นายด่านร่างโย่งเจ้าของความสูง 195 ซม. โชว์ซูเปอร์เซฟแบบจั๋งๆสองครั้งจากจังหวะ วิลฟรีด ซาฮา หลุดไปดวลเดี่ยว และลูกโขกเต็มศีรษะของ คริสติย็อง เบนเตเก้ ช่วยให้น้องใหม่อย่างพวกเขาเก็บสามคะแนนและไม่เสียประตูอีกต่างหาก

แบ๊กขวา : แมทธิว โลว์ตัน (เบิร์นลีย์)
เล่นใช้ได้เลยสำหรับแบ๊กวัย 28 ปี เปอร์เซ็นต์ผ่านบอลสูงถึง 90% สูงสุดในแผงแบ๊กโฟร์ของทีม และทำได้ 1 แอสซิสต์กับการเปิดให้ แซม โว้กส์ ขวิดประตูเบิกร่อง

เซนเตอร์ฮาล์ฟ : อาเหม็ด เฮกาซี่ (เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน)
แนวรับร่างใหญ่เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเกมอย่างไม่ต้องสงสัย เฮกาซี่ โขกประตูโทนช่วยให้ เวสต์บรอมวิช ประเดิมสามแต้มในรังด้วยการเอาชนะ บอร์นมัธ 1-0

เซนเตอร์ฮาล์ฟ : ฟิล โจนส์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
แม้ทีมจะดาหน้าบุกใส่คู่แข่งอย่างไม่ลืมหูลืมตา แต่การจัดระเบียบเกมรับของ โจนส์ นั้นทำได้ดี เด่นๆเลยคือการผ่านบอลที่แม่นยำถึง 92% สูงที่สุดในทีม รวมไปถึงจัดการลูกโด่ง 4 ครั้ง, เข้าปะทะสำเร็จ 2 ครั้ง, เคลียร์บอลอันตราย 4 และตัดบอล 3 ครั้ง เก็บคลีนชีตไปได้แบบสวยงาม
   
แบ๊กซ้าย : อเล็กซ์ อ๊อกเลด-แชมเบอร์เลน (อาร์เซนอล)
ลากาแซตต์ ยิงเปิดตัว, ชาก้า ทำสองแอสซิสต์, ชิรูด์ พังประตูชัยล้วนสำคัญ แต่คนที่ปิดทองหลังพระ วิ่งได้ไม่มีหมด และน่าได้รับคำชมเห็นจะเป็นมิดฟิลด์สารพัดประโยชน์รายนี้
เจ้าอ๊อกซ์ เกมนี้ประจำการที่วิงแบ๊กด้านซ้าย และเล่นได้อย่างน่าประทับใจ โอกาสยิง 6 ครั้ง, ผ่านบอลสำเร็จ 78%, ผ่านบอลสำคัญ 2 ครั้ง, เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งสำเร็จ 89%, ป้องกันลูกโด่ง 4 ครั้ง, เข้าปะทะสำเร็จ 3 ครั้ง, เคลียร์บอลอันตราย 4 ครั้ง และตัดบอล 3 ครั้ง เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้ อาร์เซนอล โกงความตายพลิกกลับมาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ไปอย่างลุ้นระทึก 4-3

กองกลาง : ดาบิด ซิลบา (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
เหมือนจะง่ายแต่ยากเอาการ ! เป็นเกมที่ "เรือใบบุญทุ่ม" อึดอัดสุดๆกว่าจะเจาะเกมรับที่เหนียวแน่นของทีมน้องใหม่ ไบร์ทตัน ได้ต้องรอถึงนาที 70 และ 75 ตามลำดับ
"ทิดซิลบา" บัญชาเกมบุกได้เนียนตา เมื่อคู่แข่งเผลอพลาด ซิลบา จัดให้ทันทีกับการจ่าย คิลเลอร์ พาส ให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ยิงประตูเบิกร่อง ก่อนสุดท้าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะบุกมาเอาชนะ ไบร์ทตัน ได้เบาๆ 2-0

กองกลาง : เวย์น รูนี่ย์ (เอฟเวอร์ตัน)
ฉลองการกลับบ้าน 13 ปีได้อย่างสมเกียรติ! อีกหนึ่งวันที่น่าจดจำสำหรับ "เสี่ยหมู" เมื่อเจ้าตัวหวนกลับมาสวมเสื้อสีน้ำเงินอีกครั้งในเกมลีกหลังจากบ้านเก่านี้ไปถึง 13 ปี และ รูนี่ย์ ก็คายพิษสงโขกประตูโทนให้ เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านเอาชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0

กองกลาง : คริสเตียน เอริกเซ่น (ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์)
ค่าเหนื่อย 75,000 ปอนด์ น้อยมากๆถ้าเทียบกับฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวาแบบนี้ พ่อมดจากแดนโคนม โอกาสยิงประตู 6 ครั้ง, ผ่านบอลสำเร็จ 91%, ผ่านบอลสำคัญ 3 ครั้ง ซึ่ง 3 จาก 2 เป็นการแอสซิสต์ให้ เดเล่ อัลลี และ เบน เดวิส ยิงคนละประตูให้ สเปอร์ส บุกมาเอาชนะทีมน้องใหม่หน้าเก่าอย่าง นิวคาสเซิ่ล ได้ถึงรัง 2-0

กองกลาง : เฮนดริก มคิตาร์ยาน (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
บอลที่ออกจากเท้าของ "มิกกี้" นั้นคมกริบเอามากๆ โดยเกมนี้เจ้าตัวมีโอกาสทำประตู 3 ครั้ง, ผ่านบอลสำเร็จ 90%, ผ่านบอลจังหวะสำคัญถึง 6 ครั้ง ซึ่งนั่นทำให้เขาได้ 2 แอสซิสต์กับการเปิดให้ ลูกากู โขกและจ่ายให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หลุดเข้าไปยิงประตูได้อีกด้วย
 
กองหน้า : โรเมลู ลูกากู (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
เปิดตัวได้แจ่มจันทร์เมืองแมนเชสเตอร์จริงๆสำหรับหัวหอกค่าตัว 75 ล้านปอนด์ เมื่อ ลูกากู จัดไปเบาๆสองเม็ดให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดถิ่นถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-0 และเป็นการยิงใส่ทีมขุนค้อนได้อีกแล้วที่ 10 ประตูรวมทุกรายการ เรียกได้ว่าเจอทีมนี้ "ลูลู่" ลูบปากรอเลย

กองหน้า : แซม โว้กส์ (เบิร์นลีย์)
แข็งแกร่ง กำยำ ลูกกลางอากาศดวลกับแนวรับ เชลซี ได้สนุกสูสี เกมนี้ โว้กส์ ยิง-โขกช่วยให้ เบิร์นลีย์ สร้างเซอร์ไพรส์บุกชนะแชมป์เก่า เชลซี ไปแบบสุดมันส์ 3-2