"สิงห์บลูส์" แชมป์พรีเมียร์ลีกปีนี้ ยังคงความแกร่งในบ้านแม้จะจัดสำรองลงเล่นเกือบยกทีมแต่ยังบดเอาชนะ "แตนอาละวาด" วัตฟอร์ด ที่เหลือ10ตัวช่วงท้ายเกม ไปแบบหวุดหวิด 4-3 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเกมนี้ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมซัดประตูแรกในซีซั่นได้สำเร็จทำสถิติยิงต่อเนื่อง 17 ปีติดต่อกัน ซึ่งในวันอาทิตย์นี้ที่จะพบกับซันเดอร์แลนด์ "เจที" จะลงเล่นในสแตมฟอร์ด บริดจ์เป็นเกมสุดท้ายเพื่อปิดตำนาน 22 ปีอันยิ่งใหญ่กับทีม

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 37
วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม 2560
เชลซี 4 - วัตฟอร์ด 3

        สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

         เชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2016-2017 ไปเรียบร้อยแล้ว นัดนี้พวกเขาเปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์รับการมาเยือนของวัตฟอร์ดที่หนีตกชั้นได้สำเร็จ ซึ่งนักเตะวัตฟอร์ดตั้งแถวปรบมือให้ผู้เล่นทีมแชมป์ระหว่างเดินสู่สนาม

         อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลียนของเชลซีปรับทัพขนสำรองลงเกือบยกทีมมีเพียงตัวหลักอย่าง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และเอแด็น อาซาร์ ลงสนามเท่านั้น ซึ่งเกมนี้ กัปตัน จอห์น เทอร์รี่ ได้ออกสตาร์ตเช่นเดียวกับฮีโร่เกมก่อน มิชี่ บาตชูอายี่ ค้ำหอกเป้า

         ส่วน วอลเตอร์ มาซซาร์รี่ ผู้จัดการทีมวัตฟอร์ดมี เอเตียน กาปู, อับดูลาย ดูกูเร่, เอ็มบาย เนียง นำทีม

         เกมครึ่งแรกนาที 22 เชลซีนำ 1-0 วิลเลี่ยน เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ คูร์ท ซูม่า ขึ้นโหม่งไปกระดอนแผ่นหลัง จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมยิงเท้าซ้ายระยะเผาขนเรียบร้อย

         แต่สองนาทีต่อมาวัตฟอร์ดตีเสมอ 1-1 จากลูกโยนมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย เข้ามาในกรอบเขตโทษ นักเตะเชลซีเล่นพลาด จอห์น เทอร์รี่ สกัดบอลแต่ไปแย่งโหม่งกับ เนธาเนียล ชาโลบาห์ กลายเป็นโขกผิดเหลี่ยมเข้าหัว เอเตียน กาปู โขกหน้าประตูเข้าไป

         จากนั้นนาที 36 เชลซีนำ 2-1 วิลเลี่ยน เปิดลูกเตะมุมฝั่งซ้าย นักเตะทีมเยือนโหม่งสกัดบอลที่เสาแรกไม่ดี บอลไปเข้าทาง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ยิงเท้าขวาบริเวณกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลพุ่งเสียบมุมเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

         จบครึ่งแรกเชลซีนำ 2-1

         ความสนุกยังไม่ลดดีกรีนาที 49 เชลซีใช้การโจมตีฉาบฉวย อาซาร์ แทงทะลุช่องจากกลางสนามให้ วิลเลี่ยน วิ่งตัดแนวรับหลุดเดี่ยวลากจี้ไปแปเล่นทางในกรอบฝั่งซ้ายกะเสียบเสาไกลแต่ เอเรลโญ่ โกเมส ยังปัดปลายมือเสียเตะมุม

         จังหวะต่อเนื่องนำมาซึ่งลูก 3-1 อาซาร์ เล่นสั้นไหลขวางไปตรงหัวกะโหลกถึง เคเนดี้ ยิงติดบล็อกแนวรับวัตฟอร์ดกลายเป็นดีเข้าทาง เนธาน อาเก้ เกี่ยวบอลไว้ในกรอบฝั่งซ้ายแล้วจ่ายถวายพานให้ มิชี่ บาตชูอายี่ ยิงเผาขน

         อาคันตุกะไม่ท้อนาที 51 ไล่มาเป็น 2-3 การเซตบอลชิ่ง 3 เหลี่ยมริมเส้นฝั่งซ้ายแม้จะโดน คูร์ท ซูม่า ดักได้ แต่แนวรับเฟร้นช์แมนทำลูกลั่นให้ ดารีล ยันมาต ฉกไปลากทะลุถึงในเขตโทษล็อกหนี เนธาน อาเก้ แล้วแปด้วยขวาเสียบเสาไกล

         ความผิดพลาดเกมรับของวัตฟอร์ดเกือบสังเวยลูกที่สี่นาที 72  โฮเซ่ โฮเลบาส ดันย่ามใจล็อกบอลหน้าเขตโทษตัวเองถูก วิลเลี่ยน แย่งจากเท้าแล้วไหลขึ้นหน้าให้ อัซปิลิกวยต้า เติมมากดเรียด 19 หลาเดือดร้อน เอเรลโญ่ โกเมส ล้มปัดทิ้ง

         กลายเป็น ''เดอะ ฮอร์เน็ตส์'' ตามตีเสมอ 3-3 ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ หยอดบอลจากหน้าเขตโทษกดดันถึงปากประตูตกใส่อก คูร์ท ซูม่า เหมือนตั้งให้ สเตฟาโน่ โอกาก้า ตัวสำรองยิงสวนแค่ 10 หลาตุงตาข่าย ชนิดที่ อัสเมียร์ เบโกวิช ป้องกันแค่สายตา

         กระทั่งก่อนหมดเวลา 2 นาที เชลซีมายิงประตูชัย 4-3 ก็องเต้ตัดบอลแดนกลางไหลขึ้นหน้าให้ วิลเลี่ยน ล็อกยึกยักในกรอบฝั่งขวา รอจังหวะไว้ไหลหักมากลางประตู เชส ฟาเบรกาส แข้งสำรองแปตามน้ำโค้งเสียบสามเหลี่ยมเสาไกล

         ช่วงทดเวลาเจ็บทีมเยือนมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน หลัง เซบาสเตียน โพรเดิ้ล รับใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกมเชลซีคว้าสามแต้มระทึก 4-3  เป็นชัยชนะนัดที่ 5 ติดต่อกันในลีก

        รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

         เชลซี : อัสเมียร์ เบโกวิช - คูร์ท ซูม่า, จอห์น เทอร์รี่, นาธาน อาเก้ - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เนธาเนียล ชาโลบาห์, เคเนดี้ - วิลเลี่ยน, เอแด็น อาซาร์ - มิชี่ บาตชูอายี่

         สำรอง : เอดูอาร์โด้ คาร์วัลโญ่ (ผู้รักษาประตู), มาร์กอส อลอนโซ่, เชส ฟาเบรกาส, เปโดร โรดริเกซ, ดีเอโก้ ดา คอสต้า, แกรี่ เคฮิลล์, โอล่า เอน่า

         วัตฟอร์ด : เอเรลโญ่ โกเมส - อาเดรียน มาริอัปป้า, เซบาสเตียน โพรเดิ้ล, โฮเซ่ โฮเลบาส - นอร์ดิน อัมราบัต, ทอม เคลเวอร์ลี่ย์, วาลอน เบห์รามี่, อับดูลาย ดูกูเร่, ดารีล ยันมาต - เอเตียน กาปู - เอ็มบาย เนียง

         สำรอง : คอสเทล ปันติลิมอน (ผู้รักษาประตู), ทรอย ดีนี่ย์, ฮวน ซุนญิก้า, แบรนดอน เมสัน, สเตฟาโน่ โอกาก้า, ดิออน เปเรร่า, แอนดรูว์ เอเลฟเธริอู

         ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน

AFP
[ ไม่อนุญาตให้คัดลอกรูปภาพหรือนำไปเผยแพร่รูปภาพต่อไม่ว่าวิธีใดๆ ถ้าฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด ]