"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่มี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่ติดโทษแบนโดยเตรียมใช้งาน มาร์คัส แรชฟอร์ด ปิดสกอร์ เกมบุกถิ่น "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 6 คืนวันจันทร์ที่ 13 มี.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : ช่อง 7, เวลา : 02.45 น.

ปรีวิวฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 6

วันจันทร์ที่ 13 มีนาคม 2560

เชลซี (พรีเมียร์ลีก) - แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)

ถ่ายทอดสด : ช่อง 7, เวลา : 02.45 น.

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

        คู่สุดท้ายของรอบ 6 เป็นบิ๊กแมตช์ มันเดย์ไนท์ เชลซี จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก เปิดบ้านรับมือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า เอฟเอ คัพ

        สิงโตน้ำเงินคราม ของกุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้ เวลานี้ทิ้งทีมตามอย่าง สเปอร์ส กับ แมนฯ ซิตี้ ถึง 10 คะแนน ขณะที่เหลืออีก 11 นัด

        เกมล่าสุดก็บุกอัด เวสต์แฮม 2-1 ในศึกลอนดอนดาร์บี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

        เส้นทางใน เอฟเอ คัพ ก็เข้ารอบมาแบบสบายๆ เริ่มจากรอบ 3 เล่นในบ้านถล่ม ปีเตอร์โบโร่ ทีมลีกวัน 4-1, รอบ 4 เปิดรังอัด เบรนท์ฟอร์ด ทีมแชมเปี้ยนชิพ 4-0 และรอบ 5 บุกชนะ วูลฟ์ส ทีมแชมเปี้ยนชิพ 2-0

        สภาพทีม คอนเต้ ก็ไม่มีปัญหาเหมือนเดิม การจัดทัพอาจปรับแค่บางตำแหน่ง ผู้รักษาประตูให้มือ 2 อัสเมียร์ เบโกวิช ลงเฝ้าเสาบอลถ้วย

        แผงหลังคงต้องจัดชุดใหญ่ เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, ดาวิด ลุยซ์, แกรี่ เคฮิลล์ ไม่เหมือนรอบที่แล้ว ที่ใช้ จอห์น เทอร์รี่, เคิร์ต ซูม่า, เนธาน อาเก้

        แดนกลาง เนมานย่า มาติช คุมเกมกับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แนวรุกจัดเต็มเหมือนรอบที่แล้ว เอแดน อาซาร์ ปั้นเกมรุกกับ วิลเลียน และมีหน้าเป้า ดีเอโก้ คอสต้า

        ฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งผ่านเกมลีกที่เปิดบ้านเสมอ บอร์นมัธ 1-1 และ ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก ที่บุกเสมอ รอสตอฟ สกอร์เดียวกัน

        ในลีกเวลานี้ยังมีลุ้นอันดับ 4 เต็มตัว เพราะตาม ลิเวอร์พูล แค่ 3 แต้ม และแข่งน้อยกว่า 1 นัด

        กุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ ต้องเริ่มจัดทีมโดยไม่มี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าตัวเก่งที่เริ่มชดใช้โทษแบน 3 นัด หลังโดนลงดาบย้อนหลังกรณีศอก ไทโรน มิงส์

        แต่ข่าวดี เอริค ไบยี่ กองหลังไอวอรี่โคสต์จะกลับคืนทีม หลังติดโทษแบนเกมยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดี

        ลุค ชอว์ แบ็กซ้าย กับ เวย์น รูนี่ย์ กองหน้า 2 นักเตะที่ลงตัวจริงเกมกับ บอร์นมัธ แต่ไม่ได้บินไปรัสเซียเกมที่ รอสตอฟ จะกลับคืนทีมตามปกติ

        การจัดทัพจะใช้ เซร์คิโอ โรเมโร่ เฝ้าเสาต่อเนื่องจากเกมยุโรป หลังลงเล่นใน เอฟเอ คัพ ก่อนหน้านี้

        แผงหลังยังไม่แน่ว่าจะเลือกระบบ 3-5-2 เหมือนที่เล่นกับ รอสตอฟ หรือกลับมาใช้แผงหลัง 4 ตามปกติ ซึ่งทั้ง ฟิล โจนส์, คริส สมอลลิ่ง, มาร์กอส โรโฮ และ เอริค ไบยี่ พร้อมเป็นตัวเลือก

        แดนกลาง อันเดร์ เอร์เรร่า, ปอล ป๊อกบา, ไมเคิ่ล คาร์ริค และ มารูยาน เฟลไลนี่ ก็พร้อมทั้งหมด

        แนวรุกยังมีตัวเลือกเพียบทั้ง เฮนริค มคิทาร์ยาน มิดฟิลด์ตัวรุกที่หายเจ็บกลับมายิง รอสตอฟ, ฆวน มาต้า, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, มาร์คัส แรชฟอร์ด, เจสซี่ ลินการ์ด และ เวย์น รูนี่ย์

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เชลซี : อัสเมียร์ เบโกวิช, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, ดาวิด ลุยซ์, แกรี่ เคฮิลล์, วิคเตอร์ โมเสส, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เนมานย่า มาติช, มาร์กอส อลอนโซ่, วิลเลียน, เอแดน อาซาร์, ดีเอโก้ คอสต้า

        แมนฯ ยูไนเต็ด : เซร์คิโอ โรเมโร่, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, เอริค ไบยี่, คริส สมอลลิ่ง, มาร์กอส โรโฮ, ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันเดร์ เอร์เรร่า, ฆวน มาต้า, ปอล ป๊อกบา, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, มาร์คัส แรชฟอร์ด

        ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- คู่นี้เจอกันมาทั้งหมด 175 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 75 นัด เชลซี ชนะ 51 นัด และเสมอกัน 49 นัด
- เชลซี ไม่แพ้เลยใน 11 นัดหลังสุดที่เจอแมนฯ ยูไนเต็ดในทุกรายการ
- เชลซี ยิงอย่างน้อย 2 ประตูต่อนัด ใน 8 จาก 9 นัดหลังสุดในเอฟเอ คัพ
- แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นเจ้าของแชมป์สูงสุด 12 สมัยเท่ากับอาร์เซน่อล ส่วนเชลซีได้ไป 7 สมัย
- แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 5 จาก 6 นัดหลังสุดในเอฟเอ คัพ และยิงอย่างน้อย 2 ประตูต่อนัดอีกด้วย
- ครั้งล่าสุดที่เจอกันในเอฟเอ คัพ แมนฯ ยูไนเต็ดเสมอเชลซี 2-2 ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก่อนที่ทัพสิงห์บูลส์จะกลับไปเล่นนัดรีเพลย์ที่สแตฟอร์ด บริดจ์ และเอาชนะไป 1-0 จากประตูชัยของ เดมบา บา ในปี 2013
- ส่วนครั้งล่าสุดที่เจอกันที่เดอะ บริดจ์ คือเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อต้นฤดูกาลที่เชลซีไล่ยำแมนฯ ยูไนเต็ด 4-0 และเป็นความพ่ายแพ้ย่อยยับที่สุดของ โชเซ่ มูรินโญ่ ในตำแหน่งกุนซือผีแดง
- ทั้งสองทีมยิงไป 10 ประตู และเสีย 1 ประตูเท่ากันจาก 3 นัดของเอฟเอ คัพในฤดูกาลนี้