ปรีวิวฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง

วันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน 2560

แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) - อันเดอร์เลชท์ (เบลเยียม)

(ผลนัดแรก เสมอ 1-1)

ถ่ายทอดสดเวลา 02.05 น. : PPTV HD, บีอิน สปอร์ตส์ 1

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

          แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีประตูทีมเยือนตุนมา 1 ลูก จึงขอแค่ผลเสมอ 0-0 ก็จะเข้ารอบทันที หลังบุกไปเสมอที่อันเดอร์เลชท์มา 1-1

          ผลงานในลีกเพิ่งเปิดบ้านชนะเชลซีจ่าฝูง 2-0 เมื่อวันอาทิตย์ เป็นชัยชนะ 2 นัดติด และทำให้ไม่แพ้เกมลีก 21 นัดติดต่อกันแล้ว

          โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือปีศาจแดงปรับเปลี่ยนทีมและระบบการเล่นในเกมกับสิงโตน้ำเงินคราม โดยยังขาดตัวเจ็บ ฆวน มาต้า (โคนขาหนีบ), ฟิล โจนส์ (นิ้วเท้า) และ คริส สมอลลิ่ง (เข่า)

          ที่ต้องรอทดสอบความฟิตมี เวย์น รูนี่ย์ กองหน้ากัปตันทีมที่เจ็บข้อเท้ามีลุ้นกลับคืนทีมแล้ว หลังหายหน้าไปนานถึง 3 สัปดาห์ ส่วน เจสซี่ ลินการ์ด มิดฟิลด์ตัวรุกที่เจ็บเท้าพลาดเกมกับเชลซี แต่จะพร้อมกลับมาในเกมยุโรป

          ตัวติดโทษแบนก็ไม่มี มีเพียงที่คาดโทษใบเหลืองอยู่ 3 คน เอริก ไบยี่, อันเดร์ เอร์เรร่า, เฮนริค มคิทาร์ยาน หากโดนเพิ่มจะติดโทษแบนรอบรองฯ

          การจัดทัพ ผู้รักษาประตูน่าจะให้ เซร์คิโอ โรเมโร่ มือ 2 ลงเฝ้าเสาเหมือนเดิม หลังลงตัวจริงเกมยูโรปา ลีก มาตลอด 6 นัดหลัง

          แผงหลังอาจยึด 3 คนเหมือนที่เล่นกับเชลซี ใช้ เอริก ไบยี่, มาร์กอส โรโฮ, มัตเตโอ ดาร์เมียน โดยมีวิงแบ็ก อันโตนิโอ วาเลนเซีย กับ ลุค ชอว์

          แดนกลางเรียก ไมเคิ่ล คาร์ริค ลงเป็นตัวตัดเกมกับ อันเดร์ เอร์เรร่า และขยับ ปอล ป็อกบา เล่นเกมรุก แนวรุกก็ให้ เฮนริค มคิทาร์ยาน กับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กลับมาเป็นตัวจริงทั้งคู่ หลังนั่งสำรองในเกมลีกเมื่อวันอาทิตย์

          ฝั่งอันเดอร์เลชท์ ทีมดังเบลเยียมเอาตัวรอดมาจากนัดแรกที่ไล่ตีเสมอ 1-1 ท้ายเกม จากลูกโหม่งของ เลอันเดอร์ เดนดองเคอร์ ทั้งที่น่าจะแพ้เกิน 1 ประตูด้วยซ้ำ

          เทรนเนอร์ เรเน่ ไวเลอร์ พาทีมนำจ่าฝูงลีกเบลเยียมในช่วงเพลย์ออฟ แชมเปี้ยนชิพ หลังจากเกมล่าสุดบุกชนะออสเทนเด้ 1-0

          สภาพทีมไม่มีใครติดโทษแบน มีเพียง แอนดี้ นาฮาร์ ปีกฮอนดูรัสที่บาดเจ็บ ต้องรอทดสอบความฟิต

          ไวเลอร์น่าจะยึดตัวหลักจากเกมแรกกับแมนฯ ยูไนเต็ด ลงต่อ ผู้รักษาประตู รูเบน มาร์ติเนซ กองหลัง เดนนิส อัปเปียห์, คาร่า เอ็มโบฌี, บราม ไนติงค์, อีวาน โอบราโดวิช

          แดนกลาง นิโคเล สตานชิอู, ยูริ ตีเลมองส์, เลอันเดอร์ เดนดองเคอร์ สามแนวรุกปรับมาใช้ โซฟียาน ฮานนี่, อเล็กซานดรู ชิปชิอู, ลูคัส เทโอดอร์ชิค

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

          แมนฯ ยูไนเต็ด : เซร์คิโอ โรเมโร่, เอริก ไบยี่, มาร์กอส โรโฮ, มัตเตโอ ดาร์เมียน, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันเดร์ เอร์เรร่า, ลุค ชอว์, ปอล ป็อกบา, เฮนริค มคิทาร์ยาน, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

          อันเดอร์เลชท์ : รูเบน มาร์ติเนซ, เดนนิส อัปเปียห์, คาร่า เอ็มโบฌี, บราม ไนติงค์, อีวาน โอบราโดวิช, นิโคเล สตานชิอู, ยูริ ตีเลมองส์, เลอันเดอร์ เดนดองเคอร์, โซฟียาน ฮานนี่, อเล็กซานดรู ชิปชิอู, ลูคัส เทโอดอร์ชิค

ผู้ตัดสิน : อัลเบร์โต้ อุนเดียโน่ มาเยนโก้ (สเปน)

ข้อมูลน่าสนใจก่อนเกม

          - แมนฯ ยูไนเต็ดเก็บชัยชนะได้ทั้ง 5 เกมที่ลงเตะเกมยุโรปในบ้านปีนี้ และไม่แพ้มา 16 เกมติดต่อกันแล้ว (ชนะ 13 เสมอ 3)

          - อันเดอร์เลชท์เสียไป 18 ประตูจากการออกมาเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด 3 หนที่ผ่านมา

          - นี่คือการดวลกันครั้งที่ 8 ของสองทีมนี้ โดย อันเดอร์เลชท์ เก็บชัยชนะได้ 2 จาก 7 ครั้งที่ผ่านมา ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะไป 4 ครั้ง รวมถึง 3 หนล่าสุดที่แมนเชสเตอร์ด้วย

          - อันเดอร์เลชท์พ่ายไปถึง 20 จาก 33 ครั้งที่ดวลกับทีมอังกฤษในรายการแข่งขันของยูฟ่า (ชนะ 7 เสมอ 6) และยังไม่ชนะเลยในการมาเยือนเมืองผู้ดี 15 ครั้งที่ผ่านมา (เสมอ 2 แพ้ 13)

          - อันเดอร์เลชท์พ่ายเพียงครั้งเดียวจากการออกไปเตะเกมยุโรปนอกบ้าน 7 นัดในซีซั่นนี้ (ชนะ 3 เสมอ 3) โดยยิงได้อย่างน้อย 1 ประตู