ยูเลี่ยน โพลเลอร์สเบ็ค นายทวารมือดีของเยอรมัน งัดฟอร์มหนึบหลังเซฟสองจุดโทษพาทีมเอาชนะ "สิงโตคำราม" อังกฤษ ไปได้ 4-3 หลังเสมอกันในเวลา 2-2 ส่งผลให้ "อินทรีเหล็ก" อดีตแชมป์เมื่อปี 2009 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ส่วนทัพสิงโตจอดแค่รอบตัดเชือกเป็นสมัยที่ 6 แล้ว ในศึกยู-21 ชิงแชมป์ยุโรป รอบสุดท้าย ที่ประเทศโปแลนด์ เมื่อคืนวันอังคารที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ฟุตบอล  ยู-21 ชิงแชมป์ยุโรป 2017
รอบรองชนะเลิศ
วันอังคารที่ 27 มิถุนายน 2560
อังกฤษ 2 - เยอรมัน 2
(เยอรมัน ชนะจุดโทษ 4-3)

        สนาม : สตาดิโอน ไมจ์สกี้, ตีคี่ ประเทศโปแลนด์ (สนามกลาง)

         ข่าวร้ายของผู้จัดการทีม ไอดี้ บูธรอยด์ คือแนวรุกคนสำคัญ เนธาน เร้ดมอนด์ ไม่ผ่านความฟิต ยังดีที่ เนธาเนียล ชาโลบาห์ หายเจ็บโคนขาหนีบทันเวลา

         ฝั่ง เยอรมัน ต้องเปลี่ยนรายชื่อเซนเตอร์ฮาล์ฟก่อนเขี่ยแค่ 10 นาทีเพราะ นิคลาส สตาร์ค เจ็บเท้าขวาให้ กีเดี้ยน ยุงก์ ลงสนามแทน

         ''สิงโตน้อย'' บี้จะเอาประตูแต่หัววันนาที 4 เตะมุมฝั่งขวา เจมส์ วอร์ด-พราวส์ เปิดโด่งถึงเสาไกล ชาโลบาห์ โดดโขกข้ามคาน ต่อด้วยฟรีคิกจากนั้น 2 นาทีก็เป็นห้องเครื่องจากเชลซีโหม่งเผาขนหลุดกรอบ

         โอกาสของ เยอรมัน นาที 17 มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ เลี้ยงจี้มาพื้นที่อันตรายตักเข้ากรอบให้ แซร์จ นาบรี้ วิ่งตัดจากซ้ายโฉบถึงก่อนนายด่าน จอร์แดน พิคฟอร์ด โหม่งผ่านมือไปแล้วแต่เฉี่ยวเสาขวาออกหลังแค่ฟุตเดียว

         ทีมชาติอังกฤษตอบโต้ทันควันนาที 18 ฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวาของ วอร์ด-พราวส์ ปั้นโค้งถึงปากประตู แทมมี่ อับราฮัม โหม่งไร้ตัวประกบแค่ 10 หลาแต่ก็ยังตรงตัว โพลเลอร์สเบ็ค ผวาทุบทิ้งได้คาบเส้นพอดี

         เปิดแลกสนุกนาที 32 ลูกทีมของเทรนเนอร์ สเตฟาน คุนท์ซ ขึงเกมรุกกดดันหน้ากรอบ เยเรมี่ โทลยาน ยิงไกล 25 หลากำลังจะฮุกเสียบใต้คาน จอร์แดน พิคฟอร์ด ซูเปอร์เซฟโดดปัดทิ้งออกหลังเสียเตะมุม

         กระทั่งนาที 36 ''อินทรีน้อย'' เบิกสกอร์ขึ้นนำ 1-0 การเซตบอลเร็วหน้ากรอบ มักซ์ เมเยอร์ แทงทะลุช่องเซนเตอร์ฮาล์ฟให้ โทลยาน หลุดไปสุดเส้นฝั่งขวาแล้วครอสถึง ดาวี่ เซลเค่ ทิ้งตัวโหม่งปากประตูย้อนศรเสียบสามเหลี่ยม

         ก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาทีอังกฤษตีเสมอ 1-1 วอร์ด-พราวส์ เปิดเตะมุมฝั่งขวาลึกถึงเสาไกล คาลั่ม แชมเบอร์ส โหม่งจังหวะแรกติดบล็อกกระดอนมาซ้ำดาบสองก็ถูกขวาง ลูกปลิ้นมาเข้าทาง เดมาไร เกรย์ ฝั่งขวาแปแค่ 8 หลาพุ่ง

เสยใต้คาน พร้อมเสียงหมดหวีดหมดครึ่งเวลาไม่กี่อึดใจต่อมา

         กลับมาเล่นต่อนาที 51 อังกฤษ แซงนำ 2-1 ความผิดพลาดของแนวรับเยอรมัน เสียบอลแถวเขตโทษตัวเองถูก วิลล์ ฮิวจ์ ฉกได้โยกหลอกตัวประกบแล้วปาดเรียดถึง แทมมี่ อับราแฮม แปเผาขน 6 หลาตุงตาข่าย

         อดีตแชมป์ปี 2009 อยู่ไม่ติดเปลี่ยนเอาศูนย์หน้า เฟลิกซ์ พลัตต์ ลงเล่นแทน เซลเค่ นาที 63

         ใช้เวลาในสนามแค่ 7 นาที หัวหอกวัย 21 กะรัตก็มีชื่อเป็นคนตีเสมอ 2-2 เตะมุมฝั่งซ้าย มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ เปิดมาที่เสาแรก เฟลิกซ์ พลัตต์ ฉีกตัวประกบสะบัดศีรษะโหม่งแรงพุ่งเสียบใต้คาน

         แฟนบอลเยอรมันเฮเก้อนาที 78 การขึ้นบอลทางขวา เยเรมี่ โทลยาน ครอสอย่างแม่นยำเข้าศรีษะ เฟลิกซ์ พลัตต์ โขกเล่นทางกระดอนเสียบเสาไกลทว่ามีธงล้ำหน้าไปก่อน

          ท้ายเกมนาที 85 เนธาน เร้ดมอนด์ สำรองของอังกฤษได้กลับตัวยิงหน้ากรอบระยะ 21 หลา ลูกพุ่งเรียดเฉี่ยวเสาซ้ายฟุตเดียว หมดเวลาปกติเสมอ 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษ

         จบเกม 120 นาที ทั้งสองทีมเสมอกัน 2-2 ทำให้ต้องยิงจุดโทษตัดสิน ผลปรากฏว่า เยอรมันชนะจุดโทษ 4-3 โดย นาเดียม อามิรี่ มิดฟิลด์ตัวสำรองยิงจุดโทษเป็นคนสุดท้ายให้เยอรมัน ส่วนอังกฤษ คนสุดท้ายที่ยิงพลาดคือ เนธาน เร้ดมอนด์ ปีกตัวสำรองยิงไปติด ยูเลี่ยน โพลเลอร์สเบ็ค

         ส่งผลให้เยอรมันผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ จะพบผู้ชนะระหว่าง สเปน หรือ อิตาลี ที่ คราคอฟ สเตเดี้ยม เมืองคราคอฟ ประเทศโปแลนด์ คืนวันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน เวลา 01.45 น.

        รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

         อังกฤษ  : จอร์แดน พิคฟอร์ด - เมสัน โฮลเกต, คาลั่ม แชมเบอร์ส, อัลฟี่ มอว์สัน, เบน ชิลเวลล์ - เจมส์ วอร์ด-เพราส์ (กัปตันทีม), เนธาเนียล ชาโลบาห์ (ยาค็อบ เมอร์ฟี่ น.66), ลูอิส เบเกอร์ - วิลล์ ฮิวจ์ (จอน สวิฟท์ น.86) -  แทมมี่ อับราแฮม, เดมาไร เกรย์ (เนธาน เร้ดมอนด์ น.73)

         เยอรมัน  : ยูเลี่ยน โพลเลอร์สเบ็ค - เยเรมี่ โทลยาน, มาร์ค โอลิเวอร์-เคมพ์ฟ, กีเดี้ยน ยุงก์ (ธิโล่ เคห์เรอร์ น.80), ยันนิค แกร์ฮาร์ดท์ - ยานิค ฮาเบเรอร์ - มักซิมิเลี่ยน ฟิลิปป์, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ (กัปตันทีม), มักซ์ เมเยอร์, แซร์จ นาบรี้ (นาเดี้ยม อมิรี่ น.87) - ดาวี่ เซลเค่ (เฟลิกซ์ พลัตต์ น.63)

         ผู้ตัดสิน : เกดิมินาส มาเซก้า (ลิทัวเนีย)