ผู้รักษาประตู : เวย์น เฮนเนสซี่ย์ (คริสตัล พาเลซ)

        เกมสุดช็อกที่ เดอะ บริดจ์ เมื่อ "ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซ กล้าๆบุกมาเอาชนะจ่าฝูง เชลซี 2-1 โดยฮีโร่ของทีมก็คือนายด่านวัย 30 ปีรายนี้

        เฮนเนสซี่ย์ ซูเปอร์เซฟมือเป็นระวิงถึง 10 ครั้ง ส่งผลให้เจ้าตัวกลายเป็นนายทวารที่เซฟต่อเกมมากที่สุดของทีม นับตั้งแต่ฤดูกาล 2003-04

วิงแบ๊กขวา : แดนนี่ ซิมพ์สัน (เลสเตอร์ ซิตี้)

        แบ๊กขวาจอมบุก เล่นได้อย่างมั่นใจ โดย ซิมพ์สัน ทำ 2 แอสซิสต์ได้ในเกมที่ เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังเชือด สโต๊ค ซิตี้ 2-0

เซนเตอร์ฮาล์ฟ : เอริก ดายเออร์ (ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์)

        เป็นอีกหนึ่งเกมที่ยากสำหรับ สเปอร์ส เมื่อครึ่งแรกพวกเขาเจาะแนวรับของเจ้าถิ่น เบิร์นลีย์ ไม่สำเร็จ จนมาได้ประตูปลดแอ็กจากแนวรับหนุ่มรายนี้ 

        ดายเออร์ ป้องกันลูกโด่ง 8 ครั้ง และเคลียร์บอลอันตราย 10 ครั้ง ช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะ เบิร์นลีย์ ได้สำเร็จ 2-0  

เซนเตอร์ฮาล์ฟ : ชโคดราน มุสตาฟี่ (อาร์เซนอล)

        แนวรับเมืองเบียร์ ทำผลงานสุดแจ่ม กับการเข้าปะทะสำเร็จ 3 จาก 4 ครั้ง, เคลียร์บอลอันตราย 2 ครั้ง, ดวลลูกกลางอากาศชนะ 3 ครั้ง, มี 1 แอสซิสต์ และทำประตูสำคัญซึ่งเป็นลูกโขกตีเสมอ ส่งผลให้ อาร์เซนอล เปิดถิ่นเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแบบสนุก 2-2 

เซนเตอร์ฮาล์ฟ : จอห์นนี่ อีแวนส์ (เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน)

        อดีตแนวรับปีศาจแดง โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจเมื่อเจอกันทีมเก่า อีแวนส์ เข้าปะทะสำเร็จ 4 ครั้ง, ตัดบอล 2 ครั้ง และเคลียร์บอลอันตรายถึง 11 ครั้งมากที่สุดในเกมนี้ ช่วยให้ทีมบุกไปยันเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0

วิงแบ๊กซ้าย : แอนดริว โรเบิร์ตสัน (ฮัลล์ ซิตี้)

        "เจ้าเสือน้อย" ตกเป็นรองในช่วงครึ่งแรก ก่อนจะมาได้ลูกยิงตีเสมอของแบ๊กซ้ายวัย 23 ปีรายนี้ ที่วิ่งทุละแนวรับเวสต์แฮมเข้าไปซัดด้วยซ้าย ส่งผลให้สถานการณ์เหวี่ยงมาหา ทีม ก่อนมาเบียดเอาชนะได้ในบั้นปลาย 2-1

กองกลาง : ลูคัส เลว่า (ลิเวอร์พูล)

        ก่อนเกมเหล่าแฟน เดอะ ค็อป เห็นชื่อ ลูคัส ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมบิ๊กแม็ตช์แบบนี้ คงออกอาการเซ็ง และเสียวไม่น้อย แต่ "ลูลู่" ก็แสดงผลงานสุดเยี่ยมประจักษ์ต่อสายตาที่คิดแง่ลบเหล่านั้น

        จอมเก๋าวัย 30 ปี ปัดกวาดแดนกลางได้สะอาดเอี่ยมอ่อง โดยเจ้าตัวเอาชนะการดวลลูกกลางอากาศ 9 ครั้ง ป้องกัน 10 ครั้ง, เข้าปะทะสำเร็จ 9 จาก 13 ครั้ง, เคลียร์บอลอันตราย และ ตัดบอลได้อย่างละ 3 ครั้ง 

กองกลาง : วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ (เลสเตอร์ ซิตี้)

        ตัวตัดเกมหนุ่มรายนี้ ยิ่งเล่นยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ เอ็นดิดี้ ป้องกันลูกโด่งสูงถึง 13 ครั้ง มากที่สุดในเกม, เข้าปะทะสำเร็จ 5 จาก 7 ครั้ง, เคลียร์บอลอันตราย 5 ครั้ง, ตัดบอล 3 ครั้ง ซึ่งเกมเอาชนะ สโต๊ค 2-0 เจ้าตัวจัดลูกยิงเปิดหัวสุดสวยจากการยิงไกลเต็มหลังเท้า และเป็นประตูแรกของ เอ็นดิดี้ ในเกมลีกอีกด้วย

กองหน้า : วิลฟรีด ซาฮา (คริสตัล พาเลซ)

        ปีกตัวจี๊ดจากค่ายปราสาทเรือนแก้ว เล่นได้ตื่นตาตื่นใจ ความเร็วของเจ้าตัวปั่นป่วนแนวรับสุดหินของ เชลซี ได้ดี โดยสถิติเผย ซาฮา ผ่านบอลสำเร็จ 93%, เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งสำเร็จ 5 ครั้ง, เข้าปะทะสำเร็จ 3 ครั้ง, โอกาสยิง 3 ครั้งเป็น 1 ตุงและ 1 แอสซิสต์ให้ คริสติย็อง เบนเตเก้ สังหารประตูด้วย 

กองหน้า : คริสติย็อง เบนเตเก้ (คริสตัล พาเลซ)

        เป็นอีกหน่อจากคลับ พาเลซ ที่ฉายฟอร์มได้น่าปรบมือเมื่อเจ้ายักษ์ "เบนเท็น" เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งสำเร็จ 4 จาก 6 ครั้ง, ดวลลูกโด่งชนะ 11 ครั้ง, จ่ายให้ ซาฮา กดประตู 1 หน, โอกาสยิงทั้งเกม 2 ครั้งเป็น 1 ตุงสุดเหนือชั้น และเป็นประตูชัยให้ทีมบุกมาเอาชนะ เชลซี 2-1  

กองหน้า : ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (ลิเวอร์พูล)

        เป็นเกมในลีกที่ คูตินโญ่ เล่นได้ดีที่สุดเลยก็ว่าได้หลังหายจากอาการบาดเจ็บกลับมา โดยสถิติผ่านบอลสำเร็จ 86%, คีย์พาส 3 ครั้ง, เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งสำเร็จ 6 จาก 7 ครั้ง, เข้าปะทะสำเร็จ 1 จาก 3 ครั้ง และนัดนี้มี 1 ประตูสุดงาม ซึ่งเป็นลูกเก่งของเจ้าตัวด้วย ในเกมเปิดถิ่นเอาชนะเพื่อนบ้าน เอฟเวอร์ตัน 3-1