เรอัล มาดริด ทำสถิติอีกครั้งด้วยการเป็นทีมแรกจาก 5 ลีกใหญ่ในยุโรปที่ทำประตูรวมทุกถ้วย 62 นัดรวด แซงหน้า บาเยิร์น มิวนิค ที่เคยทำไว้ 61 นัด หลัง "โลส บลังโกส" ทุบ เซบีย่า แบบยับเยิน 4-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่จากเวทีลา ลีกา สเปน สร้างสถิติกลายเป็นทีมแรกจาก 5 ลีกใหญ่ของยุโรป (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลา ลีกา, กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี, บุนเดสลีกา เยอรมัน และ ลีก เอิง ฝรั่งเศส) ที่ยิงประตูรวมทุกรายการ 62 นัดติดต่อกัน แซงหน้า บาเยิร์น มิวนิค มหาอำนาจลูกหนังจากลีก บุนเดสลีกา หลังจากที่ "ราชันชุดขาว" ถล่ม เซบีย่า 4-1 ที่สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ในนัดนี้ นาโช่ เฟร์นานเดซ กับ "ซีอาร์เซเว่น" ทำประตูให้เจ้าถิ่นในนาทีที่ 10 กับ 23 ตามลำดับ จนทำให้ เรอัล นำไปก่อน 2 ลูก แต่ทีมเยือนตีไข่แตกได้จาก สเตวาน โยเวติช ในนาทีที่ 49 จนทำให้แฟน "ราชันชุดขาว" มีเสียวเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ทีมของ ซีดาน ก็มาได้อีก 2 ลูกปิดท้ายจาก โรนัลโด้ ในนาทีที่ 78 และ โทนี่ โครส ในนาทีที่ 84 ทำให้ "โลส บลังโกส" เก็บ 3 แต้ม แต่ยังรั้งอันดับ 2 ต่อไป มี 87 แต้ม จาก 36 นัด เท่ากับ บาร์เซโลน่า ทีมจ่าฝูง แต่เล่นน้อยกว่าอยู่ 1 นัด

จากชัยชนะสวยหรูในนัดดังกล่าว ทำให้ทีมของ ซีเนดีน ซีดาน ทำสถิติยิงรวมทุกถ้วยไปแล้ว 62 นัดติดต่อกัน เป็นสถิติใหม่ของ 5 ลีกใหญ่ในยุโรป หลังก่อนนี้ทำสถิติเท่ากับ "เสือใต้" ที่ 61 นัดติด ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่แพ้ แอตเลติโก มาดริด 1-2 ซึ่งพวกเขาได้ อีสโก้ ยิงตีไข่แตก ขณะที่นัดสุดท้ายที่พวกเขายิงไม่ได้ต้องย้อนไปเดือนเมษายนปีที่ในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก

สำหรับ เรอัล มาดริด มีโปรแกรมในเกมลีกบุกไปเยือน เซลต้า บีโก้ ที่สนาม บาไลดอส วันพุธนี้ ก่อนที่จะลงเล่นนัดสุดท้ายพบ มาลาก้า ในวันอาทิตย์