PREVIEW ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก (นัดที่6) : ไทย - ซาอุดิอาระเบีย
Posted 23/03/2017 by goal.com
ช้างศึกที่พ่ายทัพกรีนฟัลคอนมาอย่างเจ็บปวด มาครานี้พวกเขาจะล้างแค้นได้หรือไม่ เช็คความพร้อมและข้อมูลน่าสนใจก่อนเกมกันที่นี่
แข่งขัน : วันที่ 23 มีนาคม 2017
สนามราชมังคลากีฬาสถาน
เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 7
สภาพความพร้อม
ทีมชาติไทย : เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เรียกลูกทีมมาฝึกซ้อมตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยสถานการณ์ขณะนี้แม้ผ่าน 5 นัดแรกเป็นทีมเดียวที่ยังไม่ชนะใคร รั้งอันดับสุดท้ายของกลุ่มบี แต่ล่าสุดก็สามารถเปิดบ้านเสมอ ทีมชาติออสเตรเลีย มาได้ 2-2
ขณะที่ความพร้อมเกมนี้ไม่มี สารัช อยู่เย็น กองกลางคนสำคัญที่บาดเจ็บยาว คาดว่าจะยึดแผงมิดฟิลด์ที่เคยใช้ในเกมเปิดบ้านพ่ายทีมชาติญี่ปุ่น 0-2 ภายใต้ระบบ 3-5-2 มี ปกเกล้า อนันต์ , ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ชาริล ชัปปุยส์ แดนหน้าเป็น ธีรศิลป์ แดงดา จับคู่กับ สิโรจน์ ฉัตรทอง ซึ่งน่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงก่อน อดิศักดิ์ ไกรษร ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาติดทีม
ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย : เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ กุนซือชาวเนเธอร์แลนด์พาลูกทีมเดินทางมาประเทศไทยก่อนแข่งถึง 1 สัปดาห์ โดยสถานการณ์ขณะนี้แม้ล่าสุดบุกพ่าย ทีมชาติญี่ปุ่น 1-2 แต่ยังนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มบี จากการมี 10 คะแนนเท่ากับทัพซามูไร แต่ประตูได้เสียดีกว่า
ขณะที่ความพร้อมเกมนี้ไม่มี ฟาฮัด อัล-มุวาลัด กองกลางที่เรียกจุดโทษเกมชนะช้างศึก 1-0 ที่บาดเจ็บ รวมถึง หมดสิทธิ์ใช้งาน อุซามะห์ เฮาซาวี เซนเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมและ ฮัสซัน มุอ๊าต แบ็กขวาตัวหลัก ที่ติดโทษแบน แต่ยังมีข่าวดีเมื่อ มุฮัมมัด อัล ฟาติล , ซิร อัล ชะห์รอนี และ ซัลมาน อัล ฟารัจญ์ ที่บาดเจ็บก่อนหน้านี้ล้วนกลับมาซ้อมได้แล้ว รวมถึงแกนหลักอย่าง มุฮัมมัด อัล ซะห์ลาวี ก็พร้อมเป็นตัวชูโรงในแดนหน้า
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติไทย (3-5-2)
กวินทร์
อดิศร , ธนบูรณ์ , กรวิทย์
โด , ปกเกล้า , ชนาธิป , ชัปปุยส์ , ธีราทร
สิโรจน์ , ธีรศิลป์
ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย (4-2-3-1)
ยาสซิร อัล มุไซลีม
มุฮัมมัด อัล บรีค, อุมัร เฮาซาวี, มุต๊าซ เฮาซาวี , ยาซิร อัล ชะห์รอน
ซัลมาน อัล ฟารัจญ์ , อับดุลมาลิก อัล คอยบรี
ยะห์ยา อัล ชิห์ริ , ไตซิร อัล ญัซซิม , นาวาฟ อัล อะบิด,
มุฮัมมัด อัล ซะห์ลาวี
สถิติและข้อมูลที่น่าสนใจ
- พบกันมาทั้งหมด 15 นัด (ตามบันทึกของฟีฟ่า) ทีมชาติไทย เป็นรองสุดกู่เมื่อชนะ 1 นัด เสมอ 1 นัดและแพ้ถึง 13 นัดมีประตูเกิดขึ้น 48 ประตู ทีมชาติไทยยิงได้ 9 ประตู ส่วน ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย 39 ประตู
- ขณะที่ 5 นัดหลังสุดที่พบกัน ทีมชาติไทย ก็ไม่เคยชนะ ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย ทำได้ดีที่สุดคือเปิดบ้านเสมอ 0-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย นอกนั้น 4 นัดแพ้ทั้งหมด
- ล่าสุดที่พบกัน ทีมชาติไทย บุกพ่าย ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย 0-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดแรก
- จากการบันทึกของฟีฟ่า ชัยชนะครั้งล่าสุดและครั้งเดียวของ ทีมชาติไทย ที่มีเหนือ ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 33 ปีที่แล้ว ในเกมอุ่นเครื่องที่พ่ายไป 3-1 เมื่อปี 1984
- อย่างไรก็ตาม 5 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ ทีมชาติไทย มีผลงานดีกว่า เมื่อชนะ 4 นัด แพ้ 1 นัด ส่วนทีมชาติซาอุดิอาระเบีย ชนะ 2 นัด เสมอ 2 และแพ้ 1 นัด
- ปัจจุบัน ทีมชาติไทย รั้งอันดับ 17 ของเอเชีย ส่วน ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย อันดับ 5 ของเอเชีย จากการจัดอันดับฟีฟ่าแรงกิ้งเดือนล่าสุด
- ธีรศิลป์ แดงดา เป็นผู้เล่นชุดปัจจุบัน ยิงทีมชาติจากตะวันออกกลางมากสุดที่ 6 ประตู และเป็นผู้เล่นไทยรายล่าสุดที่ยิงใส่ ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย ได้ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อปี 2009 ที่พ่ายไป 2-1 หรือเมื่อ 8 ปีที่แล้ว
- นอกจากนี้ ธีรศิลป์ แดงดา ยังยิงไปแล้ว 40 ประตู รั้งอันดับ 5 ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลทีมชาติไทย โดยขออีกเพียง 2 ประตูจะขึ้นอันดับ 4 เทียบเท่า เจษฎากรณ์ ณ พัทลุงด้วยผลงาน 42 ประตู
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์