"กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทองฯ ร้อนแรงต่อเนื่อง ล่าสุดบุกถล่ม พัทยา ยูไนเต็ด 3-0 จากผลงานสามแข้งทีมชาติไทย อดิศักดิ์ ไกรษร, ธีรศิลป์ แดงดา และ มงคล ทศไกร ทำให้ยึดบัลลังก์จ่าฝูงต่อไปด้วยผลงานสุดหรู เตะ 5 นัด ชนะรวด 100% ยังไม่เสียแม้แต่ลูกเดียว ศึก โตโยต้า ไทยลีก ที่สนาม ดอลฟิน สเตเดี้ยม เมื่อวันพุธที่ 8 มี.ค. 60

ฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก 2017

วันพุธที่ 8 มีนาคม 2560

พัทยา ยูไนเต็ด 0-3 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

          รายชื่อผู้ตัดสิน : ผู้ตัดสิน ชัยฤกษ์ งามสม, ผช.ผู้ตัดสินที่ 1 ราเชนทร์ ศรีชัย, ผช.ผู้ตัดสินที่ 2 วิโรจน์ ลอคำ, ผู้ตัดสินที่ 4 วรินทร สัสดี, ผู้ประเมินผู้ตัดสิน สาทป ทองขันธ์, ผู้ควบคุมการแข่งขัน สมบุญ สุปรารภ
              

          ที่สนามเทศบาลเมืองหนองปรือ เป็นศึกโตโยต้า ไทยลีก 2017 นัดห้า เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ระหว่าง พัทยา ยูไนเต็ด อันดับ 10 มี 4 คะแนน หลังจากเกมที่แล้วบุกไปเสมอ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 2-2 พบกับจ่าฝูงที่เก็บไป 12 แต้มเต็มอย่าง เอสซีจี เมืองทองฯ ซึ่งนัดก่อนออกไปชนะ ชลบุรี เอฟซี มา 3-0
                                                              
              
          จากชัยชนะ ชลบุรี เอฟซี  3-0 ของ เอสซีจี เมืองทองฯ ในโตโยต้า ไทยลีก 2017 เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาทำสถิติชนะ 13 เกมรวด นับตั้งแต่นัดที่ 22-31 ในไทยบีก 2016 ที่ชนะมา 9 เกม ก่อนที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะประกาศยุติการแข่งขันเกมลลีกในวันที่ 14 ต.ค.59 ก่อนที่ "กิเลนผยอง"จะคว้าแชมป์

               
          ซึ่ง 12 นัดของ เอสซีจี เมืองทองฯ ในการชนะรวดตั้งแต่ปีที่แล้วมาถึงฤูดูกาลนี้ ประกอบด้วย วันที่ 20 ก.ค.59  ชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี 1-0 (ย ), วันที่ 24 ก.ค.59 ชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 3-2 (ห), วันที่ 30 ก.ค. 59 ชนะ ชลบุรี เอฟซี 3-0 (ย), วันที่ 7 ส.ค.59 ชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-0 (ห)
               
          วันที่ 14 ส.ค.59 ชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี 1-0 (ย), วันที่ 20 ส.ค.59 ชนะ พัทยา ยูไนเต็ด 4-1 (ห), วันที่ 11 ก.ย.59 ชนะ สุโขทัย เอฟซี 1-0 (ย), วันที่18 ก.ย.59  บีบีซียู 5-1 (สนามกลาง), วันที่ 24 ก.ย. 59 ชนะ ชัยนาท ฮอร์นบิล 2-1 (ย), วันที่ 11 ก.พ.60 ชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี 4-0 (ย), วันที่ 17 ก.พ.60 ชนะ สุโขทัย เอฟซี 1-0 (ห) และ วันที่ 25 ก.พ.60 ชนะ โปลิศ เทโร เอฟซี 1-0 (ย)
              

          ซึ่ง เอสซีจี เมืองทองฯ มีโอกาสทำสถิติชนะในลีกติดต่อกัน 14 นัด เหมือนกับปีที่แล้ว ประกอบด้วยวันที่ 2 เม.ย. 59 ชนะ ราชนาวี ( ย ) 4-0, วันที่ 23 เม.ย. 59 ชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี ( ห ) 4-0, วันที่ 27 เม.ย. 59 ชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ( ย ) 3-0, วันที่ 1 พ.ค. 59 ชนะ ชลบุรี เอฟซี ( ห ) 1-0, วันที่ 7 พ.ค. 59 ชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด ( ย ) 3-0
              

          วันที่ 11 พ.ค. 59 ชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี ( ห ) 1-0, วันที่ 15 พ.ค. 59 ชนะ พัทยา ยูไนเต็ด ( ย ) 2-1, วันที่ 21 พ.ค. 59 สุโขทัย เอฟซี ( ห ) 2-1, วันที่ 28 พ.ค. 59 ชนะ บีบีซียู เอฟซี ( ย ) 2-1, วันที่ 12 มิ.ย. 59 ชนะ ชัยนาท ฮอร์นบิล ( ห ) 2-0, วันที่ 19 มิ.ย. 59 ชนะ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ( ย ) 1-0 วันที่ 22 มิ.ย. 59 ชนะ ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ ( ห ) 8-3, วันที่ 25 มิ.ย. 59 นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ( ห ) 4-1 และวันที่ 29 มิ.ย. 59 ชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี 2-1 ( ย ) ก่อนบุกแพ้ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 1-3 เมื่อวันที่ วันที่ 2 ก.ค.59  ซึ่งยังคงเป็นสถิติที่สูงสุดเท่ากับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ทำได้ในปี 2015

               
          ในเรื่องของการจัดทีม เรียกได้ว่า “โค้ชอั๋น”สุรพงษ์ คงเทพ เฮดโค้ชของ พัทยา ยูไนเต็ด จัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม นำมาโดย ชัยวัฒน์ บุราญ กราบซ้ายทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่ถูกจับตามองเป็น “นิวสารัช อยู่เย็น” ตลอดจนกองหน้าจอมถล่มประตูอย่าง มิลอส สโตยาโนวิช
              

          ด้าน “โค้ชแบน”ธชตวัน ศรีปาน กุนซือเอสซีจี เมืองทองฯ มีการปรับเปลี่ยนทีมในตำแหน่งแบ็กขวา ส่ง พิทักษ์พงษ์ กุลสุวรรณ ลงแทน ทริสตอง สมชาย โด อย่างไรก็ตามยังมี “กัปตันมุ้ย”ธีรศิลป์ แดงดา ลงล่าตาข่ายและลุ้นประตูที่ 100 ในเกมลีก กับการลงรับใช้ “กิเลนผยอง”บนลีกสูงสุดของไทยมาตั้งแต่ปี 2009
                                                               
               
          ออกสตาร์ทครึ่งแรก นาทีที่1 ธีราทร ญมาทัน โยนลูกเตะมุมฝั่งซ้ายเข้ามาในเขตโทษ คิม แต เยือน โหม่งเคลียร์ออกไป นาทีที่4 สุประวีณ์ มีประทัง เปิดบอลจากกราบซ้ายไปที่เสาแรก กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ล้มตัวรับบอลไว้ได้ นาทีที่5 ชนาธิป สรงกระสินธ์ ไหลบอลออกไปทางขวาให้กับ พิทักษ์พงษ์ กุลสุวรรณ เติมขึ้นมายิงทันที บอลยังหลุดออกหลัง
              

          นาทีที่8 เจ้าบ้านหวิดขึ้นนำ หลังจาก มิลอส สโตยาโนวิช เบียดแย่งบอลชนะ อดิศร พรหมรักษ์ ก่อนที่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ จะเคลียร์บอลออกไป ทว่า มิลอส สโตยาโนวิช ยังอาศัยความขยันไปยิงด้วยซ้ายบอลหวิดจะข้ามเส้นประตูอยู่แล้ว ทว่า เซลิโอ ซานโตส ยังตามมาเตะบอลทิ้งออกไป
              

          นาทีที่10 เอสซีจี เมืองทองฯ ได้จุดโทษหลังจาก คิม แต เยือน ไปชน อดิศักดิ์ ไกรษร จังหวะที่กระชากบอลเข้าไปในเขตโทษจนล้มลงไป ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกฟาล์วทันที ก่อนที่นาทีต่อมา อดิศักดิ์ ไกรษร จะรับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้ “กิเลนผยอง” ขึ้นนำ 1-0 รวมทั้งเป็นเม็ดที่ 3 ในเกมลีกปีนี้ของเจ้าตัว กับการออกสตาร์ท 11 ตัวจริง 3 นัดอีกด้วย
                                                       
              
          นาทีที่12 ชัยวัฒน์ บุราญ กระชากบอลขึ้นไปฝั่งซ้าย แล้วเปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ เซลิโอ ซานโตส ยังเคลียร์บอลได้ทัน นาทีที่18 รัชพล นาวันโน ครอสบอลออกไปทางขวาให้กับ พิทักษ์พงษ์ กุลสุวรรณ กระชากบอลถึงเส้นหลังแล้วตบบอลเข้ามาตรงจุดโทษหวังให้ อดิศักดิ์ ไกรษร เข้าทำสกอร์ ทว่า เวลลิงตัน พรีโอรี่ หวดบอลออกไปก่อน
              

          นาทีที่22 เจ้าถิ่นมาได้ฟรีคิกระยะ 35 หลา ชัยวัฒน์ บุราญ วิ่งเข้ามากดด้วยซ้ายส่งบอลไปติดกำแพง นาทีที่23 คิม แต เยือน ได้โอกาสลองส่องไกลจากนนอกเขตโทษ บอลยังหลุดออกหลัง นาทีที่25 ธีราทร บุญมาทัน วางบอลไปหน้าเขตโทษ อดิศักดิ์ ไกรษร สปีดไปด้วยความเร็วทว่า สมพร ยศ ออกมาสกัดไว้ได้
              

          นาทีที่26 ธีรศิลป์ แดงดา กึ่งยิงกึ่งผ่านจากเส้นหลังฝั่งขวาไปที่เสาแรก บอลไปเข้ามือ สมพร ยศ จังหวะต่อมา พิทักษ์พงษ์ กุลสุวรรณ รับใบเหลืองแรกของเกม หลังจากไปอัด มิลอส สโตยาโนวิช นาทีที่30 สุประวีณ์ มีประทัง ครอสบอลจากซ้ายเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ชญาวัต ศรีนาวงษ์ จับบอลลงก่อนยิงด้วยซ้าย บอลยังไปเข้ามือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ 
                                                              
               
          นาทีที่37 มิลอส สโตยาโนวิช โหม่งชงกลับหลังไปให้ คิม แต เยือน ที่เติมขึ้นมายิงด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลหลุดเสาแรกออกไปนิดเดียว นาทีที่38 ชนาธิป สรงกระสินธ์ วางบอลเข้าไปในเขตโทษ อดิศักดิ์ ไกรษร แต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนยิงทันที อดิศักดิ์ แหวนหล่อ ตามมาบล็อกได้ทัน
              

          นาทีที่40 พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา เปิดบอลจากซ้ายเข้าไปในเขตโทษ ธีรศิลป์ แดงดา โหม่งชงต่อหวังให้ อดิศักดิ์ ไกรษร เข้าทำสกอร์แต่ เวลลิงตัน พรีโอรี่ ยังเคลียร์ออกไป นาทีที่41 ชัยวัฒน์ บุราญ รับใบเหลืองคนแรกของเจ้าบ้านเมื่อไปเสียบ พิทักษ์พงษ์ กุลสุวรรณ
              

          นาทีที่42 พิทักษ์พงษ์ กุลสุวรรณ เติมขึ้นมาทางขวาแล้วเปิดบอลไปให้ ธีรศิลป์ แดงดา ได้วอลเล่ย์แบบไม่ต้องจับ ทว่ากัปตันทีม “กิเลนผยอง”กลับยิงไม่ดี นาทีที่43 เจ้าบ้านหวิดตีเสมอ หลังจาก ขัยวัฒน์ บุราญ ได้ลูกส้มหล่นยิงจ่อๆในเขตโทษ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ยังเซฟไว้ได้ จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้น หมดครึ่งแรก พัทยา ยูไนเต็ด ตามหลัง เอสซีจี เมืองทองฯ 0-1

          มาสู้กันต่อในครึ่งหลัง นาทีที่47 สนามเทศบาลหนองปรือเกิดไฟดับบางจุด ทว่ายังทำการแข่งขันต่อไปได้ นาทีที่49 ชัยวัฒน์ บุราญ แทงบอบเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้กับ ชญาวัต ศรีนาวงษ์ ทว่าจังหวะที่จะง้างเท้ายิงโดน เซลิโอ ซานโตส มาบังเหลี่ยมเสียก่อน
              

          นาทีที่50 ชนาธิป สรงกระสินธ์ ไหลบอลไปให้ ธีราทร บุญมาทัน แต่งบอลเข้าซ้ายแล้วยิงหน้าเขตโทษ บอลไปแฉลบ คิม แต เยือน ข้ามคาน นาทีที่51 รัชพล นาวันโน ได้ลองยิงไกลแต่บอลยังหลุดกรอบ นาทีที่54 เอสซีจี เมืองทองฯ ส่ง วัฒนา พลายนุ่ม ลงไปแทน อี โฮ ที่มีอาการบาดเจ็บ
              

          นาทีที่57 ธีรศิลป์ แดงดา แทงบอลออกมาทางขวาให้กับ พิทักษ์พงษ์ กุลสุวรรณ ครอสบอลไปที่เสาไกล แต่บอลยังหลุดออกหลังไปก่อน นาทีที่58 ชนาธิป สรงกระสินธ์ จ่ายบอลทะลุช่องให้ ธีรศิลป์ แดงดา แตะบอลหนี สมพร ยศ ก่อนที่จะยิงเข้าไปแบบเยือกเย็น ช่วยให้ เอสซีจี เมืองทองฯ หนี พัทยา ยูไนเต็ด 2-0 พร้อมเป็นลูกที่ 2 ในปีนี้ของเจ้าตัว และประตูที่ 99 กับการเล่นลีกสูงสุดเมืองไทยกับ “กิเลนผยอง” ตั้งแต่ปี 2009 มาจนถึงปัจจุบันอีกด้วย
                                                            
               
          นาทีที่63 อดิศักด์ ไกรษร ได้ล้มตัวยิงหน้าเขตโทษ สมพร ยศ ยังปัดบอลได้ทัน นาทีที่64 ชัยวัฒน์ บุราญ ยิงไกลด้วยซ้ายส่งบอลหลุดเสาสองออกหลังไปนิดเดียว นาทีที่65 ธีรศิลป์ แดงดา พลาดประตูที่ 100 ของเขา หลังจาก ชนาธิป สรงกระสินธ์ จ่ายบอลให้เจ้าตัวหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงในเขตโทษ บอลยังไม่ผ่านมือ สมพร ยศ
              

          นาทีที่70 เจ้าบ้านส่ง ชัยณรงค์ ทาทอง และ สุรเชษฐ์ งามทิพย์ ลงไปแทน ชญาวัต ศรีนาวงษ์ กับ สุประวีณ์ มีประทัง นาทีที่71 ทีมเยือนให้ สุพรรณ ทองสงค์ ลงสนามนัดแรกของซีซั่น 2017 แทนที่ พิทักษ์พงษ์ กุลสุวรรณ ที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องหามออกจากสนาม
             

          นาทีที่74 พัทยา ยูไนเต็ด พลาดการได้ประตูตีไข้แตก หลังจาก ชัยณรงค์ ทาทอง ยิงจากนอกเขตโทษบอลไปติดเซฟ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ก่อนที่บอลจะตกมาถึง ชัยวัฒน์ บุราญ ตามซ้ำไปชนเสาแรก ก่อนที่บอลจะเด้งไปเข้าทาง เวลลิงตัน พรีโอรี่ ยิงไปชนเสาสองหลุดออกไป
                                                          
               
          นาทีที่75 “โลมาสีน้ำเงิน” ส่ง วรนาถ ทองเครือ ลงไปแทน อนุวัฒน์ อินยิน นาทีที่78 เอสซีจี เมืองทองฯ ถอด อดิศักดิ์ ไกรษร แล้วให้ มงคล ทศไกร ลงไป นาทีที่79 วรนาถ ทองเครือ เปิดบอลจากขวาเข้าไปในเขตโทษ สุพรรณ ทองสงค์ โหม่งเคลียร์ทิ้งออกมา
              

          นาทีที่84 ชัยวัฒน์ บุราญ ยิงไกลจังหวะแรกโดน กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ปัดบอลออกมา ทว่าบอลไปเข้าทาง ชัยณรงค์ ทาทอง ยิงหลุดออกหลังไป นาทีที่88 ทีมเยือนมได้ประตูตอกฝาโลง หลังจาก ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลเลียดจากซ้ายเข้าไปในเขตโทษ ธีรศิลป์ แดงดา ชาร์จไม่โดน ทว่าบอลลึกไปถึง มงคล ทศไกร แปนิ่มๆส่งบอลเข้าไป กลายเป็นสกอร์แรกในสีเสื้อ “กิเลนผยอง” ของเจ้าตัวหลังจากย้ายมาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี จาก สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด พร้อมกับช่วยให้ เอสซีจี เมืองทองฯ บุกมาชนะ 3-0

          ซึ่ง 14 นัดของ เอสซีจี เมืองทองฯ ในการชนะรวดตั้งแต่ปีที่แล้วมาถึงฤดูกาลนี้ ประกอบด้วย วันที่ 20 ก.ค.59  ชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี 1-0 (ย ), วันที่ 24 ก.ค.59 ชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 3-2 (ห), วันที่ 30 ก.ค. 59 ชนะ ชลบุรี เอฟซี 3-0 (ย), วันที่ 7 ส.ค.59 ชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-0 (ห)
             

          วันที่ 14 ส.ค.59 ชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี 1-0 (ย), วันที่ 20 ส.ค.59 ชนะ พัทยา ยูไนเต็ด 4-1 (ห), วันที่ 11 ก.ย.59 ชนะ สุโขทัย เอฟซี 1-0 (ย), วันที่18 ก.ย.59  บีบีซียู 5-1 (สนามกลาง), วันที่ 24 ก.ย. 59 ชนะ ชัยนาท ฮอร์นบิล 2-1 (ย), วันที่ 11 ก.พ.60 ชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี 4-0 (ย), วันที่ 17 ก.พ.60 ชนะ สุโขทัย เอฟซี 1-0 (ห), วันที่ 25 ก.พ.60 ชนะ โปลิศ เทโร เอฟซี 1-0 (ย), วันที่ 5 มี.ค.60 ชนะ ชลบุรี เอฟซี 3-0 (ย) และวันที่ 8 มี.ค.60 ชนะ พัทยา ยูไนเต็ด 2-0 (ย)
             

          ซึ่งสถิติชนะในลีกติดต่อกัน 14 นัด เหมือนกับปีที่แล้ว ประกอบด้วยวันที่ 2 เม.ย. 59 ชนะ ราชนาวี ( ย ) 4-0, วันที่ 23 เม.ย. 59 ชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี ( ห ) 4-0, วันที่ 27 เม.ย. 59 ชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ( ย ) 3-0, วันที่ 1 พ.ค. 59 ชนะ ชลบุรี เอฟซี ( ห ) 1-0, วันที่ 7 พ.ค. 59 ชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด ( ย ) 3-0
             

          วันที่ 11 พ.ค. 59 ชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี ( ห ) 1-0, วันที่ 15 พ.ค. 59 ชนะ พัทยา ยูไนเต็ด ( ย ) 2-1, วันที่ 21 พ.ค. 59 สุโขทัย เอฟซี ( ห ) 2-1, วันที่ 28 พ.ค. 59 ชนะ บีบีซียู เอฟซี ( ย ) 2-1, วันที่ 12 มิ.ย. 59 ชนะ ชัยนาท ฮอร์นบิล ( ห ) 2-0, วันที่ 19 มิ.ย. 59 ชนะ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ( ย ) 1-0 วันที่ 22 มิ.ย. 59 ชนะ ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ ( ห ) 8-3, วันที่ 25 มิ.ย. 59 นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ( ห ) 4-1 และวันที่ 29 มิ.ย. 59 ชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี 2-1 ( ย ) ก่อนบุกแพ้ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 1-3 เมื่อวันที่ วันที่ 2 ก.ค.59

          ทำให้การเก็บชัยชนะ 14 เกมรวดในลีก เป็นหนที่สองครั้งนี้ มากกว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ทำได้ครั้งเดียวในปี 2015 หลังจากที่ “กิเลนผยอง”ตะบันชัยมาแล้วเป็นครั้งที่สอง ซึ่งกลายเป็นประวัติศาสนตร์หน้าใหม่ที่ต้องจารึกไว้บนลีกสูงสุดของสยามประเทศ