''ช้างศึก'' เข็น ''มุ้ย'' ตัด ''สิงห์มุ้ย'' ใน 23 คน
 

รายชื่อ 23 ขุนพลของทีมช้างศึก ที่จะเป็นตัวเลือกของมิโลวาน ราเยวัช มีดังนี้ 
  
ผู้รักษาประตู : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (สุพรรณบุรี เอฟซี), กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (เอสซีจี เมืองทอง), ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
     
กองหลัง : ทริสตอง สมชาย โด, อดิศร พรหมรักษ์, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา (เอสซีจี เมืองทอง), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, พรรษา เหมวิบูลย์ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี), เควิน ดีรมรัมย์ (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี), มิก้า ชูนวลศรี (แบงค็อก ยูไนเต็ด), นัสตพล มาลาพันธ์ (ชลบุรี เอฟซี)
 
กองกลาง : วัฒนา พลายนุ่ม, มงคล ทศไกร (เอสซีจี เมืองทอง), ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด), สรรวัชญ์ เดชมิตร (แบงค็อก ยูไนเต็ด), นูรูล ศรียานเก็ม (ชลบุรี เอฟซี), บดินทร์ ผาลา (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), ชุติพนธ์ ทองแท้ (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี), พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (พัทยา ยูไนเต็ด)
 

กองหน้า : สิโรจน์ ฉัตรทอง ,อดิศักดิ์ ไกรษร, ธีรศิลป์ แดงดา (เอสซีจี เมืองทอง)

ไทยใส่เกราะดำ, มีคูลลิ่งเบรก

''บิ๊กโจ'' พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ กล่าวว่า 'ทีมชาติไทยกับทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลักๆ ก็จะเป็นสีเสื้อ เราใส่ชุดสีดำ ผู้รักษาประตูชุดสีทอง ส่วนยูเออีชุดสีขาวแถบแดง ผู้รักษาประตูชุดสีเทา''

''ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็ยังเป็นมาตรฐานเดิม ไม่ได้สูงแต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ ที่มีการตกลงในที่ประชุมเพิ่มเติมคือทางยูเออีกลัวอากาศจะร้อน เพราะบ้านเราค่อนข้างอบอ้าว มีการพักดื่มน้ำที่ 2 ครึ่ง นี่คือรายละเอียดปลีกย่อยที่เพิ่มมานะครับ''
 

ขณะเดียวกัน การประชุมทีมครั้งนี้จะมีการพักดื่มน้ำ (Cooling Break) ในนาที 30 และ 75 ให้กับทั้งสองทีม ในเกมการฟาดแข้งวันที่ 13 มิ.ย. นี้อีกด้วย

''ราเยวัช'' หวังพาทีมเซอร์ไพรส์
 

มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้เปิดใจในงานแถลงข่าวความพร้อม ''ขอสวัสดีทุกคนก่อนเกมการแข่งขันกับยูเออีในวันที่ 13 มิ.ย. นี้ เราได้มีการเตรียมความพร้อมมาอย่างดี เราจะทำหน้าที่ออกมาให้ดีเพื่อผลลัพธ์ทุกอย่างจะยอดเยี่ยมที่สุด''
 

''ผลการแข่งขันถ้าเราชนะขึ้นมาจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ของเรา อีกทั้งเราได้เตรียมการมาเป็นอย่างดี เนื่องจากผู้เล่นของเรากระหายที่อยากจะลงเล่นเกมพบกับยูเออี ซึ่งเราหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนบอลชาวไทยทุกคน''
 

ผู้สื่อข่าวจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สอบถามนายใหญ่ทีมชาติไทยชาวเซอร์เบียว่าคิดอย่างไรกับทีมยูเออีชุดนี้ ''ยูเออีมีผู้เล่นที่มีคุณภาพอย่างมาก เรารู้จักตัวผู้เล่นเป็นอย่างดี มาจากรุ่นราวคราวเดียวกันจาก ยู-21 ซึ่งเขาได้มาแล้ว 9 คะแนน และน่าจะมีโอกาสที่ดีกว่าในการเก็บชัยชนะ ทว่าเรามีการเตรียมความพร้อมมาอย่างดีและหวังที่จะสร้างเซอร์ไพรส์ให้ได้''

มั่นใจประสบการณ์ช่วย ''ช้างศึก'' ได้

 ผู้สื่อข่าวต่างชาติสอบถามว่า ในเวลานี้ทีมชาติไทยขาดตัวหลักหลายคนที่เจ็บและถอนตัว จะเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้เล่นหน้าใหม่ได้โชว์ผลงานในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ที่จะพบกับยูเออีในวันที่ 13 มิ.ย. นี้หรือไม่
 

มิโลวาน ราเยวัช บอกว่า ''เราขาดผู้เล่นหลายคนตั้งแต่ก่อนไปอุซเบกิสถาน เพราะเราไม่ได้นำแข้งจากเอสซีจี เมืองทอง ไปด้วย และเมื่อกลับมามีผู้เล่นหลายคนที่ถอนตัวไปจากอาการบาดเจ็บ ทว่าเราจะทำให้ดีที่สุดกับนักเตะใหม่ๆ เพราะพวกเขาต้องการทำผลงานให้ออกมาอย่างสุดความสามารถในเกมพบกับยูเออี''

นอกจากนี้ ยังมีคำถามจากสื่อยูเออีว่าโค้ชมีประสบการณ์ในแอฟริกา แต่มาทำทีมเอเชียครั้งแรก อีกทั้งทีมชาติไทยมีลูกครึ่งเยอะมาก จะมีการปรับอย่างไร อีกทั้งเล่นกับยูเออีที่ต้องชนะอย่างเดียว
 

''ประสบการณ์ของผมไม่ได้มีเฉพาะแอฟริกา แต่ยังเคยทำทีมในจีนและทีมชาติกาตาร์มาก่อน ฉะนั้นจึงเคยทำทีมในเอเชียมาเหมือนกัน และผมรู้ว่าเวลานี้จะต้องทำอย่างไร เพราะเราต้องการเตรียมความพร้อมของทีมในเกมหน้าเช่นกัน และทุกคนมีความกระตือรือร้น ถึงอาจจะตกรอบไปแล้ว ทว่าเราหวังที่จะเอาชนะให้ได้เหมือนกัน''

ยูเออีมาเพื่อชนะ, ไม่หวั่นอยู่ช่วงรอมฎอน
 

ขณะที่ เอ็ดการ์โด้ เบาซ่า กุนซือยูเออี ได้แถลงข่าวความพร้อมว่า ''ผมเข้ามาเพื่อทำเกมที่เหลือให้ดีที่สุด แม้ว่าเส้นทางไปบอลโลกจะริบหรี่ ทว่าเรากลับมีความกระหายที่อยากจะเล่นในเกมนี้ เราเล่นเกมอุ่นเครื่องกับลาว (ชนะ 4-0) มาแล้ว ทำให้มีความคุ้นเคยกับโค้ชและนักเตะ แต่เรายังไม่ตัดสินใจว่าใครจะเป็นตัวจริง คาดว่าหลังจากการซ้อมวันที่ 12 มิ.ย. นี้ เราน่าจะได้คำตอบว่าใครจะเป็นตัวจริง''

ส่วนก่อนเกมของวันที่ 13 มิ.ย. นี้ ที่ผู้เล่นของยูเออีจะต้องเข้าพิธีรอมฎอนก่อนลงเล่นฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี นั้น นายใหญ่ชาวอาร์เจนตินาได้เผยว่า ''ผมเข้าใจและเคารพประเพณีจุดนี้ ซึ่งทีมวางแผนไว้แล้วว่านักเตะจะต้องรับประทานอาหารกี่โมง เพื่อที่จะมีพละกำลังในการเจอกับทีมชาติไทย เวลา 19.00 น.''
 

ในเรื่องของความมั่นใจของแข้งยูเออีที่จะลงสนามราชมังคลากีฬาสถานในวันที่ 13 มิ.ย. นี้ เอ็ดการ์โด้ เบาซ่า บอกว่า ''นักเตะเราจะกดดันและตื่นเต้นอยู่แล้ว แต่ผมจะใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมา รวมทั้งสตาฟฟ์จะช่วยสร้างความมั่นใจ ตลอดจนเอาชนะทีมชาติไทยให้ได้ เพราะเชื่อในเวลาของการเก็บตัวฝึกซ้อมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา''

คาด ''กอล์ฟ'' เป้า, ''นิว'' กลางรุก-สถิติไม่ดี

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของทีมชาติไทย ภายใต้การกุมบังเหียนของ มิโลวาน ราเยวัช น่าจะยังยึดระบบ 4-2-3-1 โดย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ จะรับหน้าที่เฝ้าเสาพร้อมสวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม แบ็กซ้ายเป็นหน้าที่ของไอ้หนูวัย 19 ปีอย่าง เควิน ดีรมรัมย์ ฝั่งขวาใช้ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม เซนเตอร์ฮาล์ฟมี พรรษา เหมวิบูลย์ กับ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว

ขยับไปแดนกลางวาง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ตัดเกมร่วมกับ วัฒนา พลายนุ่ม ให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ปั้นเกมรุก ปีกซ้ายเป็น บดินทร์ ผาลา ขวาจัด นูรูล ศรียานเก็ม และหน้าเป้า อดิศักดิ์ ไกรษร จะเป็นผู้รับผิดชอบ หลังจากเพิ่งยิงให้ทีมชาติไทยชนะการท่าเรือ เอฟซี 2-1 ในเกมอุ่นเครื่อง เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ด้าน เอ็ดการ์โด้ เบาซ่า เทรนเนอร์คนใหม่ชาวอาร์เจนไตน์ของยูเออี คงจะให้โอกาส 2 แข้งตัวหลักอย่าง โอมาร์ อับดุลราห์มาน เพลย์เมกเกอร์ที่ถูกยกย่องว่าดีที่สุดในเอเชียจากอัล ไอน์ และ อาเหม็ด คาลิล กองหน้าความเร็วสูงติดทีมมาด้วย ซึ่งรายหลังยิงประตูตอกฝาโลงให้ยูเออีเอาชนะ 3-1 ในเกมแรกที่เจอกับไทยในบ้านตัวเอง เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2016 อีกด้วย ขณะที่สถิติของทีมชาติไทยพบกับยูเออีนั้น ปรากฏว่าเจอกันมาทั้งหมด 11 ครั้ง ไทยชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 7 ยิงได้ 11 เสีย 17 ประตู

อีกคู่ของ กลุ่ม บี ที่จะลงเล่นพร้อมกันในวันที่ 13 มิ.ย. นี้ ของศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย อิรักจะลงเล่นที่สนามกลางของประเทศอิหร่าน พบกับญี่ปุ่น ตามเวลาไทย 19.25 น. หากว่าเกมนี้ขุนพล ''ซามูไรบลู'' บุกไปคว้า 3 คะแนนได้ โอกาสเข้ารอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซียมีสูงทันที