสินใจยิงเองยัดมาที่สามเหลี่ยมเสาแรก แต่ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ทุบออก
หลังไปได้

          จนกระทั่งนาทีที่ 83 พาเลซ ตามตีเสมอ 1-1 มาร์ติน เคลลี่ วางจากขวาเข้าเขตโทษ วิลฟรีด ซาฮา เอี้ยวตัววอลเล่ย์ด้วยขวาส่งบอลเสียบตาข่ายสุดสวย

          ทว่า นาที 88 ''หงส์ขาว'' ขึ้นนำอีกหน ลีรอย เฟอร์ ยกบอลข้ามแนวรับเจ้าบ้านให้ อังเคล รานเคล ตัวสำรอง หลุดกับดักล้ำหน้าไปพักอกเอาบอลลงแล้วยิงด้วยซ้ายผ่านการป้องกันของ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ เป็นประตู 2-1
จากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม สวอนซี บุกเชือด คริสตัล พาเลซ 2-1 เป็นการเก็บชัยต้อนรับ พอล คลีเมนต์ ผู้จัดการทีมคนใหม่ ที่จะมาคุมทีมอย่างเป็นทางการในเกมเอฟเอ คัพ สุดสัปดาห์นี้ เก็บชัยชนะนัดแรกในรอบ 5 เกม สำเร็จ


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

          คริสตัล พาเลซ : เวย์น เฮนเนสซี่ย์ - มาร์ติน เคลลี่, เจมส์ ทอมกิ้นส์, เดเมี่ยน เดลานี่ย์, โจเอล วอร์ด - โยอัน กาบาย, โจ เล็ดลี่ย์ (กัปตันทีม) - แอนดรอส ทาวน์เซนด์, เจสัน พันเชียน, วิลฟรีด ซาฮา - คริสติย็อง เบนเตเก้
          สำรอง : ฮูเลียน สเปโรนี่, มาติเยอ ฟลามินี่, เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์, อี ชอง-ยง, จอร์ดอน มัตช์, บาการี่ ซาโก้, ไมเคิ่ล ฟิลลิปส์

 

          สวอนซี ซิตี้ : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - ไคล์ นอห์ตัน, เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ, เอลฟี่ มอว์สัน, นีล เทย์เลอร์ - เจย์ ฟูลตัน, คี ชุง-ยอง, แจ็ค คอร์ก (กัปตันทีม) - เวย์น เราท์เล็ดจ์, เฟร์นานโด ยอเรนเต้, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน
          สำรอง : ไมค์ ฟาน เดอร์ ฮอร์น, ลีรอย เฟอร์, บอร์ฆา บาสตอน, เนธาน ดายเออร์, คริสตอฟเฟอร์ นอร์ดเฟลด์ท, โมดู บาร์โรว์, อังเคล รานเคล

          ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์

สโต๊ค ซิตี้ 2 - วัตฟอร์ด 0

 

 

สนาม : เบท 365 สเตเดี้ยม

          ''ช่างปั้นหม้อ'' ส่ง เซอร์ดาน ชากิรี่ และ อิบราฮิม อเฟลลาย ไปเป็นสำรอง เปิดทางให้ มาร์โค อาร์เนาโตวิช และ จอน วอลเตอร์ส กลับมาเป็นตัวจริง ฝั่ง ''แตนอาละวาด'' ไม่มีชื่อของ นอร์ดิน อัมราบัต ที่เตรียมไปรับใช้ชาติ

ในศึกเนชั่นส์ คัพ โดยเป็น คริสติย็อง กาบาเซเล่ รับสัมปทานวิงแบ็กขวาแทน

          เล่นกันไปได้ 10 นาที สโต๊ค ซิตี้ ได้ลุยก่อน มาร์โค อาร์เนาโตวิช ได้บอลทางซ้าย แล้วแตะลอดขา กาบุล ลุยเข้าเขตโทษ พยายามจะเปิดให้เพื่อนยิงตรงกลาง แต่โดนกองหลังทีมเยือนบล็อกออกหลังไปได้ก่อน

          หลังจากนั้น 7 นาที ยังเป็นเจ้าบ้านที่ได้ลุยต่อ มาร์โค อาร์เนาโตวิช ขึ้นบอลทางซ้ายเหมือนเดิมลุยเข้าเขตโทษ แล้วจ่ายเข้ากลางให้ จอน วอลเตอร์ส สอดมาชาร์จ แต่บอลไปตรงตัว โกเมส เซฟเอาไว้ได้

          เลย 20 นาทีแรก หลังจากเจาะไม่ได้ สโต๊ค ลองเปลี่ยนมายิงไกลบ้าง ชาร์ลี อดัม ได้ลองหวดด้วยซ้าย จากระยะราว 35 หลา แต่บอลเหินข้ามคานออกหลัง

          กระทั่งนาทีที่ 31 ยังเป็นเจ้าของสนามที่ได้ลุ้นต่อเนื่อง เอริค ปีเตอร์ส เปิดบอลเข้าไปทางเสาสองให้ ปีเตอร์ เคร้าช์ ขึ้นโขกย้อนไปทางเสาสอง แต่ โกเมส ยังไว บินไปปัดเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด

          ทดเจ็บครึ่งแรกความพยายามของเจ้าถิ่นประสบความสำเร็จ ชาร์ลี อดัม เปิดเตะมุมจากด้านซ้าย มาที่เสาแรกให้ ไรอัน ชอว์ครอสส์ สอดมาตวัดยิงด้วยซ้าย ส่งบอลผ่านเสาแรกเข้าประตูไป ครบ 45 นาทีแรก วัตฟอร์ด ตามหลังสโต๊ค 0-1

          กลับมาเล่นครึ่งหลังได้แค่ 5 นาทีกองเชียร์เจ้าบ้านได้เฮอีกหน จากจังหวะเปิดบอลจากกราบซ้ายของ ชาร์ลี อดัมโค้งมาที่เสาแรกเป็น ปีเตอร์ เคร้าช์ กระโดดแปจ่อๆ ไม่เหลือ สโต๊คหนีเป็น 2-0

          ถึงนาทีที่ 67 วัตฟอร์ด เกือบจะได้ประตูตีไข่แตก โอเดียน อิกาโล่ ได้พาบอลลุยมาหวดด้วยขวาบริเวณเส้นเขตโทษ แต่โดนกองหลังเจ้าบ้านบล็อกได้

          ช่วงท้ายเกม เจ้าบ้านเกือบจะได้เพิ่ม จากจังหวะยิงไกลของ อิบราฮิม อเฟลลาย ตัวสำรอง แต่บอลหลุดกรอบ ครบ 90 นาทีสโต๊ค เปิดบ้านทุบ วัตฟอร์ดไป 2-0


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

          สโต๊ค ซิตี้ : ลี แกรนท์ - เกล็น จอห์นสัน, ไรอัน ชอว์ครอสส์ (กัปตันทีม), บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ - มาเม่ บิราม ดิยุฟ, โจ อัลเลน, ชาร์ลี อดัม, เอริค ปีเตอร์ส - จอน วอลเตอร์ส, ปีเตอร์ เคร้าช์, มาร์โค อาร์เนาโตวิช
          สำรอง : ฟิล บาร์ดส์ลี่ย์, เกล็นน์ วีแลน, อิบราฮิม อเฟลลาย, จานเนลลี่ อิมบูล่า, เซอร์ดาน ชากิรี่, เชย์ กีฟเว่น, โบยาน เกร์กิช

 

          วัตฟอร์ด : เอเรลโญ่ โกเมส - เซบาสเตียน โพรเดิ้ล, ยูเนส กาบุล, มิเกล บริตอส - คริสติย็อง กาบาเซเล่, อัดเลเน่ กูดิอูร่า, วาลอน เบห์รามี่, เอเตียน กาปู, โฮเซ่ โฮเลบาส - อับดูลาย ดูกูเร่, ทรอย ดีนี่ย์ (กัปตันทีม)
          สำรอง : เคร็ก แคธคาร์ท, เจอโรม ซินแคลร์, โอเดียน อิกาโล่, คอสเทล ปันติลิมอน, แบรนดอน เมสัน, ไมเคิ่ล โอลิวี่, แอนดรูว์ เลเลฟเธริอู

          ผู้ตัดสิน : นีล ซวาร์บริค

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »