"กิเลนผยอง" ปล่อยนักเตะพัก 1 วันก่อนลุยซ้อมต่อ เพื่อเตรียมตัวบุกเยือน คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ เพื่อหวดนัด 2 วันที่ 30 พ.ค. ซึ่งความพร้อมล่าสุดไม่มีนักเตะเจ็บเพิ่ม จากเกมล่าสุดที่พ่ายคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ในนัดแรก 1-3 ตอนนี้รอฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาเต็มที่อีกครั้ง โดยจะขนทัพใหญ่เต็มทีมออกเดินทาง 27 พ.ค. นี้ และพร้อมที่จะเล่นอย่างเต็มที่เช่นเดิม

ความเคลื่อนไหวของทัพ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่มีคิวจะต้องลงสนามทำศึกเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่ 2 ออกไปเยือนคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ วันอังคารที่ 30 พ.ค. 60 ที่สนาม โทโดโรกิ แอธเลติก สเตเดี้ยม ซึ่งเกมแรกนั้นเปิดบ้านพ่ายมาก่อน 1-3 ทำให้นัดที่สองหากหวังจะเข้ารอบจะต้องบุกไปเอาชนะให้ได้ด้วยสกอร์ 3-0 เป็นอย่างน้อย โดยในส่วนของความพร้อมล่าสุดนั้น เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 60 ทางทัพนักเตะ "กิเลนผยอง" ได้ปล่อยให้นักเตะพัก ไม่มีการฝึกซ้อม เนื่องจากต้องผ่านเกมหนักมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา และจะกลับมาลงฝึกซ้อมอีกครั้งวันที่ 25 พ.ค.

ส่วนความพร้อมของตัวผู้เล่นหลังจากเกมล่าสุด ได้รับรายงานว่าไม่มีนักเตะรายใดได้รับบาดเจ็บเพิ่ม ยังคงมีผู้เล่นเดิมที่ยังได้รับบาดเจ็บ ไมว่าจะเป็น สารัช อยู่เย็น, อดิศักดิ์ ไกรษร และ ชีสโก้ ฆีเมเนซ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ตอนนี้เป็นเรื่องของการพยายามเร่งฟื้นฟูสภาพร่างกายนักเตะให้กลับมีความฟิตและพร้อมสมบูรณ์ที่สุดมากกว่าในเกมนัดถัดไป

เรื่องตัวผู้เล่นที่จะเดินทางไปเยือนคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ วันที่ 30 พ.ค.นั้น ทางสโมสรยังคงพร้อมจะยกทัพชุดใหญ่เดินทางไปเต็มทีมเช่นเดิม โดยเตรียมเดินทางไปวันที่ 27 พ.ค. ซึ่งจะทำให้มีเวลาในการฝึกซ้อมก่อนเกม 3 วัน ซึ่งจะทำให้นักเตะสามารถที่จะปรับตัวในเรื่องของสภาพอากาศได้อย่างไม่มีปัญหา อีกทั้งจะทำให้เรื่องของสภาพความฟิตความสดของนักเตะมีเพิ่มขึ้นที่จะต่อกรกับทีมเยือน

ด้านการจัดทัพเรื่องตัวผู้เล่นนั้น ยังมีรายงานอีกว่าทาง "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน กุนซือใหญ่ของทีม ยังพร้อมที่จะจัดทัพด้วยตัวผู้เล่นที่มีความพร้อมสมบูรณ์ที่สุดลงสนาม และเล่นอย่างเต็มที่แน่อน แม้ว่าโอกาสและความหวังที่จะพลิกเกมกลับมาเข้ารอบ จะดูมีน้อยก็ตาม แต่ก็กำชับลูกทีมให้เล่นอย่างเต็มที่แน่นอน

ขณะที่ความหวังสำหรับการเข้ารอบต่อไปนั้น ทาง "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผอ.สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เผยว่า ต้องยอมรับว่าการเดินทางไปเล่นเป็นทีมเยือน ถือว่าเป็นรองเจ้าบ้านคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ในเรื่องของสภาพความคุ้นเคยทั้งในและนอกสนามอยู่แล้ว อีกทั้งเรื่องของสกอร์ที่ตามอยู่ก็ยังเป็นรองอีกด้วย ทำให้เป็นงานที่หนักมากสำหรับเรา แต่เราก็พร้อมที่จะเล่นอย่างเต็มที่แน่นอน เพื่อศักดิ์ศรี และเพื่อแฟนบอลของเรา ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ตาม แต่ลึกๆ แล้วเราก็หวังว่าเกมนี้เราจะทำได้ดี และสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลชาวไทยอีกครั้ง

ขณะเดียวกันทาง เคงโงะ นากามูระ กองกลางของ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ อดีตมิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ยิงประตูตีเสมอ 1-1 ให้กับคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ก็ได้มีการเผยถึงการเจอกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งต้นสังกัดเอาชนะ 3-1 เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า จากเกมนี้ทำให้ตนเองรู้ว่า สโมสรจากเมืองไทย มีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างมากกว่าเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ในช่วงที่ตนเองนั้นเคยดวลแข้งกับสโมสรมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ในถ้วยเอเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2007 รอบแบ่งกลุ่ม

"ส่วนตัวผมไม่ได้เจอสโมสรจากไทยมานานเกือบ 10 ปีแล้วตั้งแต่เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2007 ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยในเกมเจอกับเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ผมรู้สึกว่า ทีมจากเมืองไทย หรือแม้แต่นักเตะไทย พวกเขามีพัฒนาการที่ก้าวกระโดดมาก ซึ่งเกมนี้เห็นได้ชัดว่า เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สร้างความลำบากให้กับทีมเราไม่น้อยเลย แต่ยังดีที่เรายังสามารถเอาชนะได้ ผมมองว่าส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะผู้เล่นของพวกเขามีอาการล้าด้วย พวกเขาเล่นได้ดีกว่าในช่วงครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังดูเหมือนจะเริ่มมีอาการล้าให้เห็น ซึ่งนัดต่อไปเราเล่นในบ้านที่ญี่ปุ่น เพื่อไม่ประมาท เราต้องการเป็นผู้ชนะเท่านั้น แม้ว่าเราจะชนะมาแล้วในนัดแรกก็ตาม"