แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สร้างประวัติศาสตร์ในเกมเอฟ เอคัพ ด้วยการส่งสำรองรายที่ 4 ลงสนาม จากการเปลี่ยน เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ลงแทน ราฮีม สเตอร์ลิง ในช่วงต่อเวลาพิเศษนัดที่ "เรือใบสีฟ้า" แพ้ อาร์เซน่อล ในรอบตัดเชือก เมื่อวันอาทิตย์ โดยนับเป็นทีมแรกที่ใช้สิทธิ์นี้นับตั้งแต่สมาคมลูกหนังผู้ดีเปิดไฟเขียวให้ เปลี่ยนเพิ่มได้เป็นกรณีพิเศษ
       
"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับศึก เอฟเอ คัพ ด้วยการส่ง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ กองหน้าชาวไนจีเรีย ลงเล่นในฐานะตัวสำรองคนที่ 4 ในช่วงต่อเวลาพิเศษนัดที่ทีมพ่ายแพ้ต่อ อาร์เซน่อล 1-2 หลังเสมอกัน 1-1 ในช่วง 90 นาที ในรอบรองชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์ สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ได้ประกาศแล้วว่า พวกเขาอนุญาตให้แต่ละสโมสรสามารถส่งผู้เล่นคนที่ 4 ลงสนามได้ เมื่อถึงช่วงต่อเวลาพิเศษในเกมเอฟเอ คัพ ตั้งแต่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นต้นไป หากเปลี่ยนตัวผู้เล่นครบ 3 คนแล้วในช่วง 90 นาที แต่ก็ยังไม่มีทีมไหนใช้สิทธิ์นี้

อย่างไรด็ดี ล่าสุดในรอบรองชนะเลิศ ทีมของ โจเซป กวารดิโอล่า ได้สร้างประวัติศาสตร์ในเกมเอฟ เอ คัพ ด้วยการส่ง อิเฮียนาโช่ ลงเป็นตัวสำรองรายที่ 4 แทน ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกทีมชาติอังกฤษ ในนาทีที่ 105 หลังจากที่ "เป๊ป" ได้เปลี่ยน สเตอร์ลิง, แฟร์นานโด และ ฟาเบียน เดลฟ์ ลงแทน ดาบิด ซิลบา, แฟร์นานดินโญ่ และ เซร์คิโอ อเกวโร่ ตามลำดับไปแล้วก่อนหน้านั้น