ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » พรสวรรค์ พรแสวงแฝงดราม่า 18 เรื่องจัดมาเต็ม ของ ''ซุปตาร์ ชนาธิป''

พรสวรรค์ พรแสวงแฝงดราม่า 18 เรื่องจัดมาเต็ม ของ ''ซุปตาร์ ชนาธิป''

Posted 18/06/2017 by siamsport



'เมสซี่เจ'' ชนาธิป สรงกระสินธ์ กลายเป็นนักเตะไทยคนแรกที่สามารถเดินหน้าไปค้าแข้งบนลีกสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น เขาได้รับความสนใจมากมายจากแฟนบอลทั่วเอเชีย แต่ใครจะรู้ไหมว่า เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้เขาต้องสู้ทนกับอะไรบ้าง?

คุณพ่อคือคนที่ต่อสะพานฝันให้ "ชนาธิป" กระโดดก้าวไกลท่ามกลางคำเย้ยหยัน ยิ้มเยาะ สุดท้ายความตั้งใจและความอดทนของทั้งสองคือใบเบิกทางสู่สุดยอดนักเตะ  นี่คือ 18 เรื่องราวจากปาก  คุณพ่อก้องภพ สรงกระสินธ์ ผู้สร้าง "เมสซี่" ฉบับไทยบนสนามหญ้า

แค้นฝังใจโดน "แตะบอลลอดขา"

จุดเริ่มต้นความฝันของคุณพ่อ ก้องภพ สรงกระสินธ์ บิดา "เมสซี่เจ"  อดีตชอบเตะฟุตบอลเข้าไส้ เดินสายแข่งขันคัพเล็กคัพน้อย แถว สามพราน จ.นครปฐม ถนัดการเล่นตำแหน่งปีก เพราะมองว่าความสามารถตัวเองไม่เจิดจรัสเหมือนคนอื่นๆ จึงเลือกเล่นด้านข้าง แต่เหตุการณ์ที่โดนคู่แข่งแตะบอลลอดขาคาตาคาใจ เลยตั้งใจว่าถ้ามีลูกอีกคนจะสอนลูกให้เป็นนักฟุตบอลที่มีเทคนิคการเล่นระดับสูงด้วยการฝึกฝนที่หนักจนเคยชิน

  ขอพร "วัดไร่ขิง" อยากมีลูกเป็นนักบอล

แม้ว่าจะให้กำเนิดทั้งลูกสาวและลูกชายสองคนมาแล้วก่อนหน้านี้  แต่พ่อค้าขนมหวานร้านชื่อดัง "พรสวรรค์" แห่งเมืองสามพราน จ.นครปฐม ก็ยังวางเป้าที่จะมีบุตรเพิ่มอีกคน โดยช่วงที่เป็นทหารเกณฑ์ มีโอกาสได้ดูฟุตบอลโลกปี 1986 ที่เม็กซิโก เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ทีมชาติอาร์เจนติน่า คว้าแชมป์โลก หนึ่งในนักเตะที่ติดตาคือ "เสือเตี้ย"ดิเอโก้ มาราโดน่า มโนภาพแห่งความฝันจึงเกิดขึ้นอยากให้ลูกเก่งสักครึ่งหนึ่งของ มาราโดน่า จึงไปขอพรหลวงพ่อวัดไร่ขิง ขอให้ลูกเป็นนักฟุตบอลทั้งที่ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าว่าจะได้ลูกเพศหญิงหรือชาย   7 ปีต่อมาทุกอย่างลงล็อค คุณพ่อได้ลูกชายแถมบังเอิญเกิด ต.ค. เดือนเดียวกับ มาราโดน่า ขวัญใจลูกหนังที่ชื่นชอบ

กำเนิด "ชนาธิป"แต่คุณแม่โคม่าสุดๆ

รพ.หัวเฉียว กทม. เป็นสถานที่ตัดสายสะดือเปิดสูจิบัตรชื่อ  ชนาธิป สรงกระสินธ์ แต่เมื่อวันที่  5 ต.ค.2536 วันกำเนิดยอดแข้งจอมเทคนิคกลับเป็นวันที่คุณพ่อบอกว่าลูกคนนี้ดวงแรงตั้งแต่แรกคลอด เหตุการณ์วันนั้นยังอยู่ในความทรงจำ คุณพ่อนอนห่อตัวบนเก้าอี้ยาวหน้าห้องคลอด เพื่อรอดูลูกคนเล็กลืมตาดูโลก หลังคลอดคุณแม่พรสวรรค์ กลับเสียเลือดเยอะจากอาการตกเลือด จนทำให้แพทย์ที่ รพ.ต้องหาคนเซ็นเพื่อจะทำการตัดมดลูกช่วยเหลือคุณแม่ คุณพ่อนั่งนอนรอหน้าห้องแต่แพทย์กลับมองไม่เห็นท้ายที่สุดทีมแพทย์ตัดสินใจเซ็นเองเพื่อดำเนินการให้เร็วที่สุด

ตั้งชื่อลูกเองด้วยการเปิดตำรา

ทุกอย่างเป็นไปตามเป้าประสงค์ได้ลูกชาย ภรรยา ปลอดภัย สิ่งที่ขอหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม คิดว่าเป็นพรจากฟ้าที่ได้มาแบบเต็มๆ ปกติหลายคนมักได้ชื่อลูกจากบรรดาพระอาจารย์หรือว่าหมอดูที่ตั้งให้ตามหลักการโหราศาสตร์ แต่ช่วงก่อนคลอดคุณพ่อก้องภพ  หรือชื่อเดิม "ประเสริฐ"  หมกมุ่นครุ่นใจกับการหาตำราตั้งชื่อลูกชายในฝัน จนสุดท้ายมาลงเอยที่ชื่อ "ชนาธิป" ความหมายจากตำราที่หามาคือ "ผู้เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย" นอกจากเรื่องของชื่อแล้วเรื่องของลายเซ็นต์คุณพ่อยังเน้นย้ำเสมอให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเซ็น "ช" ตัวใหญ่ๆเพราะมันจะสมพงษ์กับชื่อที่ตั้งมาให้

ถนัดขวา สอนจน ซ้ายเด่น

อายุเพียง 4 ขวบ คุณพ่อจัดการสอนวิชาลูกหนังหน้าบ้านบริเวณแคบๆ "เมสซี่เจ" ถนัดขวาคู่ตัวตั้งแต่เกิดประสบการณ์โดนแทงบอลลอดขายังอยู่ในความทรงจำ บังคับลูกเล่นบอลด้วยเท้าซ้ายเพื่อให้เกิดความถนัดทั้งสองข้าง ซ้อมเข้มกันแบบเช้าเย็น บางทีลูกชายเบื่อก็ปลอบประโลมว่าเราต้องทำเพื่ออนาคต แต่ก็มีบางครั้งที่พฤติกรรมสุดแสบแอบทำให้พ่อคิด  ชนาธิป เตะบอลที่ซื้อมาอัดต้นโป๊ยเซียนเต็มไปด้วยหนาม รั่วไปหลายใบเพื่อหวังจะไม่ต้องเจอการฝึกซ้อมที่หนักโหดของพ่อ บางอารมณ์การฝึกฟุตบอลของเขายังมีการแปบอลอัดฝาผนังเพื่อนบ้านที่เป็นพ่อค้าไก่จนวันหนึ่งลูกฟุตบอลเจ้ากรรมกระดอนไปโดนบานเกร็ดแตก ต้องรีบเข้าไปขอโทษกันยกครอบครัว แต่โชคดีที่พ่อค้าไก่เข้าใจในความฝันและพื้นที่มันแคบๆจึงแบ่งปันความสุข ปัจจุบันบานเกร็ดดังกล่าวยังอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้เปลี่ยนทั้งๆที่ครอบครัว "สรงกระสินธ์" จะเปลี่ยนให้

เอาบ้าง! เกาหลีฯไปบอลโลกได้เพราะตบ

นอกเหนือจากการฝึกสอนด้วยตัวเองแล้วการนั่งจดตำราสอนฟุตบอลขึ้นมาจากการจำลองเหตุการณ์ดูการถ่ายทอดสดฟุตบอลแต่ละคู่จะถูกบันทึกลงในสมุดเล่มละไม่ถึง 15 บาท เพื่อออกแบบการฝึกซ้อมให้กับลูกโดยเฉพาะลีลาการเล่นของ มาราโดน่า จะถูกบันทึกอย่างละเอียด อีกทั้งยังพยายามขวนขวายหาหนังสือเกี่ยวกับฟุตบอลมาอ่านแบบจริงจังเพื่อว่าจะมาพัฒนาลูก เรื่องที่ปูพื้นฐานมาพร้อมๆกับทักษะความสามารถคือการนำกรรมวิธีควบคุมระเบียบวินัยของเกาหลีใต้มาใช้นั่นคือการ ตบลงโทษ ในบางโอกาส เพราะคิดว่าเขาไปบอลโลกได้เพราะตบพ่อก็ต้องเอามาใช้กับลูกได้เช่นกันแต่ก็ไม่บ่อย


เบอร์ 10 พ่อชอบ แต่โฉลกเปรี้ยง! 18

เมื่อต้องออกสู่ยุทธจักรลูกหนังความใฝ่ฝันที่อยากเห็นลูกตัวเองวิ่งไล่เตะฟุตบอลโชว์ความสามารถถ่ายทอดผ่านจินตนาการ คุณพ่อ ก้องภพ อยากให้สวมเสื้อหมายเลข 10 ตามรอยทางไอดอลในดวงใจอย่าง "มาราโดน่า" สมัยเด็กๆ ชนาธิป ได้รับโอกาสนั้นเสมอ ก่อนที่จะมาสวมหมายเลข 13 บ้างบางครั้งในสังกัดโรงเรียนพณิชยการราชดำเนิน ธนบุรี 5 ปี เต็ม แต่ช่วงเปลี่ยนชีวิตที่รุ่งโรจน์คือการก้าวมาสวมเสื้อหมายเลข 18 ในสังกัด "มังกรไฟ"บีอีซี เทโรฯ  พาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ 54  ทีมเยาวชน 19 ปี ของ "น้าฉ่วย"สมชาย ชวยบุญชุม ชุดชิงแชมป์เอเชียรอบคัดเลือกที่สนามเทพหัสดิน ที่ไทยสามารถคว่ำเกาหลีใต้ ไม่แพ้ ญี่ปุ่น คือจุดกำเนิดนักเตะหมายเลข 18 ทีมชาติไทยแบบเต็มตัวภายใต้สายตาที่เฝ้ามองของ "วินนี่"วินฟรีด เชเฟอร์ จนส่งสารดึงมาร่วมทีมชาติชุดใหญ่ในรายการคิงส์คัพและเอเอฟเอฟซูกิ คัพ 2012 อีกหนึ่งเหตุผลที่สวมใส่เบอร์นี้เพราะมีความเชื่อว่าเมื่อรวมกันแล้วได้ 9 เป็นเลขมงคลที่นอกเหนือจากความชอบในตัวของ ลีโอเนล เมสซี่

"ก้องภพไลเซนส์"ไม่เคยโดนหลอก

ความฝันอาจจะไปได้ไม่ไกลถ้าระหว่างทางต้องเจอมารมาผจญ ชีวิตนักฟุตบอลทุกคนระหว่างทางต้องพบปะกับเรื่องราวทั้งร้ายและดี โดยเฉพาะบรรดาผู้ปกครองที่ใจไม่แข็งพอกับความอดทนในการรอความสำเร็จของลูกอาจจะต้องเสียหลักกับกลไกการหลอกลวงด้วยปัจจัยจิปาถะ คุณพ่อก้องภพ เลือกสอนฟุตบอลขั้นพื้นฐานด้วยตัวเองพร้อมกับคำแนะนำดีๆที่มักจะปรึกษากับ "น้าเมา"สุรวุฒิ เลาหกาญจนศิริ  อดีตนักเตะทีมชาติไทยที่เพิ่งเสียชีวิตไปด้วยโรคมะเร็ง ส่วนอีกคนที่มีอิทธิพลในความสำเร็จของ "ชนาธิป" คือ อ.ไพศาล ศรีอุ่นดี ยอดบรมกุนซือฟุตบอลเด็กใน พณิชยการราชดำเนิน ธนบุรี  แต่สิ่งที่ยึดมั่นถือมั่นมาโดยตลอดของแบบฝึกคุณพ่อก้องภพคือฝึกพื้นฐานเยอะๆในวัยเด็กรอให้พร้อมที่สุดแล้วค่อยลงสนาม

สตั๊ดคู่แรก 800 บาท จากท้ายรถ "เสี่ยเหมา"

เมื่อเติบใหญ่พอได้คุ้นชินกับการปล่อยจังหวะฟุตบอลออกจากเท้า ของขวัญที่เป็นใบเบิกทางนักฟุตบอลอาชีพคือรองเท้าสตั๊ด  คุณพ่อก้องภพ ตัดสินใจเดินทางจาก อ.สามพราน จ.นครปฐม มุ่งหน้าสู่เมืองกรุงเป้าหมายปลายทางคือหลังสนามศุภชลาศัย ท่ามกลางความฝันของเด็กตัวเล็กๆ รุ่นๆมากมาย คุณพ่อตัดสินใจเข้าไปร้านรองเท้าของ "เสี่ยเหมา"กมล สุวรรณเจริญ สอบถามราคารุ่นต่างๆ "เมสซี่เจ"เป็นคนตัวเล็กเท้าเล็กหาจนทั่วร้านยังไม่มีคู่ที่พอดีก่อนที่จะเอ่ยปากถามเจ้าของร้าน "เสี่ยเหมา"ไปค้นมาจากหลังรถได้รองเท้ายี่ห้อ Kronos ไซด์พอดีกับเท้าลูก สนนราคา 800 บาท  คุณพ่อกำสตางค์อยู่พักใหญ่ก่อนตัดสินใจหยิบออกมา

"ธำรงไทย" สโมสรที่ได้แค่ฝัน

สโมสรในฝันของเด็กวัยไม่ถึง 10 ขวบ ยุคนั้นที่โด่งดังสุดขีดคือ สโมสรฟุตบอลธำรงไทย ที่มี อ.สุเมธ แก้วทิพยเนตร อดีตทีมชาติไทยดูแล ความใฝ่ฝันอยากเห็นลูกสวมเสื้อธำรงไทยสักครั้ง จึงตัดสินใจขึ้นรถจากสามพรานพากันหอบความฝันมุ่งหน้าสู่คู้บอน รามอินทรา  "เมสซี่เจ" ในวัย 7 ย่าง 8 ขวบ มีโอกาสลงไปฝึกซ้อมฟุตบอลกับเด็กๆจากทั่วสารทิศ และได้ลงทีมเล่นในสนามอันสวยงาม ทีมของชนาธิป มีเด็กผู้หญิง ที่มาฝึกฟุตบอลรวมอยู่ด้วย แต่ด้วยระยะทางที่ไกลโพ้นจึงจอดความฝันไว้แค่นั่นสำหรับธำรงไทย

เศร้าทุกครั้งลูกตัวเล็กถูกปฏิเสธ

ด้วยสรีระร่างกายที่เล็ก ส่วนสูงไม่มาก อาจจะถูกทดแทนด้วยความสามารถ แต่ก่อนที่จะมี "เมสซี่เจ"ชนาธิป สรงกระสินธ์ คุณพ่อก้องภพต้องน้ำตาตกในร้องไห้ในใจแทนลูกหลายครั้ง ชนาธิป มักถูกปฏิเสธจากทีมต่างๆ ตั้งแต่สมัยเรียนระดับประถมศึกษา ,มัธยมศึกษา จนก้าวย่างถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญในฟุตบอลอาชีพ แอนดรูว์ อ๊อด อดีตโค้ชเยาวชนเทโรฯ ได้เห็นฟอร์มของเขาจึงดูดมาร่วมทีมและสร้างชื่อมาตั้งแต่วันนั้นจนได้สัญญาแข้งอาชีพเป็นนักเตะไทยคนแรกบนเวทีเจลีก ให้กับสโมสรคอนซาโดเล่ ซัปโปโร ในปัจจุบัน

แชมป์แรกในชีวิต "บึงสีไฟ" จ.พิจิตร

ย่างก้าวของฟุตบอลเดินสายคือเส้นทางเปลี่ยนชีวิตของ "เมสซี่เจ"ชนาธิป สรงกระสินธ์   แชมป์แรกสำหรับฟุตบอลเดินสายเกิดขึ้นตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 10 ขวบ คุณพ่อก้องภพ และ คุณพ่อ ของ อภิศร ภูมิชาติ  นักเตะของสโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน พากันขับรถไปรับทั้งคู่จาก ร.ร.กีฬา กทม. มุ่งหน้าสู่ จ.พิจิตร เพื่อร่วมการแข่งขันฟุตบอลรายการ "บึงสีไฟคัพ" ตลอดเส้นทางในรถบรรยากาศอบอวนไปด้วยเรื่องของฟุตบอล ความฝัน ความคาดหวัง เสียงหายใจ ที่เมืองชาละวันวันนั้นมันคือแชมป์แรกในชีวิตนักฟุตบอล  หลังจากนั้นพอย่างก้าวเข้าสู่ระดับมัธยมสมัยเรียนที่ ร.ร.สามพรานวิทยา  พ่อก็เดินหน้าพาลูกล่าฝันเล่นฟุตบอลเดินสายให้กับทีม CL HISPEED  ที่เป็นเครือญาติกัน จนสุดท้ายได้ร่วมเล่นเดินสายกับ รัชพล นาวันโน ในวัยไม่ถึง 15 ปี  โดยเฉพาะการได้ลงไปโชว์แข้งในรายการ "บางแพ คัพ" ทำให้ผู้ใหญ่หลายคนในสนามยังต้องสะอึกในฟอร์มการเล่น

เสียใจฝันสลายที่  ร.ร.กีฬากทม.

นอกเหนือจากเรื่องของฟุตบอลแล้ว เรื่องการศึกษาคุณพ่อก้องภพ ก็เป็นคนคัดสรร สถานที่ให้กับ ชนาธิป ถ้าจะเรียนและเล่นฟุตบอลไปด้วยต้องหาโรงเรียนที่เหมาะกับคุณสมบัติของตัวเอง ชนาธิป สอบเข้าเรียนที่ ร.ร.กีฬา กทม.ได้ในระดับประถมศึกษา หนึ่งในทีมงานที่คัดเลือกความสามารถของสถานศึกษา มีชื่อของ ชัยยะ มหาปราบ ผู้ตัดสินชื่อดัง ร่วมคัดเลือกอยู่ด้วย แต่ก็เรียนไปจนถึง ป.5 ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นคุณพ่อเสียใจมากที่ไม่ได้ไปต่อ

แต่ก็กล้ำกลืนความรู้สึกหาอนาคตให้ลูกใหม่ไปเรียนที่ เพ็ญสมิทธิ์ จนจบ ป.6 และโยกกลับไปเรียนที่ นครปฐม จนจบ ม. 3 เพื่อดูแลด้านฟุตบอลและการพัฒนาร่างกายอย่างเต็มที่ ช่วงเรียนที่ ร.ร.สามพรานวิทยาลัย "เมสซี่เจ" เรียนอยู่ห้อง 8 สอบได้อันดับ 1-3 ของห้องตลอด  หลังจบ ม. 3 ชนาธิป เคยถูกผลักดันให้ไปเรียนที่ อสช.ศรีราชา จากการการันตีฝีเท้าของ "โค้ชอั๋น"สมรักษ์ รุ่งสว่าง แต่ก็โชคร้ายจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย ชลบุรี ยุบทำให้ช้างเผือกถูกโยกมาล้นหมดโควตา  ซึ่งก่อนตัดสินใจเข้า พ.ราชดำเนิน ธนบุรี ชนาธิป ไปใช้ชีวิตฟุตบอลกินนอนกับ อสช.ธนบุรี  1 สัปดาห์ แต่ไม่เข้าตา ซึ่ง ม.สาธิต วิโรจนะ ผู้ดูแลช้างเผือก "เจ้าสัวน้อย" ก็ยังอดเสียดายมาจนถึงทุกวันนี้

ทีมชาติ นร.ไทย คิดว่าไกลได้แค่นั้น

 ธงไตรรงค์ผืนแรกที่มีโอกาสได้รับใช้ชาติเป็นการแข่งขันนักเรียนชิงแชมป์เอเชีย รุ่น 18 ปี สมัยเรียน พณิชยการราชดำเนิน ธนบุรี  ที่ จ.อุบลราชธานี  นั่นคือความภาคภูมิใจของครอบครัว "สรงกระสินธ์" และคิดว่านี่น่าจะเป็นโอกาสแรกและโอกาสเดียวในการรับใช้ชาติในฐานะนักเตะ แต่ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่น ทำให้เส้นทางฟุตบอลของเขาเปิดทางสว่างโล่งมากขึ้น ไม่นานเมื่อสโมสรเทโรฯ คว้าตัวไปร่วมทีม เส้นทางทีมชาติไทยก็หลั่งไหลมาดึงความสามารถเขาไปใช้ในทุกชุดตั้งแต่ 19 ปี ชิงแชมป์เอเชีย และ อาเซียน, ซีเกมส์ ,เอเซียนเกมส์,คิงส์ คัพ,ปรี อลป.,เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ และ ทีมชาติไทยชุดใหญ่รายการฟุตบอลโลก

ลูกชายจอมทำลายสถิติ

ชนาธิป สรงกระสินธ์ เดินหน้าสร้างและทำลายสถิติมากมาย เริ่มตั้งแต่การพาทีม ร.ร.พณิชยการราชดำเนิน คว้าแชมป์ฟุตบอล 18 ก หลังจากมีการรวมเอาทีมขาสั้นเล่นกับทีมระดับอาชีวะศึกษา  จากนั้นก็พาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ซึ่ง 2 ครั้งก่อนหน้านั้นไทยตกรอบแรก ก่อนที่จะประสบความสำเร็จต่อในแชมป์ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์

ขณะเดียวกันฟุตบอลเอเอฟเอฟซูซูกิ คัพ ที่ไทยไม่ได้แชมป์มา 10 ปี 5 สมัย ก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้ในปี 2012 พร้อมรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมอายุน้อยที่สุดตั้งแต่จัดการแข่งขันมาด้วยวัย 21 ปี ส่วนในปี 2014 ก็ยังคงสามารถพาทีมคว้าแชมป์พ่วงด้วยตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมอีกหนึ่งสมัย  เช่นเดียวกับการคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ  ครั้งที่ 44 ที่ไทยไม่ได้แชมป์มา 9 ปี ก็สามารถร่วมฉลองความสำเร็จด้วยเช่นกัน ส่วนอีกหนึ่งรายการในการรับใช้ทีมชาติคือรายการฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ก็สามารถพาทีมผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเอเชียได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของตัวเองและครั้งที่สองของทีมชาติไทย

ด้านผลงานระดับสโมสรนอกจากจะพาทีม "มังกรไฟ"บีอีซี เทโรฯ คว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ ลีกสมัยเยาวชน แล้ว แชมป์รายการใหญ่ๆที่สโมสรห่างหายไปนาน 12 ปี  "เมสซี่เจ"ก็สามารถ พาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ 2014 ได้สำเร็จ ส่วนในปี 2016 เมื่อโยกไปเล่นให้เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็ยังสามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้อย่างยิ่งใหญ่หลังจากที่สโมสรห่างหายความสำเร็จไปถึง 3ปีบนเวทีลีกสูงสุด อีกทั้งยังเดินหน้าพาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพร่วม และปี 2017 ยังสามารถพาทีม "กิเลนผยอง"ทยานสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรกในรายการศึกฟุตบอลเอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก 2017 พร้อมกับคว้ารางวัลแมนออฟเดอะแมตซ์ถึง 3 เกม มากสุดในบรรดานักเตะไทยที่เล่นรายการนี้

3.5 หมื่นก้อนแรกจอดรถกดเงินให้ครอบครัว

ช่วงเวลาเริ่มต้นของชีวิตนักฟุตบอลอาชีพ  ชนาธิป ได้เซ็นสัญญากับเทโรฯ พร้อมกับรับค่าเหนื่อยเบ็ดเสร็จในช่วงแรกอยู่ที่ 15,000 บาท  โดยมีอยู่วันหนึ่งที่ครอบครัวอยู่กันครบทั้งพ่อแม่ลูกระหว่างเดินทาง "เมสซี่เจ" บอกให้พ่อจอดรถบริเวณตู้เอทีเอ็มเพื่อกดตัง ชนาธิป นำเงินก้อนแรกจากฟุตบอลอาชีพจำนวน 3.5 หมื่นบาท ส่งมอบให้กับพ่อแม่พร้อมกับบอกว่านี่คือเงินก้อนแรกของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เงินก้อนดังกล่าวถูกเก็บไว้เป็นอย่างดี เพราะพ่อก้องภพ รู้ดีว่าลูกลำบากมาก ช่วงของการเริ่มต้นชีวิตนักเตะ ต้องรวมตัวกับเพื่อน 5 คน นั่งแทกซี่จากพุทธมณฑลสาย 2 ไปเหม่งจ๋ายทุกวันเพื่อรีบไปขึ้นรถบัสสโมสรลงทำการฝึกซ้อม เงินก้อนดังกล่าวถูกแปรเปลี่ยนรวมกับเงินที่เก็บออมสะสมเป็นเงินดาวน์รถเก๋งขนาดเล็กคันแรกในชีวิตนำพา ชนาธิป สู่สนามฝึกซ้อม

ไม่เคยให้ขายของ แทนตัวเองว่า "หนู"

แม้ว่าจะโด่งดังมีชื่อเสียงระดับทวีป แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ "เมสซี่เจ"ชนาธิป สรงกระสินธ์ เดินหน้าปฏิบัติกับพ่อแม่อย่างต่อเนื่องด้วยการพูดแทนตัวเองว่า "หนู" ทุกครั้งจนถึงทุกวันนี้  เขายังคงเป็นที่เด็กที่น่าเอ็นดูเสมอของคนในครอบครัวไม่ว่าจะเติบใหญ่แค่ไหน? บนถนนสายฟุตบอลอาชีพ และเข้ารับราชการตำรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจนยื่นใบลาออกทุกอย่างยังคงปฏิบัติกับพ่อแม่เหมือนเดิมรวมไปถึงไม่ทำให้พ่อแม่เสียใจ อีกเรื่องที่เจ้าตัวไม่เคยปฏิบัติคือช่วยพ่อแม่ขายของ ครอบครัวมองว่าถ้าลูกมีฝันอะไรให้เขามุ่งมั่นอย่างเต็มที่

สนามฟุตบอล อนุสรณ์ความตั้งใจ

สุดท้าย"เมสซี่เจ"ชนาธิป สรงกระสินธ์  สามารถทำฝันของพ่อที่เคยคุยกันไว้ตอนเด็กว่า ถ้าติดทีมชาติหรือมีเงินเยอะๆ จากการเป็นนักฟุตบอลจะนำเงินจำนวนหนึ่งมาสร้างสนามฟุตบอลให้พ่อก้องภพสอนเด็กๆแถวๆสามพรานบ้านเกิดให้เก่งกาจในชั้นเชิงของฟุตบอล ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่ทั้งสองหวัง เงินจำนวนหลักสิบล้านที่ลงไปอาจจะดูมากมาย แต่ว่าสถานที่แห่งนี้คือ อนุสรณ์แห่งความตั้งใจของทั้งสองคน  และเป็นสิ่งยืนยันว่าถ้ามีความอดทนฝันทุกอย่างจะอยู่ในมือเรา

ชื่อของ ชัยยะ มหาปราบ ผู้ตัดสินชื่อดัง ร่วมคัดเลือกอยู่ด้วย แต่ก็เรียนไปจนถึง ป.5 ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นคุณพ่อเสียใจมากที่ไม่ได้ไปต่อแต่ก็กล้ำกลืนความรู้สึกหาอนาคตให้ลูกใหม่ไปเรียนที่ เพ็ญสมิทธิ์ จนจบ ป.6 และโยกกลับไปเรียนที่ นครปฐม จนจบ ม. 3 เพื่อดูแลด้านฟุตบอลและการพัฒนาร่างกายอย่างเต็มที่ ช่วงเรียนที่ ร.ร.สามพรานวิทยาลัย "เมสซี่เจ" เรียนอยู่ห้อง 8 สอบได้อันดับ 1-3 ของห้องตลอด  หลังจบ ม. 3 ชนาธิป เคยถูกผลักดันให้ไปเรียนที่ อสช.ศรีราชา จากการการันตีฝีเท้าของ "โค้ชอั๋น"สมรักษ์ รุ่งสว่าง แต่ก็โชคร้ายจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย ชลบุรี ยุบทำให้ช้างเผือกถูกโยกมาล้นหมดโควตา  ซึ่งก่อนตัดสินใจเข้า พ.ราชดำเนิน ธนบุรี ชนาธิป ไปใช้ชีวิตฟุตบอลกินนอนกับ อสช.ธนบุรี  1 สัปดาห์ แต่ไม่เข้าตา ซึ่ง ม.สาธิต วิโรจนะ ผู้ดูแลช้างเผือก "เจ้าสัวน้อย" ก็ยังอดเสียดายมาจนถึงทุกวันนี้




 








ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »