"เดอะ รอยัลล์" เร้ดดิ้ง ทีมเจ้าของคนไทย ได้เปรียบเล่นในถิ่นนัดนี้หลังบุกไปเสมอมาก่อน 1-1 เกมนี้จัด ยันน์ แกร์กมอร์กก็องต์ ศูนย์หน้าดาวซัลโวของทีม พร้อมกระซวกประตู "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม ที่ขอสู้ยิบตาหวังเข้ารอบชิงดำตั๋วเลื่อนชั้นพรีเมียร์ลีก ในการแข่งขันฟุตบอลอีเอฟแอล แชมเปี้ยนชิพ เพลย์ออฟ นัดสอง วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม 2560

ปรีวิวอีเอฟแอล แชมเปี้ยนชิพ เพลย์ออฟ นัดสอง
วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม 2560
เร้ดดิ้ง (3) - ฟูแล่ม (6)
(ผลนัดแรกเสมอกัน 1-1)
เวลา : 01.45 น. ถ่ายทอดสด : ช่อง 9

สนาม : มาเด็จสกี้ สเตเดี้ยม

             ยาป สตัม กุนซือเร้ดดิ้งได้ผลการแข่งขันที่ต้องการในนัดแรกเมื่อบุกเสมอ 1-1 แถมช่วงสิบนาทีท้ายยังเสีย พอล แม็คเชน กองหลังคนสำคัญที่โดนใบแดงไล่ออก

             การโดนไล่ออกของ แม็คเชน ที่เป็นกัปตันทีมอาจทำให้สตัมต้องปรับแนวรับมาเล่นหลัง 4 อีกครั้ง โดยคู่เซนเตอร์เป็น เลียม มัวร์ กับ ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ มี คริส กันเทอร์ กับ จอร์แดน โอบิต้า ถอยลงมายืนแบ็กสองข้าง

             โจอี้ ฟาน เดน เบิร์ก กับ การาธ แม็คเคลียรี่ สองมิดฟิลด์หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าและโคนขาหนีบตามลำดับกลับมานั่งสำรองได้เรียบร้อย มีลุ้นทวงตำแหน่งตัวจริงกลับคืน 

             สตีเว่น ควินน์ กับ เดนิสส์ ราเคลส์ หายเจ็บกลับมาแล้วแต่ยังต้องเช็ก ส่วนกลุ่มที่เดี้ยงยาวมี ซานโดร วีเซอร์ (ข้อเท้า) และ คัลลั่ม แฮร์ริออตต์ (เอ็นหลังหัวเข่า) 

             ขณะที่ ฟูแล่ม กุนซือ สลาวิซ่า โยคาโนวิช ผิดหวังเล็กน้อยที่ทีมได้เพียงไล่ตีเสมอเร้ดดิ้งในกระท่อมน้อยของตัวเอง แต่ก็ยังเชื่อว่าลูกทีมมีดีพอที่จะผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้

             ความพร้อมในเกมนี้มีปัญหาแค่ รักนาร์ ซิกูร์ดส์สัน กับ ไมเคิ่ล มาเดิ้ล สองเซนเตอร์ฮาล์ฟที่เจ็บน่องและข้อเท้าตามลำดับ คริส มาร์ติน ที่ยืมมาจากดาร์บี้ฟอร์มดร็อปลงในช่วงหลัง แต่ก็ยังน่าจะยึดตำแหน่งต่อไป โดยมี โซเน่ อลูโก้ กับ ฟลอยด์ อายิเต้ ขนาบข้าง 

             ทอม แคร์นี่ย์ กับ สเตฟาน โยฮันเซ่น สองกองกลางตัวเก่งที่ยิงรวม 24 ประตูคอยขับเคลื่อนเกมแดนกลาง ทำให้ สกอตต์ พาร์เกอร์ มิดฟิลด์ประสบการณ์สูงน่าจะรอโอกาสข้างสนามเช่นเดียวกับ ลูคัส ปิอาซอน เพลย์เมกเกอร์บราซิเลียน และ ไรอัน แซสเซอญง ดาวรุ่งเนื้อหอม

             รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
             เร้ดดิ้ง (4-2-3-1) : อาลี อัล ฮับซี่ - คริส กันเทอร์, เลียม มัวร์, ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์, จอร์แดน โอบิต้า -  แดเนี่ยล วิลเลี่ยมส์, จอร์จ อีแวนส์ - การาธ แม็คเคลียรี่, จอห์น สวิฟท์, รอย บีเรนส์ - ยันน์ แกร์กมอร์กก็องต์
             ฟูแล่ม (4-3-3) : มาร์คัส เบ็ตติเนลลี่ - ไรอัน เฟรเดริคส์, โทมาส คามาส, ทิม รีม, สกอตต์ มาโลน - ทอม แคร์นี่ย์, เควิน แม็คโดนัลด์, สเตฟาน โยฮันเซ่น - โซเน่ อลูโก้, คริส มาร์ติน, ฟลอยด์ อายิเต้

เกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจ
- เร้ดดิ้ง ชนะ ฟูแล่ม หนเดียวใน 6 เกมหลังสุด  (เสมอ 2 แพ้ 3)
- ทีมอันดับ 6 ชนะเลิศเพลย์ออฟหนเดียวจาก 11 ปีหลังสุด (แบล็คพูล ซีซั่น 2009/10)
- ทีมอันดับ 3 ชนะเลิศเพลย์ออฟมากสุด (10 จาก 28 ครั้งคิดเป็น 36%)
- นี่คือการเล่นเพลย์ออฟหนแรกตั้งแต่ซีซั่น 1997/98 ของ ฟูแล่ม ซึ่งครั้งนั้นแพ้ กริมสบี้ ในรอบตัดเชือกในดิวิชั่น 2 (ลีก วัน ปัจจุบัน)
- ขณะที่ เร้ดดิ้ง ลงเล่นเพลย์ออฟเป็นครั้งที่ 6 ในประวัติศาสตร์ หนที่ 5 นับเฉพาะเดอะ แชมเปี้ยนชิพ
- ทว่า เดอะ รอยัลส์ ไม่เคยชนะเลิศเพลย์ออฟแม้แต่ครั้งเดียว ล่าสุดแพ้ สวอนซี 2-4 ในนัดชิงซีซั่น 2010/11
- เดอะ รอยัลส์ แพ้นัดชิงเพลย์ออฟ แชมเปี้ยนชิพ 2 ครั้งมากสุดอันดับสองเป็นรองเพียง เชฟฯ ยูไนเต็ด (3)
- เร้ดดิ้ง ไม่แพ้เกมเหย้า 10 นัดติดต่อกัน (ชนะ 8 เสมอ 2) มีคลีนชีต 5 เกม และชนะรวดใน 4 เกมหลังสุด
- ฟูแล่ม ชนะ 6 จาก 8 เกมเยือนหลังสุด (เสมอ 1 แพ้ 1) และซิวชัยตลอด 3 นัดหลังสุด
- 7 นัดคู่นี้เจอกันหลังสุดฝั่งเล่นในบ้านไม่เคยปราชัยเลย (เร้ดดิ้ง ชนะ 2 ฟูแล่ม ชนะ 3 เสมอ 2)