ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2560

เลสเตอร์ ซิตี้ (15)  - ฮัลล์ ซิตี้ (19)

เวลา 22.00 น. ช่อง บีอิน สปอร์ตส์ 1

        สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

         เกมสำคัญของสองทีมหนีตกชั้น เลสเตอร์ที่เพิ่งถีบตัวเองพ้นโซนอันตราย เปิดบ้านรับฮัลล์ รองบ๊วย

         จิ้งจอกสีน้ำเงินเพิ่งเปิดบ้านทุบลิเวอร์พูล 3-1 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เป็นชัยชนะเกมลีกนัดแรกในรอบ 7 นัด หลังมีการปลด เคลาดิโอ รานิเอรี่

         เวลานี้ยังคงให้ เคร็ก เช็คสเปียร์ คุมทีมชั่วคราว และสภาพทีมก็ไม่มีปัญหาเพิ่มเติม นอกเหนือจาก เลโอนาร์โด้ อูยัว กองหน้าที่เจ็บโคนขาหนีบ และ โมย่า วาเก้ กองหลังตัวใหม่ เจ็บไหล่

         การจัดทัพ เช็คสเปียร์ ยังยึดมั่นระบบดั้งเดิม 4-4-2 และยึดตัวหลักจากที่ช่วยกันคว้าแชมป์ซีซั่นที่แล้ว

         ประตู แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เฝ้าเสา แนวรับ แดนนี่ ซิมพ์สัน, โรเบิร์ต ฮูธ, เวส มอร์แกน, คริสเตียน ฟุคส์

         แดนกลาง แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ คุมเกมกับ วิลฟรีด เอ็นดีดี้ ริมเส้น 2 ฝั่ง ริยาด มาห์เรซ กับ มาร์ค อัลไบรท์ตัน คู่หน้า เจมี่ วาร์ดี้ กับ ชินจิ โอกาซากิ

         ฝั่ง ฮัลล์ ซิตี้ ของกุนซือ มาร์โก ซิลวา เพิ่งผ่านเกมล่าสุดที่เปิดบ้านเสมอ เบิร์นลี่ย์ 1-1 ทอม ฮัดเดิลสตัน กดจุดโทษก่อนนาที 72 แต่ก็โดนตีเสมอในอีก 4 นาทีต่อมา

         สภาพทีมจะได้ แซม คลูกาส กองกลางตัวรุกพ้นโทษแบน 1 นัดกลับมาแล้ว และ ลาซาร์ มาร์โควิช ปีกที่ยืมจากลิเวอร์พูล ก็ฟิตคืนทีมด้วย

         แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เซนเตอร์ตัวหลักนาทีนี้ คาดว่าจะหายเจ็บเข่าฟิตทันเวลา หลังเดี้ยงมาจากนัดก่อน

         ตัวเจ็บคนอื่นๆ ยังเพียบ ไมเคิ่ล ดอว์สัน, เคอร์ติส เดวิส, เอวานโดร, มาร์คุส เฮนริคเซ่น, ไรอัน เมสัน และล่าสุด ดิวแมร์ชี่ เอ็มโบคานี่

         การจัดทัพ เอลดิน ยาคูโปวิช ลงเฝ้าเสา แผงหลัง อาห์เหม็ด เอล โมฮามาดี้, อันเดรีย ราน็อคเคีย, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

         แดนกลาง ทอม ฮัดเดิลสตัน คุมเกมกับ อัลเฟรด เอ็นดิยาย แนวรุก ลาซาร์ มาร์โควิช, แซม คลูกาส, คามิล โกรซิชกี้ และหน้าเป้า อเบล เอร์นานเดซ

        รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

         เลสเตอร์ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, แดนนี่ ซิมพ์สัน, โรเบิร์ต ฮูธ, เวส มอร์แกน, คริสเตียน ฟุคส์, ริยาด มาห์เรซ, แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์, วิลฟรีด เอ็นดีดี้, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, เจมี่ วาร์ดี้, ชินจิ โอกาซากิ

         ฮัลล์ : เอลดิน ยาคูโปวิช, อาห์เหม็ด เอล โมฮามาดี้, อันเดรีย ราน็อคเคีย, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ทอม ฮัดเดิลสตัน, อัลเฟรด เอ็นดิยาย, ลาซาร์ มาร์โควิช, แซม คลูกาส, คามิล โกรซิชกี้, อเบล เอร์นานเดซ

         ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน

        เกร็ดเลสเตอร์ - ฮัลล์ ซิตี้

         - นี่เป็นการพบกันครั้งที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก โดยทั้งคู่ผลัดกันชนะฝั่งละครั้งจาก 3 เกมก่อนหน้านี้ (เสมอ 1)

         - เลสเตอร์ไม่แพ้ฮัลล์ ที่คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เลย ตั้งแต่มีนาคม 2008 ที่พวกเขาตกชั้นจากแชมเปี้ยนชิพไปลีก วัน ทัพจิ้งจอกไม่แพ้มา 4 เกมตั้งแต่นั้น (ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 0)

         - ฮัลล์มีโอกาสกลายเป็นทีมน้องใหม่รายแรกที่เอาชนะทีมแชมป์เก่าลีกสูงสุดได้ ทั้งเหย้าและเยือน ตั้งแต่ที่นอริชทำได้ในปี 1982-83 (พบลิเวอร์พูล)

         - ริยาด มาห์เรซ ทำไป 3 ประตูจาก 4 เกมที่ลงเล่นพบฮัลล์ รวมทุกรายการ (ยิง 3) โดยทั้งหมดเป็นการเล่นนอกบ้าน มีเพียงการพบสวอนซี (4) เท่านั้นที่เขายิงใส่ได้มากกว่า เดอะ ไทเกอร์ส

         - มี 6 ใบแดงจาก 8 เกมหลังสุดที่ทั้งสองทีมพบกันในลีก (ฝั่งละ 3)

         - เจมี่ วาร์ดี้ มีโอกาสยิงประตูได้ 3 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการให้กับเลสเตอร์ เป็นครั้งแรกตั้งแต่พฤษภาคม 2016

         - เดอะ ฟ็อกซ์ส ไม่ชนะ 2 นัดติดในพรีเมียร์ลีกมาตั้งแต่เมษายน 2016 โดยพวกเขามีโอกาสทำได้ในวันเสาร์นี้ หลังจากเพิ่งเอาชนะลิเวอร์พูล มา 3-1 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

         - เลสเตอร์เอาชนะได้ทั้ง 6 เกมในพรีเมียร์ลีกเมื่อพวกเขาทำประตูแรกของเกมได้ในฤดูกาลนี้ โดยเป็นเพียงทีมเดียวที่มีสถิติชนะ 100% จากการทำประตูแรกของเกมในฤดูกาลนี้

         - เคร็ก เช็คสเปียร์ มีลุ้นกลายเป็นผู้จัดการทีมเลสเตอร์ ที่พาทัพจิ้งจอกชนะ 2 แรกที่คุมทีมในพรีเมียร์ลีก หลังจาก เคลาดิโอ รานิเอรี่ เคยทำได้มาก่อน

         - เลสเตอร์ทำได้ 3 ประตู จากโอกาสยิง 13 ครั้ง (23.1%) ในเกมชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 ซึ่งมันเท่ากับจำนวนที่พวกเขายิงได้จาก 10 เกมก่อนหน้านั้นในพรีเมียร์ลีก (โอกาส 106 ครั้ง ค่าเฉลี่ยเปลี่ยนโอกาสเป็นประตู 2.8%)