"จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนาม คิง เพาเวอร์ ทุบ "แตนอาละวาด" วัตฟอร์ด นิ่ม 3-0 รับประกันความอยู่รอดแน่นอนแล้ว ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อ วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม 2560
เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 วัตฟอร์ด

 
สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

         "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ ยังชวดใช้งาน เวส มอร์แกน กัปตันทีม ทำให้ที่เหลือยังเป็นผู้เล่นชุดเดิม โดยคู่หน้าวาง ชินจิ โอกาซากิ แข้งญี่ปุ่นจอมฟิตเป็นคู่ขา เจมี่ วาร์ดี้ ทำให้ อิสลาม สลิมานี่ แข้งแอลจีเรียเป็นสำรองไปก่อน

         ทางด้าน "แตนอาละวาด" วัตฟอร์ด ปรับหมากแนวรุกโดยพัก ทรอย ดีนีย์ กัปตันทีมไว้บนม้านั่งสำรอง และใช้ เอ็มบาย เนียง จับคู่ สเตฟาโน่ โอกาก้า พร้อมยึดระบบ 3 เซนเตอร์เอาไว้เหมือนเดิม และโยก ดารีล ยานมัต มาอยู่ทางซ้ายอีกครั้ง

         เปิดฉาก 7 นาที เจ้าบ้านทักทายก่อนจากการตะบันหน้าเขตโทษของ แดเนี่ยล ดริงค์วอเตอร์ แต่บอลไม่เข้ากรอบ

        นาที 13 ทีมเยือนเก็บตกหน้ากรอบเขตโทษ ดูคูเร่แตะให้เคลฟเวอร์ลี่ย์ตั้งป้อมตะบันจากแถวสอง บอลพุ่งหลุดเสาแรก
 

                 จิ้งจอกเริ่มคลายพิษ นาที 18 จากฟรีคิกหน้าเขตโทษ มาห์เรซจ่ายเรียดขึ้นหน้าไปที่ว่าง วาร์ดี้ฉีกไปเอาบอลแล้วตวัดเข้ากลาง มาริอัปป้าสกัดผิดเหลี่ยม บอลชนเสากระเด้งออกมา เกือบกลายเป็นการทำเข้าประตูตัวเอง

         ยังเหวอต่อ นาที 21 คริสเตียน ฟุคส์ เปิดบอลจากซ้ายมาหน้าประตู กาบาเซเล่โหม่งผิดเหลี่ยม บอลทำท่าจะลอยเสียบเสาไกล ร้อนถึงโกเมสต้องบินปัดได้ปลายมือ แตนรอดหวุดหวิด

         เผลอไม่ได้ นาที 25 กาปูผ่านให้เนียงซัดมุมแคบทางฝั่งขวา บอลเฉียดเสาแรก อีก 4 นาที โอกาก้าวิ่งเบียดกับฮูธ แล้วพลิกตัวแล้วฮาล์ฟวอลเล่ย์ด้วยขวา บอลพุ่งตรงตัวชไมเคิ่ลกระเด้งออกมา

         ทีมเยือนใช้ลูกยิงไกลเป็นอาวุธ นาที 36 เคลฟเวอร์ลี่ย์สับไกระยะ 20 หลา บอลพุ่งเหินๆ ชไมเคิ่ลต้องออกแรงเซฟ

        อีก 2 นาที เจ้าถิ่นได้ฟาวล์หน้าเขตโทษ มาห์เรซปั่นโดนโอกาก้าที่ยืนเป็นกำแพงแฉลบออกหลัง

         จากลูกเตะมุมนี่เอง ดริงค์วเตอร์หยอดบอลเข้าเขตโทษ เอเตียง กาปู สกัดไม่ขาด กลายเป็นตั้งให้ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ กระหน่ำเผาขนแค่ 6 หลาไม่เหลือซาก เลสเตอร์ ซิตี้นำ 1-0

         ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ นาที 41 อัลไบรท์ตันไหลบอลให้มาห์เรซหน้าเขตโทษเยื้องทางขวา ปีกแอลจีเรียโยกหลอกกองหลัง ก่อนซัดด้วยซ้าย บอลแฉลบเคลฟเวอร์ลี่ย์ลอยชนคานออกหลังแบบได้เสียว จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ นำอยู่ 1-0

         กลับมาเล่นกันต่อครึ่งหลัง ผ่านไป 4 นาที โอกาซากิผ่านให้วาร์ดี้ตะบันด้วยซ้ายจากหน้าเขต บอลพุ่งเรียดเข้าซองโกเมส อีก 2 นาที แตนตอบโต้ อัมราบัตหยอดจากขวามาเสาสอง โอกาก้าลอยตัวเเหนือกองหลัง ก่อนโหม่งข้ามคาน

         จิ้งจอกขย้ำอีกแผล นาที 58 จากบอลสาดยาวมาหน้าประตูของชไมเคิ่ล มาริอัปป้าหวดโดนไม่เต็ม มาห์เรซฉกได้ทางฝั่งขวาเขตโทษ ก่อนเลี้ยงจี้เข้าใน แล้วซัดเรียดลอดขาโกเมสตุงตาข่าย เลสเตอร์ หนีเป็น 2-0

         เจ้าถิ่นผ่อนคลายขึ้น นาที 63 เปลี่ยน อิสลาม สลิมานี่ ลงแทน ชินจิ โอกาซากิ อีก 4 นาที แตนปล่อยของส่ง ทรอย ดีนี่ย์ ลงแทน เอเตียง กาปู หวังผลประตูคืน

         กระนั้น เกมเจ้าถิ่นยังเหนือกว่า นาที 68 สลิมานี่จ่ายให้วาร์ดี้สับไกด้วยขวาจากฝั่งซ้ายเขตโทษ บอลติดเซฟ อีก 2 นาที มาห์เรซควบบอลจากกลางสนามเข้าเขตโทษทางขวา ก่อนไหลเข้ากลางให้สลิมานี่ตะบันเหินขึ้นอัฒจันทร์

         มาอีกระลอก นาที 72 จิ้งจอกได้ฟาวล์หน้าเขต คริสเตียน ฟุคส์ ปั่นด้วยซ้าย บอลโด่งออกหลัง อีก 4 นาที อัมราบัตแตะให้เคลฟเวอร์ลี่ย์ตะบันจากหน้าเขต ชไมเคิ่ลป้องกันได้ อีกนาที จากลูกเตะมุม บอลจากเคลฟเวอร์ลี่ย์ไปถึงโพรเดิ้ล ยิงติดมือนายด่านเดนส์อีก

         ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่90+3 มาร์ค อัลไบรท์ตัน เติมขึ้นมากดเต็มข้อจากจังหวะไหลบอลใส่พานมาให้ของ เจมี่ วาร์ดี้ บอลพุ่งชนเสาเข้าประตู กลายเป็นสกอร์ปิดท้าย ให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ชนะ วัตฟอร์ด 3-0 รับประกันความอยู่รอดแน่นอนแล้ว

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

 เลสเตอร์ ซิตี้ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (กัปตันทีม) - แดนนี่ ซิมป์สัน, โรเบิร์ต ฮูธ,โยฮัน เบนาลูอาน, คริสเตียน ฟุคส์ - ริยาด มาห์เรซ, แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, มาร์ค อัลไบรท์ตัน - ชินจิ โอกาซากิ, เจมี่ วาร์ดี้

 สำรอง : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์, อาเหม็ด มูซ่า, เบน ชิลเวลล์, แอนดี้ คิง, อิสลาม สลิมานี่, เดมาราย เกรย์

 วัตฟอร์ด : เอเรลโญ่ โกเมส (กัปตันทีม) - อาเดรียน มาริอัปป้า, เซบาสเตียน โพรเดิ้ล, คริสติย็อง กาบาเซเล่ - นอร์ดิน อัมราบัต,  เอเตียน กาปู, อับดูลาเย่ ดูคูเร่, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, ดารีล ยานมัต - สเตฟาโน่ โอกาก้า, เอ็มบาย เนียง

 สำรอง : คอสเทล พานทิลิม่อน, อิซัค ซัคเซสส์, ทรอย ดีนี่ย์, วาลอน เบห์รามี่, ฮวน ซุนญิก้า, แอนดรูว์ เอเลฟเธอริอู, ดิออน เปไรร่า

 ผู้ตัดสิน : โรเจอร์ อีสต์