ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 8 เมษายน 2560

สโต๊ค  -  ลิเวอร์พูล

ถ่ายทอดสด : PPTV HD,บีอิน สปอร์ตส์ 3, เวลา : 21.00 น.    

สนาม : เบท 365 สเตเดี้ยม

        สโต๊ค ของกุนซือ มาร์ค ฮิวจ์ส อยู่ในช่วงฟอร์มตกสุดขีด พ่ายมา 3 นัดติดต่อกันแล้ว ล่าสุดคือบุกแพ้ เบิร์นลี่ย์ 0-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

        สภาพทีมยังคงไม่มี เซอร์ดาน ชาคิรี่ จอมทัพร่างจิ๋วที่เจ็บน่อง และประตูมือ 1 แจ็ค บัตแลนด์ ที่อยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพความฟิต

        ฮิวจ์ส อาจใช้ระบบการเล่น 3-4-2-1 ต่อไป มี ลี แกรนท์ ลงเฝ้าเสา แผงหลัง 3 คน ไรอัน ชอว์ครอสส์, บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ และ มาร์ก มูเนียซ่า

        วิงแบ็ก 2 ฝั่ง ด้านขวาใช้ มาเม่ บิราม ดิยุฟ และซ้าย เอริค ปีเตอร์ส

        ตรงกลางสนาม เจฟฟ์ คาเมรอน ลงคุมเกมกับ 2 อดีตเด็กหงส์ ชาร์ลี อดัม และ โจ อัลเลน โดยรายหลังจะดันขึ้นไปเล่นเกมรุก

        แดนหน้า มาร์โก อาร์เนาโตวิช เป็นตัวหลัก อีกตำแหน่งมีโอกาสที่ ปีเตอร์ เคร้าช์ ศูนย์หน้าร่างโย่ง อดีตแข้ง ลิเวอร์พูล อีกคน จะเบียด ไซโด้ เบราฮิโน่ ลงตัวจริง

        ด้าน ลิเวอร์พูล เพิ่งเสียท่าในเกมล่าสุดที่เล่นในบ้าน โดน บอร์นมัธ ตามตีเสมอท้ายเกม 2-2 ทำให้ต้องตามรองจ่าฝูงเพิ่มเป็น 5 แต้ม แถมยังเตะมากกว่า 1 นัด

        กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องรอเช็กความฟิตของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จอมทัพคนสำคัญที่ป่วย ถูกเปลี่ยนออกในครึ่งหลังเกมเมื่อวันพุธ

        ก่อนหน้านี้ต้องเสีย ซาดิโอ มาเน่ กองหน้าเจ็บเข่าเข้ารับการผ่าตัด ปิดฉากซีซั่นนี้แล้ว, อดัม ลัลลาน่า กองกลางตัวรุกเจ็บต้นขา และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีมที่เจ็บเท้า

        แต่ข่าวดี แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าหายเจ็บกลับมานั่งสำรองเกมเมื่อวันพุธแล้ว (แต่ไม่ได้ลงเล่น) มีลุ้นลงสนามแม้โอกาสจะน้อยก็ตาม

        การจัดทัพ ผู้รักษาประตู ซิมง มินโญเลต์ ลงเฝ้าเสา แผงหลังเรียก โจเอล มาติป ที่ได้พักเป็นสำรอง กลับมายืนเซนเตอร์คู่ เดยัน ลอฟเรน โดยมีฟูลแบ็ก เนธาเนียล ไคลน์ กับ เจมส์ มิลเนอร์

        แดนกลาง ลูคัส เลว่า คุมเกมกับ เอ็มเร่ ชาน และ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม

        แนวรุกยังใช้ ดีว็อค โอรีกี ลงประสานงาน 2 สตาร์บราซิเลียน ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ แต่หาก คูตี้ ไม่ไหว สเตอร์ริดจ์ น่าจะได้โอกาส

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        สโต๊ค : ลี แกรนท์, ไรอัน ชอว์ครอสส์, บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้, มาร์ก มูเนียซ่า, มาเม่ บิราม ดิยุฟ, เจฟฟ์ คาเมรอน, ชาร์ลี อดัม, เอริค ปีเตอร์ส, โจ อัลเลน, มาร์โก อาร์เนาโตวิช, ปีเตอร์ เคร้าช์

        ลิเวอร์พูล : ซิมง มินโญเลต์, เนธาเนียล ไคลน์, โจเอล มาติป, เดยัน ลอฟเรน, เจมส์ มิลเนอร์, ลูคัส เลว่า, เอ็มเร่ ชาน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (แดเนียล สเตอร์ริดจ์), โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ดีว็อค โอรีกี

        ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน

ผลงานการพบกันที่บ้านสโต๊ค ซิตี้
สโต๊ค ซิตี้ชนะ 27 ลิเวอร์พูลชนะ 20 เสมอ 22
ประตูที่ทำได้ : สโต๊ค ซิตี้ 110 ลูก ลิเวอร์พูล 87 ลูก

- สโต๊ค แพ้ 6 จาก 7 เกมลีกหลังสุดที่พบลิเวอร์พูล แต่ชนะในอีกเกมที่เหลือ ด้วยสกอร์ 6-1 เกมในบ้านเมื่อพฤษภาคม 2015
- ลิเวอร์พูลชนะ 2 จาก 3 ครั้งหลังสุดที่เยือนถิ่น เบท 365 สเตเดี้ยม หลังจากไม่ชนะใน 5 เกมลีกที่มาเยือนก่อนหน้านั้น (เสมอ 2 แพ้ 3)
- หงส์แดงชนะ 4-1 ใน 2 เกมแรกพรีเมียร์ลีกที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ คุมทีมพบสโต๊ค ผู้จัดการทีมคนล่าสุดที่นำทีมยิงได้อย่างน้อย 4 ประตูจาก 3 เกมแรกที่คุมทีมเจอคู่แข่งทีมเดียวคือ มานูเอล เปเยกรินี่ (แมนฯ ซิตี้ พบสเปอร์ส)
- โจนาธาน วอลเตอร์ส ยิงได้ 6 ครั้งที่พบลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีก เป็นคู่แข่งที่เขายิงได้บ่อยที่สุด
- ลิเวอร์พูลไม่ชนะ 5 เกมลีกหลังสุดนอกบ้าน (เสมอ 3 แพ้ 2) แต่ไม่เคยไม่ชนะถึง 6 นัดนับตั้งแต่มกราคม 2011
- หงส์แดงเก็บคลีนชีตได้แค่ 6 ครั้งจาก 30 เกมลีกนอกบ้านยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ เท่ากับที่ทำได้ใน 12 เกมเยือนหลังสุดยุค เบรนแดน ร็อดเจอร์ส
- สโต๊คแพ้แค่ครั้งเดียวจาก 9 เกมลีกหลังสุดในบ้าน (ชนะ 4 เสมอ 4) แม้ว่าเกมดังกล่าว เกิดจากนัดล่าสุดที่เล่นในบ้าน (พบเชลซี เมื่อ 18 มีนาคม)
- "ช่างปั้นหม้อ" เก็บ 23 แต้มจาก 15 เกมแรกในบ้าน นับเป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกัน
- ลิเวอร์พูลชนะแค่ครึ่งเดียวจาก 16 เกมลีกที่พบคู่แข่งในครึ่งล่างของตาราง (ชนะ 8 เสมอ 3 แพ้ 5)
- "หงส์แดง" ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (66) มากกว่าฤดูกาลที่แล้ว (63) และฤดูกาล 2014-15 (52) แต่น้อยกว่าฤดูกาล 2013-14 ที่พวกเขาทำสถิติสูงสุดของสโมสร (101 ประตู)
- ในเกมที่ลิเวอร์พูลลงเล่น มีประตูเกิดขึ้นถึง 105 ประตู มากที่สุดในลีก ฤดูกาลนี้

ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (บ้านสโต๊ค ซิตี้)
สโต๊ค ซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล    0-1
9 สิงหาคม 2015 ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์
ผู้ทำประตู : 0-1 ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ น.86