จากข่าวที่ลิเวอร์พูล ทุ่มเงิน 68 ล้านปอนด์ ขอซื้อ "คีลิยัน เอ็มบัปเป้" กองหน้าของโมนาโก มาเสริมทัพ ทำให้แฟนบอลอังกฤษหลายคน สงสัยว่า "เจ้าหนูเอ็มบัปเป้" คือใครกันแน่ และคู่ควรกับค่าตัวระดับสถิติสโมสรเลยหรือไม่

1. อายุแค่ 18 แต่โดนทีมใหญ่รุมจีบเพียบ

 เอ็มบัปเป้ เพิ่งอายุแค่ 18 ปีเท่านั้น แต่เวลานี้ มีทีมสนใจ ทั่วยุโรป ทั้งพรีเมียร์ลีก อย่างอาร์เซน่อล , แมนฯยูไนเต็ด , ลิเวอร์พูล หรือ เชลซี เช่นเดียวกับเรอัล มาดริด ,บาร์เซโลน่า หรือ แม้แต่ยูเวนตุส ก็เคยตกเป็นข่าว

นี่เป็นปีแรกที่เขาลงเล่นอย่างเต็มตัว ในลีกเอิง ซึ่งก็ซัดไปเบาๆ 15 ลูก และแอสซิสต์ไป 8 ครั้ง นอกจากนั้นยังมีส่วนร่วมกับเกมอยู่เสมอ ขณะที่ในเวทียุโรป ซัดไป 6 ประตู  ในบอลถ้วยอีก 3 ประตู รวมปีนี้เพียวๆ ซัดไป 29 ลูกทุกรายการ

ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์อยู่แล้ว ว่าเขาเล่นกับทีมใหญ่ๆได้ ในแชมเปี้ยนส์ลีก ยิงแมนฯซิตี้ ,ยิงดอร์ทมุนด์ และยิงยูเวนตุสมาแล้ว เล่นได้อย่างไม่มีความเกรงกลัวใครทั้งสิ้น

2. นิวอองรี หรือ นิวโรนัลโด้

สื่อต่างประเทศ เคยยกย่องว่า ลีลาของเอ็มบัปเป้ เหมือนเธียร์รี่ อองรี ไม่มีผิด จังหวะการลากเลื้อย จังหวะง้างเท้าจบสกอร์ รวมถึงสายตาในการแอสซิสต์

ขณะที่ บางส่วนก็บอกว่า นี่คือ ร่างทรงของโรนัลโด้ แห่งบราซิลชัดๆ จากการเลี้ยงอย่างดุดัน มีพลังเต็มเปี่ยม ความเร็วอันจัดจ้าน และความคมในจังหวะปิดสกอร์

 ไม่ว่าจะเป็นอองรี หรือ โรนัลโด้ ต่างก็เป็นสุดยอดทั้งคู่ ซึ่งเอ็มบัปเป้ ที่ได้รับการยกย่องถึงสองคนนี้ แน่นอนว่า ทักษะไม่ธรรมดา

 เอ็มบัปเป้ ปัจจุบันมีส่วนสูง 178 ซม. ด้วยอายุ 18 ปี เขาอาจสูงเพิ่มได้อีกเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่สูงใหญ่ เหมือนหัวหอกร่างยักษ์คนอื่นๆ แต่เขามีสิ่งอื่นมาทดแทน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความสูงเลย

3. ติดทีมชาติชุดใหญ่เร็วสุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์

ฝรั่งเศส เรียกตัวเอ็มบัปเป้ ติดทีมชาติ ในเกมปะทะลักเซมเบิร์ก ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก วันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยส่งลงมาแทน ดิมิทรี่ ปาเย็ต ในนาทีที่ 78 ซึ่งทำให้เขา ลงเล่นให้ทีมตราไก่ ด้วยวัย 18 ปี 3 เดือน กับอีก 5 วันเท่านั้น เร็วที่สุด เป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ เป็นรองแค่ มาร์ยัน วีซนิสเวสกี้ ดาวเตะของล็องส์ ที่ติดทีมชาติในปี 1955 ด้วยวัย 18 ปี 2 เดือน

และด้วยฟอร์มที่ดีเยี่ยมแบบนี้ ถ้ารักษามาตรฐานได้ต่อไป โอกาสที่จะได้ไปฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ก็คงไม่หนีไปไหน

4. เลือกได้ 3 ชาติ แต่สุดท้ายเลือกตราไก่

คุณพ่อของคีลิยัน เอ็มบัปเป้ ชื่อวิลฟรีด เป็นชาวแคเมอรูน ส่วนคุณแม่ เป็นชาวแอลจีเรีย ชื่อ เฟย์ซ่า ทั้งสองคนเป็นนักกีฬาอาชีพทั้งคู่ แต่เจ้าตัวเกิดและโตที่ฝรั่งเศส ดังนั้น จึงมีทางเลือกสามชาติ แต่สุดท้ายเขาเลือกทีมตราไก่

ในสมัยเยาวชน เอ็มบัปเป้ เล่นให้กับทีมบ้านเกิด อาแอส บอนดี้ ซึ่งเจ้าตัวยิงไปหลายร้อยลูกในช่วง 3 ปี (ในวัย 12-15 ปี) ก่อนที่สุดท้าย โมนาโก จะดึงมาร่วมทีมในปี 2013 ตอนเอ็มบัปเป้อายุ 15 ปี จากนั้นเขาเล่นทีมเยาวชนแค่ 2 ปี ก่อนจะได้ก้าวไปเล่นทีมชุดใหญ่อย่างรวดเร็ว

 
5. เคยปัดข้อเสนอเรอัล มาดริดมาแล้ว

ย้อนกลับไปในปี 2013 ซีเนดีน ซีดาน ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้อำนวยการกีฬาของเรอัล มาดริด ได้เข้าไปพูดคุยกับเอ็มบัปเป้ ซึ่งตอนนี้อยู่กับสโมสรบอนดี้ ให้ย้ายมาร่วมทีมอคาเดมี่ของเรอัล มาดริด

 เอ็มบัปเป้ยอมรับว่าการได้เจอกับซีดาน ทำให้เขาตื่นเต้นมาก เพราะนี่คือสุดยอดนักเตะฝรั่งเศส ซึ่งซีดาน ทั้งอ่อนโยน และจริงใจ แต่สุดท้ายเขาตอบปัดข้อเสนอของราชันชุดขาว

 เอ็มบัปเป้เผยว่า เขาคิดว่าการย้ายไปต่างแดน ในวัย 14-15 มันเร็วเกินไป และเขาต้องการอยู่ในฝรั่งเศสต่อไปก่อน สุดท้ายจึงตัดสินใจเลือกโมนาโก และคิดว่านั่นคือทางเลือกที่ถูกต้อง

6. เป็นเด็กดี - ยังนอนในหอพักสโมสร

แม้จะมีชื่อเสียงโด่งดัง และมีรายได้มากพอ ที่จะซื้อบ้านหรูพร้อมสระว่ายน้ำ แต่ปัจจุบัน เอ็มบัปเป้ ยังนอนอยู่ในหอพักของทีมอคาเดมี่ของโมนาโกอยู่เลย

 เอ็มบัปเป้ ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ และไม่อยากใช้เงินฟุ่มเฟือย เขานอนในหอพักสโมสรเสมอหลังเสร็จการซ้อม ยกเว้นแต่วันที่ครอบครัวของเขา มาที่โมนาโก  ทางเอ็มบัปเป้ จะไปอยู่กับครอบครัวในวันนั้น

แม่ของเอ็มบัปเป้เคยบอกว่า "ลูกเป็นอัจฉริยะฟุตบอล แต่อย่าลืมว่าอายุของลูกแค่ 18 เท่านั้นนะ!"

7. เอ็มบัปเป้ ควรดูบทเรียนจากมาร์กซียาลหรือไม่?

ก่อนหน้านี้ ดาวรุ่งพุ่งแรงของโมนาโก อย่างอ็องโตนี่ มาร์กซียาล ย้ายไปเล่นทีมใหญ่ ในพรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยราคามหาศาล 58 ล้านปอนด์

 แน่นอน เอ็มบัปเป้ ถ้ามีการซื้อขายตอนนี้ ย่อมแพงกว่ามาร์กซียาลแน่ๆ หลายคนมั่นใจว่า เอ็มบัปเป้ ดูจากสไตล์การเล่น น่าจะประสบความสำเร็จมากกว่ามาร์กซียาลได้

 อย่างไรก็ตาม ยูริ จอร์เกฟฟ์ อดีตกองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ออกมาเตือนว่า เอ็มบัปเป้ ควรดูมาร์กซียาลเป็นแบบอย่าง เพราะเวลาย้ายไปทีมใหญ่ จำเป็นต้องปรับตัวอย่างมหาศาล และต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆอีกมากมาย

จึงน่าสนใจว่า เอ็มบัปเป้ ถ้าได้รับโอกาสให้ย้ายทีมได้ เขาควรจะคว้ามันไว้ทันที หรือ จะบ่มเพาะประสบการณ์กับโมนาโกต่อไปอีกหนึ่งปี